เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อแตน แขวงหลวงน้ำทา ดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น

เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อแตน แขวงหลวงน้ำทาหวังที่จะดึงดูดนักลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการแพทย์ พิธีเปิดเขตอุตสาหกรรมการศึกษาและการแพทย์จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานบริษัท the Yunnan Hai Cheng Industrial Group Stock กล่าวว่าเขตดังกล่าวแบ่งออกเป็นพื้นที่พัฒนา 4 แห่ง ได้แก่ การพาณิชย์ การธนาคารและการเงิน การขนส่ง การศึกษาและสุขภาพ และการท่องเที่ยว เมื่อเสร็จสมบูรณ์คาดว่าจะมีผู้คนราว 300,000 คนอาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นภาคการศึกษาและสุขภาพจึงมีความสำคัญ ในขณะเดียวกันโครงการนี้จะใช้เวลา 2-3 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ จะลงทุนประมาณ 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะมีโรงเรียนนานาชาติและโรงพยาบาลเพื่อการรักษาโรคมะเร็งที่ทันสมัย จะมีศูนย์รวบรวมเซลล์ต้นกำเนิดและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในแขวงทางตอนเหนือของสปป.ลาวและพื้นที่ใกล้เคียง จนถึงปัจจุบันมีบริษัทต่างชาติมากกว่า 20 แห่งซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีนแสดงความสนใจในการลงทุนด้านการศึกษาและสุขภาพ ภาคการศึกษาและการแพทย์จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นส่วนสำคัญของการขยายเขตพื้นที่เศรษฐกิจ ภาคการศึกษาจะไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน แต่ยังรวมถึงวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยซึ่งจะกลายเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนการศึกษาสำหรับสปป.ลาวและจีน

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/luang-namtha-sez-eyeing-more-investors-106715

เจ้าหน้าที่ของกัมพูชาควบคุมผู้ใช้รถบนท้องถนนที่ไม่มีประกันภัย

สมาคมประกันภัยกัมพูชา (IAC) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ บริษัท ประกันภัยเกี่ยวกับการประกันภัยรถยนต์ โดยข้อตกลงดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นระหว่างผู้ให้บริการประกันภัยกับผู้บริโภคภายในประเทศ ซึ่งข้อตกลงนี้มุ่งเน้นเฉพาะการชำระเงินสำหรับความเสียหายต่อยานพาหนะไม่ร่วมการประกันภัยสำหรับการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุร้ายแรง โดยบริษัท รถบรรทุกหลายแห่งไม่มีประกันภัยคุ้มครอง จากอุบัติเหตุรถบรรทุกกว่า 798 คันในปี 2561 มีเพียง 24% ที่ได้รับความคุ้มครอง ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีบทลงโทษกับบริษัทรถบรรทุกที่ไม่มีประกัน หากเกิดอุบัติเหตุและเจ้าของไม่มีประกันจะมีค่าปรับและอาจจะโดนยึดใบอนุญาตประกอบธุรกิจหรือถูกส่งเรื่องไปยังศาล รวมถึงผู้ใช้รถสันจรบนท้องถนนอื่นอีกด้วย โดยข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่ง IAC จะฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับวิธีปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากข้อตกลง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50652811/authorities-clamp-down-on-lack-of-vehicle-insurance/

รายได้กรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชาเพิ่มขึ้น 35%

รายรับที่กรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเก้าเดือนแรกของปีเพิ่มขึ้นกว่า 35% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนกรมฯเก็บภาษีเกือบ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือเท่ากับร้อยละ 106 ของเป้าหมายของรัฐบาลตลอดทั้งปี ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของรายได้เป็นผลมาจากผลประกอบการทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศและสถานการณ์ทางการเมืองที่มั่นคง โดยจากข้อมูลของ GDCE แหล่งที่มาของรายได้หลัก คือการนำเข้ายานพาหนะและเครื่องจักรคิดเป็น 52%  พลังงานรวมถึงปิโตรเลียมคิดเป็น 17% ของรายรับรวม ซึ่งส่วนใหญ่ของรายรับจะนำมาพัฒนาและลงทุนบนโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพารัฐบาลต่างประเทศ โดยภายในสิ้นปี 2562 คาดว่า GDCE จะสามารถจัดเก็บภาษีได้อีกประมาณ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50652815/gdces-revenue-up-35-percent/

ค่าเช่าสำนักงานในกรุงฮานอยพุ่งสูงขึ้นในรอบ 6 ปี ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

จากรายงานของบริษัทอสังหาฯ ซาวิลส์ (Savills) เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ค่าเช่าสำนักงานเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี มีอัตราการเข้าพักอาศัยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากสำนักงานมีจำนวนน้อย (หรืออุปทานมีอยู่อย่างจำกัด) โดยค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 21 เหรียญสหรัฐฯต่อตารางเมตรต่อเดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอัตราการเข้าพักอาศัยมีสัดส่วนร้อยละ 91 ลดลงร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากอยู่ในช่วงการเปิดตัวของโครงการใหม่ นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติของจำนวนธุรกิจจดทะเบียนใหม่ พบว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีธุรกิจเปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คิดเป็นจำนวนผู้ประกอบการกว่า 20,562 ราย

ที่มา :  https://e.vnexpress.net/news/business/industries/hanoi-office-rents-reach-6-year-high-in-q3-3999332.html

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกสัตว์น้ำรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม (General Department of Vietnam Customs) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกสัตว์น้ำไปยังสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 1.08 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ถึงแม้ว่ามูลค่าการส่งออกจะลดลงอย่างมากก็ตาม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในเดือนกันยายน 2562 การส่งออกสัตว์น้ำ มีมูลค่า 731 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 10.1 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว และลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (กันยายน 2561) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดส่งออกสำคัญ พบว่าการส่งออกอาหารทะเลไปตลาดสำคัญส่วนใหญ่ลดลง ในขณะที่ การส่งออกไปยังประเทศจีน ไทย และไต้หวัน (จีน) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทางด้านรายงานสถิติศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) ระบุว่าอาหารทะเลเวียดนามมีส่วนแบ่งการตลาดสูงในตลาดอังกฤษ ได้แก่ กุ้งแช่แข็งทุกประเภท (HS 030617) ปลาดุกแช่แข็ง (HS 030462) รวมไปถึงกุ้งแปรูปทุกประเภท ซึ่งข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรพยายามมองหาแหล่งอาหารทะเลที่มีความหลากหลาย เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทางทะเลกำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง จากตลาดที่มีโอกาสกำไรสูง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/us-remains-vietnams-largest-aquatic-export-market-404970.vov

ญี่ปุ่นมองหาธุรกิจที่เน้นส่งออกในเมียนมา

ในอุตสาหกรรมท้องถิ่นซึ่งจะผลิตสินค้าและส่งออกไปยังอินเดีย จีน และไทย เนื่องจากมีประชากรจำนวนมากและติดมีชายแดนติดไทย อินเดีย และจีน โดยมีการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้านและผลิตสินค้าและขายในตลาดท้องถิ่น จากงบประมาณปี 32-33 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 62 การลงทุนรวมของญี่ปุ่นใน 117 ธุรกิจเกิน 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้การลงทุนรวม 39 ธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาลา ได้รับอนุญาตมากกว่า 670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนถึงขณะนี้การลงทุนรวม 150 ธุรกิจมีมูลค่าราว 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ญี่ปุ่นติดอันดับที่ 10 จาก 50 ประเทศที่ลงทุนและติดอันดับ FDI ในเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาลา คิดเป็น 36% ของการลงทุนทั้งหมด ซึ่ง FDI รวม 19 ประเทศในเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาลา สูงกว่า 1.86 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/japan-is-eyeing-export-oriented-businesses-in-myanmar

เมียนมาคาดปีหน้าการลงทุนน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น

การประชุมคณะกรรมการพัฒนาภาคเอกชนครั้งที่ 30 กับผู้ประกอบการเมียนมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.62 ที่ผ่านมา กระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศคาดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งจะเพิ่มขึ้นในปี 63 เมื่อข้อเสนอได้รับการสำรวจและการผลิต กระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน (MOEE) กล่าวกับ The Myanmar Times ว่าการผลิตก๊าซเชิงพาณิชย์จะเริ่มต้นที่การค้นพบครั้งที่ 6 ที่บล็อก Shwe Yee Htun-2 นอกชายฝั่งในปี 66 และสามารถผลิตก๊าซได้ที่บ่อ Shwe Yee Htun-2

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/more-oil-and-gas-investments-expected-next-year.html

GMAC แนะนำให้สมาชิกเข้าร่วม REX

สมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศกัมพูชา (GMAC) ขอให้สมาชิกเข้าร่วมระบบรับรองตนเองของผู้ส่งออก (REX) ของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นรูปแบบของการรับรองตนเองที่อนุญาตให้บริษัทส่งออกที่ไม่มีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าก่อนสิ้นปีที่สหภาพยุโรปจะหยุดรับใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์ โดยระบบ REX จะอนุญาตให้บริษัทจัดส่งสินค้าไปต่างประเทศโดยใช่คำสั่งต้นทาง “Form A” ของหนังสือรับรองแหล่งกำเนิด ซึ่งเมื่อเข้าร่วมระบบบริษัทต่างๆจะกลายเป็น “ผู้ส่งออกที่ลงทะเบียน” ซึ่งทำให้สามารถออกหลักฐานแสดงแหล่งกำเนิดสินค้าของตนเองได้ โดยตั้งแต่ปีที่แล้วกระทรวงพาณิชย์และ GMAC ได้ขอให้ผู้ส่งออกเข้าร่วมระบบซ้ำหลายครั้ง ซึ่งเมื่อถึงกำหนดเวลาทางฝั่ง EU จะไม่รับใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์อีกต่อไป เป็นเพราะต้องการให้ผู้ส่งออกทุกรายใช้ระบบ REX เพื่อให้สามารถแหล่งกำเนิดของสินค้าภายใต้มาตรฐานเดียวกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50652812/gmac-urges-members-to-join-rex/

ตุรกีช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลในกัมพูชา

ตุรกีได้ตกลงที่จะช่วยให้กัมพูชาพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลที่พึ่งเริ่มเข้ามาในประเทศ ในระหว่างการเยือนอังการาที่ประเทศตุรกี โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาขอความช่วยเหลือจากตุรกีในการปรับปรุงคุณภาพของอาหารฮาลาลในกัมพูชาและเผยแพร่ความตระหนักในหมู่ชาวกัมพูชา ซึ่งอาหารฮาลาลในกัมพูชายังคงเป็นสิ่งใหม่ โดยต้องการการสนับสนุนและความช่วยเหลือด้านเทคนิคของตุรกีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับข้อกำหนดและการรับรองด้านสุขอนามัย ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศเห็นด้วยที่จะกระชับความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศ โดยมีโอกาสมากมายสำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมฮาลาลของกัมพูชา ที่มีทั้งวัตถุดิบอยู่มากและบางประเทศมีความสนใจในการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50652813/turkey-to-help-develop-cambodias-halal-industry/

ติดตามนักท่องเที่ยวขาเข้าในสปป.ลาวเพื่อบรรลุเป้าหมายสำหรับปี 62

จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่เดินทางมาพักผ่อนในสปป.ลาวในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 3.4 ล้านคนเมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 11% ของปีที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้น 26% ประเทศไทย​เพิ่มขึ้น 6% เวียดนามเพิ่มขึ้น 11% สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 22% สหรัฐราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 22% ฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 11% เยอรมันเพิ่มขึ้น 13% ในทางกลับกันสาธารณรัฐเกาหลีลดลง 1% เดนมาร์กลดลง 27% สวิสเซอร์แลนด์ลดลง 18% และฟินแลนด์ลดลง 28% กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว กล่าวว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวสปป.ลาว – ​​จีน และการประชาสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าชาวจีนมากกว่า 1 ล้านคนจากทั้งหมด 4.5 ล้านคนจะมาเที่ยว สปป.ลาว ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยว แม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเลขเป้าหมายและเจ้าหน้าที่กำลังมองหาวิธีในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลที่มีผู้เข้าชม 4.5 ล้านคนในปี 62 โดยทั่วประเทศจะสร้างแหล่งท่องเที่ยวให้มากขึ้น ปรับปรุงป้ายประชาสัมพันธ์และปรับราคาที่พักตามข้อร้องเรียนเกี่ยวกับต้นทุนที่สูง บางจังหวัดกำลังปรับปรุงคุณภาพของที่ระลึกและให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญบนบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ปรับปรุงบริการที่จุดผ่านแดนและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Tourist_231.php