กัมพูชาเร่งประชุมหารือร่วมประเทศอาเซียนช่วยเหลือเมียนมา

กัมพูชา ในฐานะ ประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประจำปี  2565 จะเป็นเจ้าภาพการประชุมปรึกษาหารือด้านความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับเมียนมาในวันศุกร์ที่ 6 พ.ค.2565 แบบไฮบริดผ่านการประชุมทางวิดีโอ โดยจะมี Mr. Lim Jock Hoi เลขาธิการอาเซียน จะร่วมเป็นประธานการประชุม ณ กรุงพนมเปญ โดยการเข้าร่วมจะมีผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิกอาเซียน หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจของอาเซียน หน่วยงานจากสหประชาชาติ และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังจะหารือถึงวิธีการสนับสนุนด้านวัคซีนโควิด-19 ให้กับเมียนมา

 

ที่มา: https://english.news.cn/asiapacific/20220505/87782e5aaf724b559804b1db
90fbaf82/c.html

เปิดจุดผ่านแดน ไทย-กัมพูชา กระตุ้นการค้าและการท่องเที่ยว

หลังจากที่รัฐบาลไทยอนุญาตให้เปิดพรมแดนกับกัมพูชาอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยสมาคมและบริษัทเอกชนหลายแห่งในภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชา ไทย และเวียดนาม ได้ร่วมมือกันวางแผนกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งในต้นเดือนพฤษภาคม สมาคมการท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก (PATA) นำโดย Thuon Sinan นายกสมาคม ได้ร่วมกันประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับขึ้นตอนการเดินทาง ตลอดจนการจัดทำเอกสาร ณ จุดผ่านแดนทั้งฝั่งกัมพูชาและไทย หลังไทยผ่อนคลายเงื่อนไขการข้ามพรมแดน ซึ่งได้กำหนดผู้เดินทางไว้ 3 ประเภท คือ ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนแล้ว ผู้เดินทางที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และ ผู้เดินทางที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนและถือบัตรผ่านแดน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501069719/opening-of-the-cambodian-thai-border-boosts-tourism/

Q1/2022 กัมพูชาส่งออกไปยัง เวียดนาม จีน และไทย เป็นสำคัญ

ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ถือเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังประเทศสมาชิก RECP มีมูลค่าแตะ 1.95 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากมูลค่า 1.75 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งประเทศผู้นำเข้าสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ เวียดนาม จีน และไทย รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา โดยกัมพูชาได้ส่งออกสินค้าไปยังเวียดนามมูลค่า 759 ล้านดอลลาร์, ไปยังจีน 322 ล้านดอลลาร์ และส่งออกไปยังไทยมูลค่าแตะ 318 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผลิตผลทางการเกษตรถือเป็นสินค้าสำคัญที่มีศักยภาพในการส่งออก อาทิเช่น ข้าว กล้วย มะม่วง มันสำปะหลัง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501068941/cambodias-top-export-destinations-in-q1-2022-vietnam-china-and-thailand/

คาดเศรษฐกิจกัมพูชาปี 2022 โต 5.4%

Vongsey Vissoth รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงเศรษฐกิจการคลังกัมพูชา ได้รายงานถึงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาอยู่ที่ร้อยละ 5.2-5.4 ในปีนี้ ต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 5.6 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งรวมถึงการผลิต การค้า และการบริการ ในขณะที่จำนวนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนก็อยู่ในระดับที่สูง สอดคล้องกับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ที่ได้คาดการณ์ไว้ ณ เดือนเมษายนว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะสูงถึงร้อยละ 5.3 ในปี 2022 เนื่องจากการส่งออกสินค้าที่แข็งแกร่งและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น ในขณะที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.5 ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3 ในปีที่แล้ว และในระยะกลางคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมามีศักยภาพอีกครั้ง โดยอาจจะมีการเติบโตสูงถึงประมาณร้อยละ 6 ในระยะกลาง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501067848/cambodias-2022-economic-growth-estimates-revised-to-5-4-percent/

ปี 64 จีนนำโด่ง FDI ในกัมพูชา

ปี 2564 ที่ผ่านมา การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในกัมพูชาเพิ่มขึ้นแม้จะมีการระบาดของ COVID-19 แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต้อกัมพูชา ในขณะที่ประเทศเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคี ด้านสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) เผย ในปี 2564 มีการลงทุนในภาคเอกชนใหม่ มูลค่า 4,357 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ลดลง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนมียอดการลงทุนรวม 2,326 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกามียอดการลงทุน 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 163 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีก่อนหน้าตามลำดับ ทั้งนี้ หอการค้ากัมพูชา คาดว่าจะมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากจีนและเกาหลีใต้

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501068035/china-remains-top-in-kingdoms-fdi-last-year/

4 เดือนแรกของปี 65 นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนกัมพูชาพุ่งขึ้น 6 เท่า

อุทยานโบราณสถานอังกอร์ของกัมพูชา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนจำนวน 33,205 คนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 633% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีรายได้จากการขายตั๋วเข้าเยี่ยมชม มากกว่า 1.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในเดือนเม.ย.65 เพียงเดือนเดียวมีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมจำนวน 13,365 คน สร้างรายได้จากการขายตั๋ว 537,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้มีนักท่องเทียวประมาณ 400 คนต่อวัน โดยก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของ COVID-19 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 9,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ในปี 2562 ก่อนการระบาดของ OCVID-19 อุทยานโบราณสถานอังกอร์ ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากถึง 2.2 ล้านคน สร้างรายได้ 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการขายตั๋วเข้าเยี่ยมชม

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501068083/international-tourists-to-cambodias-angkor-up-6-folds-in-first-4-months-of-this-year/

กัมพูชาขาดแคลนห้องเย็น กระทบภาคการส่งออกสินค้าเกษตร

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนห้องเย็นสำหรับขนส่งสินค้าเกษตรของกัมพูชา และมาตรการที่เข้มงวดของประเทศผู้นำเข้ารายสำคัญในช่วงโควิด-19 ที่ได้กำหนดข้อจำกัด ด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ทำให้เกิดการหยุดชะงักในการส่งออกสินค้าเกษตรของกัมพูชา ซึ่งจากการเจรจากับผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่หลายราย การส่งออกที่ลดลงเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงการขาดห้องเย็นสำหรับสินค้าเกษตร ที่ส่งผลทำให้ราคาขนส่งสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อน วิกฤตโควิด-19 โดยในขณะนี้ค่าขนส่งสูงขึ้นกว่า 3 เท่า ด้าน Sin Chanthy ประธานสมาคมโลจิสติกส์กัมพูชากล่าวว่าราคาปกติของการขนส่งไปยังจีนอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์ แต่ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 8,000 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน ในขณะที่ค่าขนส่งไปยังสหรัฐฯ และยุโรปเพิ่มขึ้นจาก 4,000 ดอลลาร์ เป็นเกือบ 20,000 ดอลลาร์ เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501065109/cold-storage-shortage-covid-19-hurt-agriculture-exports/

ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือสีหนุวิลล์เพิ่มขึ้น 16% ในปีก่อน

ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 แต่ท่าเรือสีหนุวิลล์กัมพูชากลับมีการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขนส่งยังท่าเรือ ตามรายงานสถิติการขนส่งสินค้า ซึ่งได้รายงานถึงจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการผ่านท่าเรือจำนวน 18,182 หน่วย (TEUs) ในไตรมาสแรกของปี 2022 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 16.32 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021 โดยท่าเรือนี้ทำหน้าที่เป็นจุดผ่านแดนและจุดขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งรัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาท่าเรือต่อไป เพื่อที่จะขยายการรองรับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501065618/container-traffic-in-sihanoukville-autonomous-port-up-by-more-the-16-percent/

เวียดนาม-กัมพูชา-สปป.ลาว ขอความร่วมมือกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างกัน

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศพื้นที่สามเหลี่ยม (กัมพูชา–สปป.ลาว–เวียดนาม) ได้ตั้งเป้าที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวน 3.3 ล้านคน ภายในปี 2025 ด้านผู้อำนวยการทั่วไปของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) Nguyen Trung Khanh กล่าวว่าเป้าหมายของแผนคือการดึงดูดผู้เยี่ยมชมพื้นที่สามเหลี่ยม 3.3 ล้านคน ภายในปี 2025 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 14 ต่อปี ซึ่งจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2030 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก โครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว และทรัพยากรบุคคลที่มีคุณสมบัติ โดยเวียดนามจะทำหน้าที่เป็นประธานในภารกิจหลัก 5 ประการ ได้แก่ ส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่พื้นที่ เชื่อมโยงธุรกิจและสมาคมในภูมิภาคให้มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เชื่อมโยงกลุ่มนักท่องเที่ยวและรีสอร์ท เปิดตัวกิจกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค และจัดเวทีส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคประจำปี นอกจากนี้ ประเทศจะประสานงานกับ สปป.ลาว และกัมพูชา เพื่อดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยว 10 อีเว้นท์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501064559/vietnam-provinces-seek-tourism-cooperation-with-four-provinces-cambodia/

กัมพูชามองหาผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกัมพูชาวางแผนสนับสนุนให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ เข้ามาเปิดโชว์รูมในกัมพูชา ในขณะที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันให้ใช้รถยนต์ EV เพิ่มมากขึ้น ด้าน Sun Chanthol รัฐมนตรีฯ ได้ขอให้ Patrick Murphy เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชา ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่ผลิตรถยนต์ EV เข้ามาลงทุนและขยายธุรกิจยังกัมพูชา โดยปัจจุบันกัมพูชามีการใช้รถยนต์ EV เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ มีการลงทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว 47 คัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 700 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ได้มีการจะทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ 7 คัน ในขณะที่สถานีชาร์จ EV มีไม่กี่แห่งที่ได้ให้บริการ ในเขตพื้นที่พนมเปญและตามจังหวัดหลัก ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่า 2,226 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501064355/cambodia-seeks-us-electric-vehicle-producers-entry/