‘อนุสรณ์’ ชี้เศรษฐกิจฟุบ ‘ไทย’ เกิดภาวะว่างงานแฝงมากกว่า 5 ล้านคนแนะรัฐแก้ปัญหาด่วน

รศ.ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการม.รังสิต กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่หดตัวอย่างรุนแรงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ทยอยเลิกจ้างในธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและกิจการต่อเนื่อง สายการบิน ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์ ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ธุรกิจบันเทิงและจัดงานอีเวนท์ต่างๆ เป็นต้น ส่งผลให้ทำงานต่ำระดับหรือการว่างงานแฝงเพิ่มขึ้นกว่า 5 ล้านคน ขณะที่นักศึกษาจบใหม่มากกว่า 40-50% ไม่สามารถหางานได้ในระยะ 1-2 ปี และลูกจ้างรายวันในภาคท่องเที่ยวส่วนหนึ่งกลับต่างจังหวัด ดังนั้นรัฐบาลควรจัดโครงการให้เกิดการจ้างงานในภาคเกษตรกรรม เพราะลูกจ้างส่วนใหญ่ที่ถูกเลิกจ้างมักมีอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งคนหนุ่มสาวย่อมทำไม่ได้ และควรส่งเสริมให้เข้าถึงสินเชื่อในการซื้อเครื่องจักรการเกษตรต่างๆ

ที่มา: https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2959915

ยอดขายซีเมนต์ของเวียดนาม ‘พุ่ง’ แม้เผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19

นาย Luong Duc Long เลขาธิการสมาคมปูนซีเมนต์เวียดนาม (VNCA) เปิดเผยว่ายอดขายซีเมนต์ของเวียดนามในช่วง 8 เดือนแรกของปีนนี้ แตะ 707 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออุตสาหกรรมอื่นๆ โดยจากจำนวนทั้งหมดนั้น ปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 27.23 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% เนื่องจากกำลังซื้อของตลาดส่งออกหลักหลายประเทศกลับมาฟื้นตัว เช่น สหรัฐฯ แคนาดาและจีน อีกทั้ง ความต้องการผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ในตลาดข้างต้นเพิ่มขึ้นและแนวโน้มของราคาซีเมนต์ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะเดียวกันการบริโภคในประเทศกลับลดลงเพียงเล็กน้อย 5% อยู่ที่ 43.54 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ มองว่าการส่งออกยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตอุตสาหกรรมซีเมนต์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และความแข็งแกร่งของการส่งออกซีเมนต์ของเวียดนามนั้น เป็นผลมาจากจีนปิดโรงงานซีเมนต์ สาเหตุสำคัญมาจากประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1035871/sales-of-vietnamese-cement-products-rise-amid-covid-19-pandemic.html

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้เวียดนามอาจดึงดูดเม็ดเงิน FDI ปีนี้ แตะ 30 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่าเวียดนามอาจดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) กว่า 30 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงสัญญาเขิงบวกจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่านักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ด้วยมูลค่า 19.12 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค. ทั้งนี้ คุณ Nguyen Van Toan รองประธานสมาคมผู้ลงทุนในต่างประเทศของเวียดนาม กล่าวว่าแม้จะมีมาตรการเว้นระยะทางสังคม แต่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงเล็กน้อยเพียง 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะทุนจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น 16.3% และการเบิกจ่ายทุน FDI อยู่ที่ 11.58 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2%

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-may-attract-us30-billion-in-fdi-this-year-experts-892505.vov

อินเดียยืดเวลานำเข้าถั่วแระเมียนมา หนุนราคาพุ่งเป็น 2 เท่า !

ผู้ค้าในถั่วมัณฑะเลย์ เผย ราคาของถั่วแระเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหลังจากข่าวการขยายเวลาการนำเข้าของอินเดียแพร่กระจายออกไป ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวของเดือนมีนาคม ราคาถั่วแระอยู่ที่ 6,800 จัตต่อ 3 ถุงตะกร้า หลังจากข่าวยืดเวลาการนำเข้า ราคาพุ่งขึ้นเป็น 135,000 จัตต่อถุง โดยอินเดียขยายระยะเวลาการนำเข้าจากเดือนตุลาคมเป็นธันวาคม 64 นอกจากนี้ ยังมีผลมาจากค่าเงินจัตที่อ่อนค่าและความต้องการที่ที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรพอใจกับราคาที่เพิ่มขึ้น โดยตลาดถั่วแระเมียนมาอาศัยอินเดียเป็นหลัก การปลูกถั่วแระส่วนใหญ่มักพบในตอนบนของภูมิภาค เช่น มะกเว มัณฑะเลย์ และซะไกง์ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้สภาพอากาศต้องเอื้ออำนวยจะทำให้ถั่วแระเติบโตและให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/pigeon-pea-prices-double-on-extension-of-import-validity-period-by-india/?__cf_chl_managed_tk__=pmd_B7qlq6wvmcQXIk4pOwFeaKVO9EufyEzJ3z4KoOpIf7o-1632320088-0-gqNtZGzNA5CjcnBszTAl#article-title

ทางการกัมพูชารายงานตัวเลขการท่องเที่ยว ในช่วงเดือนกันยายน

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา รายงานถึงจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศราว 79,015 คน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวคิดเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ (ชาวกัมพูชา) 77,804 คน และเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 1,211 คน โดยถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ ในช่วงของการแพร่ระบาด ซึ่งกรมการท่องเที่ยวจังหวัดและเทศบาลทุกแห่งได้ส่งเสริมและดำเนินการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐาน (SOP) ที่กระทรวงการท่องเที่ยวประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564 เพื่อให้การดำเนินงานของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นไปอย่างปกติใหม่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50939364/almost-80000-tourists-toured-cambodia-in-the-third-weekend-of-september/

ADB ปรับลดคาดการณ์ GDP กัมพูชา เหลือร้อยละ 1.9

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปีนี้ลงเหลือร้อยละ 1.9 จากการคาดการณ์ในเดือนเมษายนที่คาดการณ์การเติบโตไว้ที่ร้อยละ 4 โดยในปี 2020 เศรษฐกิจกัมพูชาหดตัวที่ร้อยละ 3.1 จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งธนาคาร ADB กล่าวว่าการระบาดที่ยืดเยื้อของโควิด-19 เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทางธนาคารปรับลดการประมาณการณ์ลง อีกทั้งยังรายงานเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.9 โดยทางการกัมพูชาพยายามเป็นอย่างมากในการแก้ปัญโควิด-19 ด้วยการเร่งฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งปัจจุบันได้ทำการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว มากกว่า 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50939651/adb-slashes-kingdoms-gdp-forecast-to-1-9-due-to-covid/

ชาติอาเซียนเริ่มเปิดประเทศ ละทิ้งหลักปลอดโควิด หลังผ่านจุดพีค เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อยู่ร่วมกับไวรัส

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า หากเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยว ทั้งที่ประชาชนในประเทศที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ครบถ้วน ยังมีจำนวนต่ำอยู่ อาจทำให้ระบบสาธารณสุขต้องรับผู้ป่วยโควิดจนล้นมืออีกครั้ง ด้านสำนักข่าว CNN รายงานว่า โควิด-19 ได้ระบาดหนักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เนื่องจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ Delta ที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว แต่หลังจากใช้มาตรการล็อกดาวน์ หรือ จำกัดการเคลื่อนที่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ขณะนี้หลายชาติในอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย กำลังละทิ้งนโยบาย “Zero-Covid” หรือ “โควิดเป็นศูนย์” หันมาหาทางใช้ชีวิตอยู่กับโควิด-19 ให้ได้ และกำลังมองหาการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยการเปิดพรมแดนรับนักเดินทางจากต่างประเทศอีกครั้ง โดยจุดสูงสุดของการระบาดเพิ่งผ่านพ้นไป ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ก็ยังต่ำมากในหลายพื้นที่ แต่รัฐบาลหลายชาติในอาเซียน ก็เตรียมจะเปิดประเทศรับนักเดินทางต่างชาติอีกครั้งแล้ว

ที่มา : https://www.tnnthailand.com/news/world/91673/

สะพานบ่อแก้ว-ไซยะบุรี แล้วสำเร็จไปแล้วกว่า 66 เปอร์เซ็นต์

สะพานคนทึน-ห้วยแก้ว ซึ่งทอดข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมจังหวัดบ่อแก้วและไซยะบุรี เสร็จสมบูรณ์แล้วกว่า 66 % การก่อสร้างโครงการเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลลาวเป็นมูลค่ากว่า 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 36 เดือน หลังจากสร้างแล้วเสร็จ สะพานจะมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคโดยการเพิ่มการไหลเวียนของผลิตภัณฑ์ ให้ทางลัดสำหรับยานพาหนะที่วิ่งผ่านพื้นที่ และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างลาวและไทยทั้งนี้ยังเป็นไปแผนยุทธศาสตร์ชาติที่จะนำพาสปป.ลาวสู่ประเทศที่เชื่อมต่อการขนส่งระดับภูมิภาค เป็นการส่งเสริมขนส่งในประเทศและการเชื่อมต่อการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/09/21/bokeo-xayaboury-bridge-now-over-66-percent-completed/

ข่าวดี! เอฟทีเอ อาเซียน-ฮ่องกง เพิ่มความร่วมมือทางศก.อีก 5 สาขา จูงใจลงทุนแรงสุด

นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นหัวหน้าผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมหารือรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน – ฮ่องกง ครั้งที่ 5 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยหารือในประเด็นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน–ฮ่องกง (AHKFTA) และความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน–ฮ่องกง (AHKIA) ซึ่งมีผลบังคับใช้กับทุกภาคีสมาชิกแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้

ทั้งนี้ นายสรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้เพิ่มสาขาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการอีก 5 สาขา ได้แก่ มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรฐาน/กฎระเบียบทางเทคนิค/กระบวนการประเมินความสอดคล้อง ทรัพย์สินทางปัญญา เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการส่งเสริมการลงทุน จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 5 สาขา ได้แก่ พิธีการศุลกากร บริการวิชาชีพ การอำนวยความสะดวกทางการค้า/โลจิสติกส์ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสาขาความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นี้จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจของไทยและอาเซียนในตลาดโลกได้

ที่มา : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2950650

‘บ.ไฟฟ้าเวียดนาม’ ลงนามสัญญาโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำในเนปาล

เมื่อวันจันทร์ (20 ก.ย.) บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมของเวียดนาม (PECC1) ได้ลงนามในสัญญาเพื่อให้บริการและออกแบบโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำในเขตอำเภอตะนะหุ ประเทศเนปาล โดยสัญญาดังกล่าวได้รับการลงนามระหว่างบริษัท Sond Da Corporation ของเวียดนามและบริษัท Kalika ของเนปาล ทั้งนี้ โครงการ “Tanahu” มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงาน โดยเฉพาะฤดูหนาวที่แห้งแล้ง และลดการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล นอกจากนี้ นาย Nguyễn Hữu Chỉnh ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัทฯ กล่าวในงานแถลงข่าวว่านับเป็นก้าวสำคัญของการร่วมมือทั้งสองฝ่าย และดึงนำทรัพยากรบุคคลที่ดีที่สุดมาทำโครงการดังกล่าว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1035893/viet-nams-power-company-seals-contract-for-hydropower-project-in-nepal.html