“เวียดนาม” ซื้อไฟฟ้าจากจีน เหตุบรรเทาปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าหนัก

บริษัท นอร์ทเทิร์ด พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ซื้อไฟฟ้าจากบริษัท Guangxi Power Grid ของจีน เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนนี้ บริษัทสัญชาติจีนจะเตรียมจัดหาไฟฟ้าให้กับเวียดนามโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ภาคเหนือของประเทศเวียดนามเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนพลังงาน 1,600-4,900 เมกะวัตต์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม เนื่องจากปัญหาความร้อน นอกจากนี้ การไฟฟ้าเวียดนามได้เสนอเรื่องไปยังบริษัท Vietnam Oil and Gas Group (PetroVietnam) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ให้ทำการจัดลำดับความสำคัญของการจัดหาก๊าซสำหรับการผลิตไฟฟ้า ท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-to-buy-electricity-from-china-to-ease-shortage-2145690.html

“อิออน” รุกเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้ามากกว่า 20 แห่งในเวียดนาม

AEON บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในญี่ปุ่น เตรียมเปิดศูนย์การค้าเพิ่มอีกในเวียดนาม และนำเข้าสินค้าเพิ่มจากเวียดนาม เพื่อจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ จากงานเลี้ยงรับรองของบริษัทอิออน ทางนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ชื่นชมบริษัทในการมีส่วนร่วมเชิงบวกและการพัฒนาภาคการค้าปลีกและภาคการส่งออกในเวียดนาม ตลอดจนเสนอแนะให้บริษัทเลือกเวียดนามเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก และเดินหน้าลงทุนศูนย์การค้าและเอาท์เล็ท มอลล์ในบริเวณชานเมือง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเสนอให้บริษัทอิออนนำเข้าสินค้าจากเวียดนามมากขึ้น เพื่อให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะสินค้าที่เวียดนามมีความแข็งแกร่ง เช่น เครื่องแต่งกาย รองเท้า ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและผลผลิตทางการเกษตร

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/companies/prime-minister-receives-japanese-corporate-executives-4607658.html

“เวียดนาม-แคนาดา” ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคี 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เวียดนามและแคนาดาได้ตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศ 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในระหว่างการประชุมของนาย ฝ่าม มีง จีง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และนาย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจากการประชุมสุดยอด G7 ที่ญี่ปุ่น ทั้งนี้ นาย จัสติน ทรูโด กล่าวว่าแคนาดาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเวียดนาม เช่นเดียวกับบทบาทและตำแหน่งของเวียดนามในเวทีโลก แสดงให้เห็นมาจากเวียดนามเป็นหนึ่งในสองประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับเชิญให้มาร่วมประชุม G7 นอกจากนี้ เวียดนามเป็นคู่ค้าทางการค้าชั้นนำของแคนาดาในกลุ่มประเทศอาเซียนตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่แคนาดาเป็นหนึ่งในคู่ค้านำเข้า 10 อันดับแรกของเวียดนาม

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/economy/vietnam-canada-to-increase-bilateral-trade-turnover-to-10b-4607655.html

“เวียดนาม” เตรียมสร้างโซล่าร์รูฟท็อบ

รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติแผนการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนสำหรับการผลิตไฟฟ้า รวมถึงการสร้างโซล่าร์รูฟท็อบสำหรับที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม แผนงานดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะยกระดับความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศและเตรียมจัดหาความต้องการใช้ไฟฟ้าให้เพียงพอในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เติบโตเฉลี่ยประมาณ 7% ต่อปีในช่วงปี 2564-2573

ที่มา : https://www.pv-tech.org/vietnam-to-develop-rooftop-solar-for-onsite-consumption-as-part-of-approved-energy-transition-plan/

“เวียดนาม” คาดเป็นผู้นำโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชีย

ดัชนีโลจิสติกส์ตลาดเกิดใหม่ประจำปี 2566 (Agility Emerging Markets Logistics Index 2023) เวียดนามขยับขึ้น 10 อันดับแรกของดัชนีตลาดโลก 50 แห่ง โดยขยับขึ้นหนึ่งอันดับเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และจากหลักเกณฑ์ของดัชนีดังกล่าว เวียดนามเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอยู่ในอันดับที่ 4 ของโลก ด้วยคะแนน 6.03 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 10) เป็นผลมาจากเวียดนามได้รับปัจจัยบวกจากจีนจากการย้ายฐานการผลิตระดับโลก ทั้งนี้ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีการขยายตัว 14-16% ต่อปี ซึ่งได้เสริมความแข็งแกร่งในฐานะหนึ่งในภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดและมีเสถียรภาพที่สุดในประเทศ โดยมีมูลค่ารวม 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1536733/viet-nam-expected-to-emerge-as-a-prominent-logistics-player-in-asia.html

“สวิตเซอร์แลนด์” นำเข้ากาแฟพุ่งจากเวียดนาม

สวิตเซอร์แลนด์นำเข้ากาแฟจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และนำเข้าส่วนใหญ่มาจากประเทศบราซิล โคลอมเบีย อินเดีย คอสตาริกาและเวียดนามในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยเฉพาะปริมาณการนำเข้ากาแฟจากเวียดนามที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4,820 ตัน คิดเป็นมูลค่า 10.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.6% และ 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาส่วนแบ่งทางการตลาดกาแฟของเวียดนาม พบว่าสวิตเซอร์แลนด์มีสัดส่วนการนำเข้ากาแฟจากเวียดนามเพิ่มขึ้นจาก 8.56% ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ขึ้นมาอยู่ที่ 9.17% ในไตรมาสแรกของปีนี้ นอกจากนี้ เวียดนามส่งออกกาแฟไปยังต่างประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 อยู่ที่ 552,610 ตัน ทำรายได้ราว 1.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะตลาดอินโดนีเซียและแอลจีเรียที่มีการเติบโตเป็นตัวเลขสามหลักเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 209% และ 126.8% ตามลำดับ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/switzerland-increases-coffee-imports-from-vietnam-post1020488.vov

“ภาคการลงทุนจากต่างประเทศ” – เครื่องยนต์สำคัญของการเติบโตทางศก.เวียดนาม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน กล่าวว่าจำนวนโครงการและเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ผลักดันให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม และด้วยนโยบายที่เปิดกว้างและบรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออำนวยในการทำธุรกิจ ตลอดจนเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพ ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำและประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ทั้งนี้ ตามข้อมูล ณ เดือน เม.ย. พบว่าเวียดนามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศกว่า 446 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่เวียดนามยังคงเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่ได้รับการลงทุนจากต่างชาติมากที่สุดในปี 2563 และสิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเวียดนามประสบความสำเร็จในการดึงดูดทรัพยากรจากต่างประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-likely-to-be-impacted-by-eu-carbon-tax-post1017645.vov

“โตโยต้าเวียดนาม” เผยเดือน เม.ย. ครองตลาดรถยนต์นั่งในเวียดนาม

โตโยต้าเวียดนาม (Toyota Vietnam) เปิดเผยว่าในเดือน เม.ย. มียอดขายรถยนต์นั่ง จำนวน 4,415 คัน รวมถึงแบรนด์หรูอย่างเลกซัส และขึ้นมาเป็นแบรนด์รถยนต์รายใหญ่ในตลาดรถยนต์นั่งในเวียดนาม โดยรถยนต์ “โคโรลล่า ครอส” และ “วีออส” ติด 1 ใน 10 อันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุด มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1,310 คัน และ 695 คัน ตามลำดับ ในขณะที่รถยนต์ “เลกซัส” ขายได้เพียง 168 คัน ส่งผลให้รถยนต์ในเวียดนาม มีจำนวนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 10,960 คัน นอกจากนี้ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) รายงานว่ายอดขายรถยนต์ทุกประเภท มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 22,409 คัน ลดลง 25% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน จากจำนวนยอดขายรถยนต์ดังกล่าวมาจากรถยนต์นั่ง 15,748 คัน รองลงมารถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 6,487 คัน และรถยนต์เฉพาะกิจ 174 คัน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/toyota-vietnam-tops-passenger-car-market-in-april-post1020260.vov

โรงงานรองเท้ายักษ์ใหญ่ในเวียดนาม ปลดพนักงานกว่า 5 พันคน

วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าว Taiwan News ของไต้หวัน เสนอข่าว Taiwan footwear titan Pou Chen to layoff 5,700 workers in Vietnam ระบุว่า Pou Yuen Vietnam บริษัทผลิตรองเท้าในเวียดนาม ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท Pou Chen ของไต้หวัน ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 5,744 คนในในสัปดาห์นี้ โดย Pou Yuen Vietnam เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ และจำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง คิดเป็นร้อยละ 10 ของพนักงานทั้งหมดในบริษัท โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง จะทยอยได้รับแจ้งระหว่างวันที่ 24 มิ.ย.-8 ก.ค. 2566 ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.พ. 2566 Pou Yuen Vietnam เพิ่งเลิกจ้างพนักงานไป 2,358 คน พร้อมจัดงบประมาณสำหรับจ่ายค่าชดเชยรวม 355 ล้านเหรียญไต้หวัน หรือราว 390 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวรับจ้างผลิตรองเท้าให้กับแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ ไนกี้ อาดิดาส รีบอค ฯลฯ โดยการเลิกจ้างพนักงานนั้นเริ่มมีข่าวลือมาตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าลดลง เวลานั้นคาดการณ์ว่าอาจมีพนักงานถูกเลิกจ้างถึง 3 หมื่นคน แต่พบว่าเลิกจ้างจริง 2,800 คน

ที่มา : https://www.naewna.com/inter/730741

“สหรัฐฯ” นำเข้าชิป 10% จากเวียดนาม

ตามรายงานของกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร (MIC) ระบุว่าเวียดนามมียอดการส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์ไปยังประเทศสหรัฐฯ จำนวนมาก อยู่ในอันดับที่ 3 ในเอเชีย รองจากมาเลเซียและไต้หวัน และเวียดนามมีสัดส่วนการส่งออกชิปมากกว่า 10% ของปริมาณการนำเข้าชิปของสหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การส่งออกชิปของเวียดนามส่วนใหญ่มาจากบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม (FIEs) ซึ่งจะดำเนินงานไม่ได้มีความ ซับซ้อน อาทิเช่น การประกอบและการทดสอบ ทั้งนี้ คุณ แดเนียล หลิน จากบริษัท MediaTek กล่าวว่าเวียดนามมีโอกาสที่จะเป็นแหล่งเชื่อมโยงสำคัญของห่วงโซ่อุปทานชิปเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก หากสามารถทำการผลิตได้ดีและการสร้างและออกแบบนวัตกรรมใหม่ๆ อีกทั้ง เวียดนามควรคำนึงถึงการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ อาจเริ่มต้นจากการดำเนินงานที่ไม่ซับซ้อน เช่น การออกแบบไอซี การสร้างโรงงานและห้องปฏิบัติการ การบรรจุภัณฑ์ และการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นต้น ก่อนที่จะค่อยๆ ยกระดับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/10-of-chips-imported-to-us-are-from-vietnam-2142369.html