“เอชเอสบีซี” ประเมินศก.เวียดนาม ไตรมาส 2 ปี 66 คงเผชิญความท้าทาย

ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) รายงานว่าเศรษฐกิจของเวียดนามได้รับอิทธิผลอย่างมากต่อปัจจัยภายนอกและสถานการณ์การค้าโลก แสดงให้เห็นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ที่หดตัวลง 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตลอดจนยอดการส่งออกที่ลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก โดยจุดอ่อนหลักที่สร้างผลกระทบไปยังวงกว้าง คือ สินค้าที่ทำการซื้อขายระหว่างประเทศ อาทิเช่น สิ่งทอ รองเท้า สมาร์ทโฟนและเฟอร์นิเจอร์ไม้ สินค้าดังกล่าวตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ดัชนี PMI ส่งสัญญาณเริ่มต้นอยู่ในระดับทรงตัว แต่ก็ยังต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจนกว่าวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกจะดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ดีถึงแม้การเติบโตเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่อัตราเงินเฟ้อมีทิศทางที่ดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1531980/viet-nam-continues-to-face-challenges-in-q2-2023-hsbc.html

เวียดนาม-กัมพูชา ตกลงร่วมมือส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา

Nguyen Van Hung รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเวียดนาม ได้ประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา Thong Khon ณ กรุงพนมเปญ เพื่อทบทวนความร่วมมือทวิภาคีในแง่ของการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาระหว่างกัน ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวที่ลงนามระหว่างกระทรวงทั้งสองฝ่าย โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว เชื่อมโยงแหล่งมรดกโลกของเวียดนามและกัมพูชา กำหนดนโยบายซึ่งเอื้อต่อภาคการท่อง เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501285715/vietnam-cambodia-agree-to-promote-tourism-sports-cooperation/

“เวียดนาม” คาดได้รับผลกระทบจากภาษีคาร์บอนจากตลาดอียู

สำนักงานการค้าเวียดนามในประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่าภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ที่สหภาพยุโรปได้กำหนดไว้ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินค้าอุตสาหกรรมของเวียดนามที่ส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป โดยสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) บังคับใช้ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ภายใต้กฎระเบียบใหม่นั้น กลุ่มสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีคาร์บอนขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ด้วยเหตุนี้ กลไกดังกล่าวจะเริ่มต้นมาจากกลุ่มสินค้าที่มีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) จำนวนมาก ได้แก่ เหล็ก ซีเมนต์ ปุ๋ย อะลูมิเนียมและไฟฟ้า มีสัดส่วนรวมกันราว 94% ของการปล่อยคาร์บอนของทั้งทวีป อย่างไรก็ดี สำนักงานการค้าเวียดนาม ระบุว่าผลิตภัณฑ์เหล็ก อะลูมิเนียม ซีเมนต์และปุ๋ยของเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปอาจมีการเปลี่ยนแปลง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-likely-to-be-impacted-by-eu-carbon-tax-post1017645.vov

“สมาคมเหล็กเวียดนาม” เผยเหล็กก่อสร้าง ราคาลดลงต่อเนื่อง

สมาคมเหล็กเวียดนาม (Vietnam Steel Association) เปิดเผยว่าความต้องการเหล็กทั่วโลกได้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและจีน นอกจากนี้ยังไม่เห็นสัญญาว่าอัตราเงินเฟ้อจะถูกควบคุมและอุปสงค์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาลดราคาสินค้า รวมไปถึงราคาวัตถุดิบที่ลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ธุรกิจเหล็กในประเทศปรับลดราคาเหล็กก่อสร้างลงมาอย่างต่อเนื่อง ราว 50 – 450 ดองต่อกิโลกรัม ลงมาอยู่ที่ 14,720 ดอง (0.62 ดอลลาร์สหรัฐ) – 15,660 ดอง (0.66 ดอลลาร์สหรัฐ) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและประเภทสินค้า นับว่าเป็นการลดราคาเหล็กก่อสร้างเป็นครั้งที่ 4 ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ คาดการณ์ว่าตลาดเหล็กก่อสร้างจะเผชิญกับอุปสรรคไปจนถึงสิ้นปี

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/price-of-construction-steel-continues-downwards.htm

“เวียดนาม” เผยช่วง 4 เดือนแรกของปี 66 ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.7 ล้านคน

สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) เปิดเผยว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 3.7 ล้านคน ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 และนักท่องเที่ยวในประเทศมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 38 ล้านคน ทำรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวประมาณ 196.6 ล้านล้านดอง (8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ หากพิจาณาเฉพาะในเดือน เม.ย. 2566 พบว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 984,000 คน นับว่าเป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุดตั้งแต่ต้นปีนี้ เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง “A Tourist’s Guide to Love คู่มือรักฉบับนักท่องเที่ยว” ที่ถ่ายทำในเวียดนาม ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั่วโลกและยังนำเสนอถึงความงามของภูมิประเทศและวัฒนธรรมในท้องถิ่น

ที่มา : https://en.dangcongsan.vn/tourism/vietnam-greets-37-million-foreign-tourists-in-four-months-604229.html

“เวียดนาม” เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ ม.ค.-เม.ย. ลดลงฮวบ!

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือน เม.ย. 2566 พบว่ามีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 16,000 แห่ง และทุนจดทะเบียนรวม 154,600 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 12.3% และ 6.2% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ตามลำดับ ทำให้จำนวนรวมในช่วงเดิอน ม.ค.-เม.ย. 2566 มียอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 49,900 แห่ง และตัวเลขทุนจดทะเบียนรวม อยู่ที่ 465,000 พันล้านดอง โดยในแง่ของจำนวนธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 0.6% แต่ทุนจดทะเบียนรวมลดลงอย่างมาก

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/registered-capital-per-enterprise-in-vietnam-declines-in-jan-apr/

“มูดี้ส์” ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของแบงก์เวียดนาม

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน ‘มูดี้ส์’ (Moody’s) ได้ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของธนาคาร Saigon Thuong Tin Commercial Bank (Sacombank) จากเดิมคงที่ ปรับขึ้นเป็นเชิงบวก (Positive) ซึ่งการปรับขึ้นเครดิตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการประเมินในเรื่องของความสามารถในการจัดการสินเชื่อของธนาคาร ผ่านการบริหารหนี้สูญและการจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และยังได้ปรับอันดับจากระดับ Caa1 ขึ้นมาอยู่ที่ B3 นอกจากนี้ ธนาคาร Sacombank มีอัตราส่วนการกู้ยืมระหว่างธนาคารต่ำที่สุดในบรรดากลุ่มธนาคารที่ได้มีการจัดอันดับ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/moodys-upgrades-sacombanks-credit-rating-outlook-to-positive-post1016365.vov

“SCG” เดินหน้ารุกตลาดเวียดนาม

บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) อนุมัติการลงทุนเข้าซื้อหุ้น 70% ของ Starprint Vietnam JSC (SPV) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ ด้วยมูลค่า 1.53 พันล้านบาท หรือประมาณ 44.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้เป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจในตลาดเวียดนาม ทั้งนี้ นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง กล่าวว่าบริษัทจะเดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจและเวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูง รวมถึงมีความต้องการผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัท SPV มีฐานลูกค้าที่โดดเด่นและมีประวัติที่ดีในเรื่องของความสัมพันธ์ทางการค้ากับบริษัทข้ามชาติและบริษัทระดับประเทศ โดยบริษัทดังกล่าวมีกำลังการผลิตการพิมพ์ออฟเซ็ท 16,500 ตันต่อปี และกล่องแข็ง 8 ล้านชิ้นต่อปี นอกจากนี้ เมื่อประเมินงบการเงินของบริษัท SPV ในปี 2565 พบว่ารายได้รวมของกิจการ อยู่ที่ 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยกำไรสุทธิหลังหักภาษี 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/thailands-packaging-company-to-expand-business-in-vietnam/252178.vnp

“เวียดนาม” เผย ม.ค.-เม.ย. ดึงดูด FDI เข้าประเทศ 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 20 เม.ย. พบว่าเวียดนามดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการเบิกจ่ายเงินทุน FDI มูลค่า 5.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สิ่งเหล่านี้ได้ส่งสัญญาเชิงบวกท่ามกลางความผันผวนของการลงทุนจากต่างประเทศ หลังจากมีการกำหนดภาษีเงินได้นิติบุคคลทั่วโลก (Global Minimum Tax : GMT) ที่อัตรา 15% ของกลุ่มบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีรายได้เกินกว่า 750 ล้านยูโร หรือประมาณ 829.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ณ วันที่ 20 เม.ย. 2566 โครงการที่ได้รับอนุญาตใหม่มีจำนวน 37,100 โครงการ ด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวม 445.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 279.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 62.8% ของจำนวนเงินทุนที่จดทะเบียนโครงการใหม่ทั้งหมด

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20230425/foreign-investors-pledge-nearly-89bn-to-vietnam-in-janapr/72817.html

“เวียดนาม” เผยส่งออกข้าวพุ่ง หลังวิกฤตขาดแคลนข้าวโลก

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกข้าว 1.85 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่า 981.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.4% และ 34.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ โดยฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวจากเวียดนามประมาณ 9 แสนตันในไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าจะสั่งซื้อข้าวเพิ่มขึ้นในอนาคตข้างหน้า ทั้งนี้ ฟิทช์ โซลูชันส์ (Fitch Solutions) บริษัทวิจัยด้านการเงินการลงทุน ชี้ว่าปัญหาการขาดแคลนข้าวทั่วโลก เป็นวิกฤตที่รุนแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าปริมาณการขาดแคลนข้าวทั่วโลกจะอยู่ที่ 8.7 ล้านตันในปี 2565-2566 ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าตลาดข้าวจะอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก โดยเฉพาะข้าวของเวียดนามที่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากความต้องการอาหารสำรองที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-rice-exports-surge-on-supply-crunch-post1016127.vov