ผลิตภัณฑ์ CMP ของเมียนมาร์เข้าถึงตลาดมากกว่า 80 แห่ง รวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี

U Min Min รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า เสื้อผ้าของเมียนมาร์ส่วนใหญ่ส่งออกไปยัง 12 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี โดยสินค้า CMP มีส่วนสำคัญ ในภาคการส่งออกสิ่งทอของเมียนมาร์โดยมีประเทศปลายทางมากกว่า 100 ประเทศ และรายได้สุทธิ อยู่ที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2565-2566 ทั้งนี้ ตลาดหลักสำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอของเรา ได้แก่ ญี่ปุ่น โปแลนด์ สเปน เยอรมนี เกาหลี สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ อิตาลี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เดนมาร์ก และเบลเยียม อย่างไรก็ดี ประเทศที่จ้างเหมานำเข้าวัตถุดิบหลักส่วนใหญ่สำหรับโรงงาน CMP นำเข้าผ่านทางตลาดจีน 90% ซึ่งในปีนี้มีการนำเข้าสิ่งทอดิบมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตัวระบบออนไลน์ Myanmar Tradenet 2.0 เพื่ออำนวยความสะดวกใน กระบวนการนำ เข้าวัตถุดิบและส่งออกผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรม CMP

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-cmp-products-reach-over-80-markets-including-us-japan-korea/

กัมพูชาจัดงานประชุมใหญ่ ดันการแปรรูปและการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์

กัมพูชาจัดงานประชุมเกี่ยวกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในจังหวัดกำปงธม เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในกัมพูชา รวมถึงเพิ่มการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์แปรรูปไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งงานประชุมดังกล่าวจัดขึ้นร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร และกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงสหภาพยุโรปและเยอรมนี ในการจัดงานดังกล่าว โดยเวทีนี้เป็นครั้งแรกที่ส่งเสริมให้ประชาชน พ่อค้า และนักธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ ได้เข้าเห็นและเข้าใจในศักยภาพ รวมถึงโอกาสในอุตสาหกรรมการผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของกัมพูชา รวมถึงการดึงดูดนักลงทุนให้เกิดการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าของสายการผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เพื่อรองรับตลาดทั้งในท้องถิ่น ภูมิภาค และตลาดโลก สร้างงานให้กับประชาชน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา สำหรับปัจจุบันผลผลิตกว่าร้อยละ 90 ของกัมพูชา ทำการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยในปี 2022 กัมพูชาครองอันดับสองของผู้ผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ที่สุดของโลก มีปริมาณรวมประมาณ 690,000 ตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501403115/cashew-nut-forum-to-boost-local-processing-and-export/

ท่าเรือแห่งใหม่ของ PAS ในกัมพูชา จะเริ่มเปิดดำเนินการเร็วกว่ากำหนดภายในกลางปี 2025

ท่าเรือปกครองตนเองสีหนุวิลล์ (PAS) เตรียมเปิดเทอร์มินัลคอนเทนเนอร์แห่งใหม่ภายในปี 2025 โดยโครงการขยายท่าเรือในเฟสแรกของท่าเรือพาณิชย์ดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี ซึ่งเดิมทีโครงการนี้มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2026 แต่ด้วยแนวทางการผลักดันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของนายกรัฐมนตรีฮุนมาเนต ได้ร้องขอให้ PAS เร่งดำเนินการ เพื่อหวังให้ท่าเรือแห่งนี้เป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค โดยคาดว่าหลังปรับปรุงจะสามารถรองรับคอนเทนเนอร์ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,150,000 TEUs ซึ่งเทอร์มินัลคอนเทนเนอร์แห่งใหม่นี้มีความยาว 350 เมตร และความลึก 14.50 เมตร ช่วยให้เรือขนส่งคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 60,000 DWT (ประมาณ 4,000 TEUs) สามารถเทียบท่าเรือได้ ด้าน Kim Chhun CEO ของ PAS ได้เปิดเผยกำหนดการโครงการปรับปรุงใหม่นี้ในระหว่างประกาศงบการเงินของบริษัทซึ่งได้ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) สำหรับโครงการขยายท่าเรือดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก Japan International Cooperation Agency (JICA) ด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมูลค่า 203 ล้านดอลลาร์ และเมื่อดำเนินการแล้วเทอร์มินัลใหม่จะช่วยให้ PAS สามารถแข่งขันด้านต้นทุนการขนส่งสินค้าทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501403122/pas-new-terminal-to-go-operational-in-2025/

พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อพ.ย. หดตัว 0.44% ต่ำสุดรอบ 33 เดือน คาดปี 67 อยู่ในกรอบ -0.3 ถึง 1.7%

กระทรวงพาณิชย์ เผย เงินเฟ้อทั่วไปเดือนพ.ย. หดตัว 0.44% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และ ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน ส่งผลเฉลี่ย 11 เดือน ขยายตัว 1.41% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนพ.ย. ขยายตัว 0.58% ส่งผลเฉลี่ย 11 เดือน ขยายตัว 1.33% พร้อมคาดปี 67 เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.3 ถึง 1.7% จากปีนี้อยู่ระหว่าง 1 – 1.7%

ที่มา : https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=SnhJaE5xVUFjU2M9

‘สี จิ้นผิง’ จ่อเยือนเวียดนามระหว่าง 12-13 ธ.ค.66

กระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางเยือนเวียดนามในวันที่ 12-13 ธันวาคม 2566 ในขณะที่นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายจะหารือถึงวิธีการยกระดับจุดยืนใหม่ของความสัมพันธ์จีน-เวียดนาม โดยมุ่งเน้นไปที่ความมั่นคงทางการเมือง และความร่วมมือเชิงปฏิบัติ

ที่มา : https://www.reuters.com/world/asia-pacific/chinas-president-xi-visit-vietnam-2023-12-07/

‘HSBC’ เผยทิศทางการส่งออกของเวียดนามฟื้นตัวต่อเนื่อง

จากข้อมูลของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) เปิดเผยว่าตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ การส่งออกของเวียดนามฟื้นตัวได้ดีขึ้น จากในเดือนพฤศจิกายน การส่งออกขยายตัว 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การส่งออกสินค้าสิ่งทอและรองเท้ายังคงซบเซา แต่หากพิจารณาสินค้าอื่นๆ ขยายตัวได้ดีขึ้น ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ (20.2%YoY) และเครื่องจักร (5%YoY) ซึ่งสินค้าเหล่านี้ยังคงมีสัญญาณเชิงบวก

ทั้งนี้ นโยบายวีซ่าของเวียดนามที่มีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม ผลักดันนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤศจิกายน เวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวเกินกว่า 1 ล้านคน นับเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายน ลดลงเหลือ 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-continues-to-see-improvement-in-exports-hsbc-2224046.html

สปป.ลาว แสดงความสนใจเข้าร่วมกลุ่ม BRICS หลังปากีสถานยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการ

นายคำเจน วงษ์โพสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนและการวางแผน สปป.ลาว กล่าวว่าประเทศลาวมีความสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS และจะศึกษาข้อกำหนดต่างๆ อย่างจริงจัง โดยเขากล่าวว่าประเทศมีความสนใจเข้าร่วมในกลุ่มนี้ เนื่องจากการพัฒนา “เชิงบวก” ในกลุ่ม BRICS และต้องประสานการดำเนินการกับรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศของ สปป.ลาว หลังจากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อสมัครสมาชิกกลุ่ม BRICS ตามที่นักการทูตระดับสูงของแอฟริกาใต้ ซึ่งดูแลความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศ BRICS ระบุว่ามีมากกว่า 40 ประเทศที่แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมกับองค์กรนี้เมื่อต้นปีนี้ โดยเมื่อเดือนที่แล้วประเทศปากีสถานได้ยื่นสมัครเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในการประชุมกลุ่ม BRICS ที่อาร์เจนตินา เอธิโอเปีย อียิปต์ อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นสมาชิกใหม่ 6 รายของกลุ่ม ซึ่งได้รับการตัดสินใจในการประชุมสุดยอดเดือนสิงหาคม และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 การขยายกลุ่มซึ่งกลายเป็นกลุ่มแรกนับตั้งแต่แอฟริกาใต้เข้าร่วมกลุ่มในปี 2553 ได้รับการรับรองจากผู้นำจากบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_238_Following_y23.php

รถไฟลาว-จีน ให้บริการผู้โดยสารข้ามแดนแล้วกว่าแสนคน ในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ให้บริการในวันที่ 13 เมษายน 2566 จนถึงเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รถไฟลาว-จีน มียอดขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนแล้วกว่า 100,000 คน ผู้โดยสารประมาณ 14,900 คนเป็นชาวต่างชาติ อ้างอิงจากสถานีตรวจสอบชายแดนเข้า-ออกโมฮันในประเทศจีน-ชายแดน สปป.ลาว มีเที่ยวรถไฟโดยสาร 474 ขบวนในช่วงเวลาดังกล่าว นับตั้งแต่เปิดตัวให้บริการผู้โดยสารข้ามพรมแดน เส้นทางรถไฟสายนี้ได้กลายเป็นรูปแบบการขนส่งที่ต้องการของนักเดินทางระหว่างประเทศจำนวนมากขึ้น เนื่องจากมีราคาที่สามารถจ่ายได้ และมีความสะดวกสบาย ประกอบกบขั้นตอนพิธีการศุลกากรที่มีความคล่องตัวมากขึ้นและการเดินทางโดยรถไฟจากคุนหมิงไปยังเวียงจันทน์ใช้เวลาเพียงเก้าชั่วโมงครึ่ง ซึ่งใช้เวลาเดินทางลดลงจากตอนเริ่มเปิดให้บริการในระยะแรก

ที่มา : https://english.news.cn/20231206/40001f12600549e0abe431812819cd18/c.html

สมาคมผู้ประกอบการทองคำแห่งเขตย่างกุ้งปรับลดราคาอ้างอิงทองคำ ท่ามกลางราคาทองคำที่ดิ่งลง

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม สมาคมผู้ประกอบการทองคำแห่งเขตย่างกุ้ง (YGEA) ปรับลดราคาอ้างอิงทองคำลงเหลือบาทละ 3.209 ล้านจ๊าด (0.578 ออนซ์หรือ 0.016 กิโลกรัม) ตามการลดลงเล็กน้อยของราคาทองคำสปอตที่ 2,033 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ในขณะที่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำสปอตแตะระดับสูงสุดที่ 2,086 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ส่งผลให้ YGEA กำหนดราคาอ้างอิงสูงขึ้นเป็นบาทละ 3.28 ล้านจ๊าด อย่างไรก็ตาม ราคาตลาดทองคำบริสุทธิ์ผันผวนขึ้นไปเป็นบาทละ 3.73 ล้านจ๊าด ในตลาดที่ไม่เป็นทางการ ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างราคาอ้างอิงของ YGEA และอัตราของตลาดที่ไม่เป็นทางการนั้นเพิ่มขึ้นเป็นกว่าบาทละ 520,000 จ๊าด ทำให้ YGEA เปลี่ยนมาใช้อัตราการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารในการคำนวณราคาอ้างอิงสำหรับทองคำบริสุทธิ์ เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐมีอิทธิพลต่อช่องว่างมูลค่าตลาดทองคำในประเทศ และราคาทองคำอ้างอิงของ YGEA โดยปัจจุบันเงินดอลลาร์สหรัฐมีอัตราแลกเปลี่ยนแบบไม่เป็นทางการอยู่ที่ประมาณ 3,530 จ๊าด/ดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/ygea-lowers-gold-reference-price-amid-spot-gold-price-dip/#article-title

เงินสกุลจ๊าดอ่อนค่าลงกว่า 3,500 จ๊าดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

อัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลจ๊าดเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 3,380 จ๊าด/ดอลลาร์สหรัฐฯ และอ่อนค่าลงอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 3,550 จ๊าด/ดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ว่าไม่ได้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงอีกต่อไป และอนุญาตให้ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับใบอนุญาตซื้อขายเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถแลกเปลี่ยนในอัตราที่เสรีมากขึ้น  อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ยังได้กล่าวอีกว่าจะไม่เข้าแทรกแซงตลาด Forex ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ และธนาคารที่ได้รับอนุญาตมีสิทธิ์ดำเนินการซื้อขายออนไลน์ตามอัตราตลาดตามอุปสงค์และอุปทาน นอกจากนี้ การโอนเงินไปต่างประเทศจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อบังคับของคณะกรรมการบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/kyat-weakens-to-over-k3500-against-us-dollar/#article-title