ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา กำหนดนโยบายรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ตัดสินใจกำหนดนโยบายที่จะรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงไตรมาสถัดไป โดยการตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 56 ที่จัดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึง NBC จะยังคงเสริมสภาพคล่องในระบบต่อไปผ่าน Liquidity-providing collateralized operations (LPCO) เพื่ออัดฉีดเงินเรียลเข้าสู่ระบบตามความต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น  โดยผู้ว่าการกล่าวว่าในปี 2020 มูลค่าของเรียลต่อดอลลาร์มีเสถียรภาพค่อนข้างดีแม้จะอ่อนค่าลงเล็กน้อย (น้อยกว่าร้อยละ 1) ซึ่งทั้งในอดีตและปัจจุบัน NBC พยายามลดหรือจำกัดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนด้วยการใช้เครื่องมือหลายอย่างเพื่อดูดซับหรืออัดฉีดสภาพคล่องภายในระบบเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50922563/cambodian-monetary-policy-to-maintain-exchange-rate-stability/

เกษตร ถก อาเซียน +3 ถกปัญหาโควิดกระทบความมั่นคงอาหาร

นายระพีภัทร จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย (SOM-AMAF Leader) เข้าร่วมการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 20 สมัยพิเศษ (Special SOM-20th AMAF Plus 3) ผ่านการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าของกิจกรรมความร่วมมืออาเซียนบวกสามด้านอาหาร เกษตร และป่าไม้ ภายใต้ ASEAN Plus Three Cooperation Strategy (APTCS) Framework on Food, Agriculture, and Forestry และรับทราบผลการดำเนินงานขององค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียน+3 (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve: APTERR) และสำนักงานเลขานุการระบบข้อมูลสารสนเทศความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Food Security Information System: AFSIS) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยไทยได้กล่าวในที่ประชุมถึงสถานการณ์ปัจจุบันของวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบอาหารทั้งหมด ประเทศไทยเห็นควรส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของอาเซียนบวกสามมากยิ่งขึ้น ในด้านการแบ่งปันข้อมูลความมั่นคงด้านอาหารระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนบวกสาม การส่งเสริมความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาในด้าน Food system ความมั่นคงอาหาร

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/956592

เงินเฟ้อพุ่งสูงสุดรอบ 11 เดือน

อัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคม ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนสำนักงานสถิติลาวระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 118.51 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 4.7% โดยมีปัจจัยในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ผันผวนถือเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักของอัตราเงินเฟ้อในสปป.ลาว ความต้องการเงินตราต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐฯ จากความต้องการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมาก ค่าเงินกีบยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม แม้จะมีมาตรการของรัฐบาลในการจัดการกับประเด็นนี้ อัตรากการเพิ่มขึ้นในแต่ละหมวดที่เพิ่มขึ้นเป็นดังนี้ ค่าอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 4.44 % หมวดการสื่อสารและการขนส่งเพิ่มขึ้น 0.92% ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 25.44 เปอร์เซ็นต์ หมวดร้านอาหารและโรงแรมเพิ่มขึ้น 2.19% ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น 0.6% หมวดเสื้อผ้าและรองเท้าเพิ่มขึ้น 1.15% ค่าใช้จ่ายของใช้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น 0.44%

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Inflation_165.php

เวียดนามถูกจัดเป็นนำเข้ามะม่วงรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา

กัมพูชาส่งออกมะม่วงรวม 140,000 ตัน หรือร้อยละ 86.8 ของการส่งออกผลไม้ทั้งหมดไปยังเวียดนามในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของกัมพูชา ระบุว่า ทางการเวียดนามรายงานถึงปริมาณการส่งออกมะม่วง ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 248 หรือคิดเป็นปริมาณ 161,228 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนอกจากมะม่วงสดแล้วกัมพูชายังส่งออกแยมมะม่วงเกือบ 13,525 ตัน คิดเป็นการส่งออกไปยังเวียดนาม 77 ตัน, ไปยังประเทศไทย 1,000 ตัน และ ไปยังจีน 11,000 ตัน ในช่วง 7 เดือนแรกของปี โดยในปัจจุบันกัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกมะม่วงราว 126,668 เฮกตาร์ ส่งออกมะม่วงไปแล้ว 845,274 ตัน มูลค่ากว่า 473.2 ล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังเวียดนาม ไทย จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ รัสเซีย และฝรั่งเศส เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50921620/vietnam-biggest-buyer-of-cambodias-mangoes/

ภาคเอกชนไทยสนับสนุนการเข้าร่วมประชุม ATF 2022 ณ กัมพูชา

กัมพูชาได้เรียกร้องให้ภาคเอกชนไทยเข้าร่วมการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน “ASEAN Tourism Forum 2022” ซึ่งกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ โดยการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศในระหว่างและหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางการกัมพูชาได้นำเสนอเกี่ยวกับความพยายามในการควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 รวมถึงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เชิงนิเวศและชายฝั่ง เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทวิภาคี ผ่านการส่งเสริมแพคเกจทัวร์รวมกัน สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50921510/thai-private-sector-encouraged-to-attend-atf-2022-in-cambodia/

ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ชื่นชอบเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนาม

ตามข้อมูลของศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) เผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ญี่ปุ่นนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ มูลค่า 33.17 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะญี่ปุ่นลดการนำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์จากอินเดียอย่างมาก ถือเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวรายใหญ่ที่สุด ส่งผลให้มูลค่าลดลง 22.8% อยู่ที่ 19.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในทางตรงกันข้ามนั้น ญี่ปุ่นนำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์เพิ่มขึ้น 4.5% เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 12.92 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนแบ่งการตลาดของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนามสำหรับการนำเข้ารวมของญี่ปุ่น คิดเป็น 38.97% ของการนำเข้ารวม ตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค. สูงกว่า 33.09% เมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/more-japanese-consumers-prefer-vietnamese-cashew-nuts/206853.vnp

ธุรกิจสตาร์ตอัปยูนิคอร์นของเวียดนาม เตรียมเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ

VNG Corporation (VNG) บริษัทเทคโนโลยีของเวียดนาม ถือเป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นเตรียมพิจารณาเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาผ่านการระดมทุน “Special Purpose Acquisition Company” หรือเรียกว่า“SPAC” ด้วยมูลค่าราว 2-3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เดือนเม.ย. บริษัทใหญ่แห่งหนึ่งเปิดเผยว่าจะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ซึ่งคาดว่าจะระดมทุนได้ประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งบริษัท VNG และบริษัทข้างต้นไม่ได้ยืนยันในเรื่องนี้ แต่สำหรับบริษัท VNG แล้วนั้นการดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามแผนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในปี 2560 นายเล โฮง มิงห์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท VNG และนาย Bob McCooey รองประธานกลุ่ม NASDAQ  ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อเร่งกระบวนการเสนอขายหุ้น IPO

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-unicorn-seeks-ways-to-attract-capital-from-us-stock-market/206849.vnp

ราคามันฝรั่งในตลาดค้าปลีก พุ่ง !

ราคาของมันฝรั่งยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นของตลาด โดยปกติราคามันฝรั่งจะสูงเฉพาะในฤดูมรสุม แต่ปีนี้ราคามันฝรั่งเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 มันฝรั่งราคาอยู่ที่ 820 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กก.) ในตลาดค้าส่ง ต่อมาพุ่งขึ้นเป็น 1,270 จัตต่อ viss ณ สิ้นเดือนก.ค.64 ต่อมา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ราคามันฝรั่งอยู่ที่ 950 จัตต่อ viss ในตลาดค้าส่ง และพุ่งขึ้นเป็น 1,600 จัตต่อครั้งในตลาดค้าปลีก นอกจากนี้ มาตรการควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในประเทศมีความผันผวนมาก เช่น หัวหอมและกระเทียมมีแนวโน้มสูงขึ้น ราคากระเทียมราคาจะเคลื่อนไหวในช่วง 2,600-4,800 จัตต่อ viss ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระเทียม (พันธุ์ Kyukok) ที่นำเข้าจากจีนขาดแคลนเนื่องจากการปิดด่านชายแดนส่งผลให้ราคาในตลาดค้าปลีกพุ่งสูงขึ้น ส่วนหัวหอมจากเมืองมยินจาน (Myingyan) ราคาอยู่ที่ 480-520 จัตขึ้นอยู่กับขนาด

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/potato-price-jumps-in-retail-market/#article-title

สธ.รับข้อเสนอผู้ประกอบการร้านอาหาร ชงศบค.ผ่อนคลาย

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยหลังผู้แทนสมาคมภัตตาคารไทยและอีก 8 สมาคม เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นข้อเสนอให้ผ่อนคลายมาตรการสำหรับร้านอาหารให้เปิดบริการได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกหลักการที่ต้องมีการดำเนินการเพื่อความปลอดภัย 3 ส่วน ได้แก่ 1.)การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี 2.)พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หากไม่ครบ 2 เข็ม ต้องตรวจด้วยชุดตรวจ ATK ทุก 3-7 วัน  3.) ลูกค้าต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน, ผู้ที่เคยติดเชื้อต้องหายแล้ว 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน, มีผลตรวจ ATK หรือตรวจก่อนเข้าใช้บริการ โดยระยะแรกจะเน้นในร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศและห้างสรรพสินค้า โดยจะเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในวันศุกร์ที่ 27 ส.ค. 64

ที่มา: https://www.posttoday.com/social/general/661429

รัฐบาลสปป.ลาวหารือแนวทางสนับสนุนสตาร์ทอัพธุรกิจในช่วงสถานการณ์โควิด-19

การดำเนินการเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ควบคู่ไปกับมาตรการและนโยบายเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ ถือเป็นประเด็นร้อนที่คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลกำลังถกเถียงกันอยู่ โดยมีนายกรัฐมนตรีพันคำ วิภาวัน เป็นประธาน คณะรัฐมนตรีเริ่มการประชุมประจำเดือน คาดว่าสมาชิกคณะรัฐมนตรีจะหารือถึงมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดกั้นกระแสการติดเชื้อ นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีจะหารือร่างแผนแม่บทเพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพและยังมีกำหนดจะอภิปรายร่างแผนพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปและหัตถกรรมสำหรับปี 2564-2568

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Covid_19_164.php