Lao Airlines ระงับเที่ยวบินเส้นทาง เวียงจันทน์-อุดมไซ

Lao Airlines ระงับเที่ยวบินระหว่างนครเวียงจันทน์และจังหวัดอุดมไซ หลังประสบกับปัญหาจำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างมาก เป็นผลมาจากส่วนหนึ่งผู้โดยสารหันไปใช้บริการรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว-จีน ซึ่งมีค่าบริการต่ำกว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน ขณะที่เที่ยวบินจากเวียงจันทน์ไปยังหลวงพระบางก็ปรับลดลงต่อเนื่องเช่นเดียวกันจาก 3-4 เที่ยวบินต่อวัน ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปรับเหลือเพียง 8 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมถึงเที่ยวบนตรงสายอื่นๆ เช่น ไปยังหลวงน้ำทา เชียงขวาง ปากเซ สะหวันนะเขต และเที่ยวบินอื่นๆ ก็ปรับลดเที่ยวบินลงเช่นกัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_LaoAirlines194.php

กัมพูชาจัดเก็บภาษีเกินเป้า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี

กรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) กัมพูชา รายงานถึงสถานการณ์การจัดเก็บภาษีในช่วง 9 เดือนแรกของปี มูลค่ารวมกว่า 2.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกว่าร้อยละ 78.61 ของกรอบการจัดเก็บภาษีประจำปี 2022 หลังจากที่เศรษฐกิจกัมพูชาเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการนำเข้าและส่งออกที่กลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กรมภาษีอากร (GDT) ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การจัดเก็บภาษีภายในประเทศ เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีเงินเดือน ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีทรัพย์สิน จัดเก็บภาษีได้มูลค่า 2,680 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 ไตรมาสของปีนี้ คิดเป็นกว่าร้อยละ 95 ของแผนการจัดเก็บงบประจำปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501163250/tax-revenue-rises-to-2-02-billion-in-nine-months/

นักลงทุนทั่วโลกจ่อลงทุนในภูมิภาคอาเซียน กัมพูชาถือเป็นหนึ่งในตัวเลือก

แม้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะกลับมาเติบโตล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ ในปี 2021 เนื่องจากต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างมากในการเปิดพรมแดน ซึ่งส่งผลต่อการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนทางกันกับสถานการณ์ด้านการลงทุนโดยตรงจากประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กัมพูชาได้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมูลค่ารวมเกือบ 3.3 พันล้านดอลลาร์ จากโครงการจำนวน 123 โครงการ ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ ตามข้อมูลของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยกระแสการลงทุนจากต่างประเทศได้รับแรงหนุนจากกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ รวมถึงข้อตกลงการค้าหลายฉบับที่ทางการกัมพูชาลงนามไว้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501163645/global-investors-eye-investments-in-asean-region-to-diversify-risk-cambodia-features-well/

ไทย-สปป.ลาว เดินหน้าเชื่อมต่อรถไฟหนองคาย-เวียงจันทน์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้แทนไทย ร่วมประชุมหารือกับนายเวียงสะหวัด สีพันดอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการพัฒนาเชื่อมโยงการขนส่ง การค้าการลงทุนของสปป.ลาว เกี่ยวกับโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟ ช่วงหนองคาย – เวียงจันทน์ โดยมี น.ส.จิรัสยา พีรานนท์ อุปทูตประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งการประชุมร่วมกับกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ในครั้งนี้ถือเป็นการประชุมสำคัญที่ทั้งประเทศไทย และ สปป.ลาว เห็นชอบร่วมกันในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดย นายอนุทิน กล่าวชื่นชมรัฐบาล สปป.ลาว ต่อการเปิดให้บริการโครงการรถไฟลาว–จีน ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมนครหลวงเวียงจันทน์กับคุนหมิง ที่จะส่งเสริมการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่าง สปป.ลาวและจีนให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมีความตั้งใจที่จะทำให้การเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างหนองคายและเวียงจันทน์ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองประเทศ ตลอดจนส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งอย่างเป็นระบบ อีกทั้งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/182029

“ธนาคารยูโอบี” ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP เวียดนาม ปี 65 โต 8.2%

ธนาคารยูโอบี (United Overseas Bank : UOB) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปีนี้ ขยายตัว 8.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 7% ในขณะที่ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3/65 ขยายตัว 13.7% ถือเป็นครั้งแรกที่เวียดนามมีอัตราการเติบโตที่สูงเป็นประวัติการณ์และแซงหน้าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอินเดีย (13.5%) ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงสุดในเอเชีย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/uob-upgrades-2022-growth-forecast-for-vietnam-to-82-post975342.vov

“เวียดนาม” เผยรายได้จากการท่องเที่ยว 78% ของช่วงก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19

สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) รายงานว่าตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเดือนกันยายน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนาม ทำรายได้ 394.2 ล้านล้านดอง เทียบเท่า 78% ของช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนโควิด-19 (Pre-Covid) ที่ฤดูกาลดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวเวียดนาม ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศเวียดนาม มากกว่า 1.8 ล้านคน ขณะที่ในไตรมาสที่ 3 มีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศ 1.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าจากไตรมาสที่สอง แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัว หลังจากเวียดนาเปิดกิจกรรมการท่องเที่ยวอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าเวียดนามบรรลุเป้าหมายเพียงหนึ่งในสามของเป้าหมายทั้งปี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 5 ล้านคน ลดลง 85.4% เมื่อเทียบกับปี 2562

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/tourism-revenue-reaches-78-of-pre-covid-2019/

เมียนมานำเข้าปูนซีเมนต์ผ่านชายแดนทะลุ 4,200 ตัน

เดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา เมียนมานำเข้าปูนซีเมนต์จากไทยผ่านชายแดนกว่า 4,200 ตัน มูลค่า 0.338 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเข้าจากมาเลเซียทางทะเลจำนวน 130 ตัน มูลค่า 0.024 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2565 มีการนำเข้าปูนซีเมนต์ทั้งหมดรวม 2,800 ตัน มูลค่า 0.272 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการนำเข้าจากไทย  2,600 ตัน, มาเลเซีย 130 ตัน, จีน 120 ตัน และฝรั่งเศส  2 ตัน ณ ปัจจุบัน ราคาปูนซีเมนต์ภายในประเทศยังอยู่ในสภาวะทรงตัว โดยราคาปูนตรา Two Rhinoceros (Red) อยู่ที่ 9,600 จัตต่อกระสอบ, ปูนตราช้างของไทยอยู่ที่ 14,500 จัตต่อกระสอบ และส่วนปูนตรา Rhino (blue) อยู่ที่  9,300 จัตต่อกระสอบ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/over-4200-tonnes-of-cement-worth-us0-338-million-imported-via-border-trade/

ค่าเงินกีบอ่อนกระทบเศรษฐกิจ สปป.ลาว

ในช่วงมกราคมถึงสิงหาคม 2022 ค่าเงินกีบอ่อนค่าลงกว่าร้อยละ 37.4 เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอ่อนตัวลงกว่าร้อยละ 32.9 เมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ตามการรายงานของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) บนรายงาน Asian Development Outlook (ADO) 2022 โดยการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของค่าเงินกีบ ส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินต่างประเทศ ทำให้เกิดแรงกดดันต่อผู้นำเข้าและผลักดันให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นภายในประเทศ อันเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ สปป.ลาว ซึ่งราคาน้ำมันภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13 เท่า ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 90.3 และราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 62.3 นอกจากนั้นยังส่งผลให้หนี้สาธารณะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการอ่อนตัวของค่าเงินกีบ โดยธนาคารแห่งชาติ สปป.ลาว ได้พยายามควบคุมค่าเงินกีบให้เกิดการอ่อนค่าลดลง จากการออกพันธบัตรออมทรัพย์มูลค่า 5 ล้านล้านกีบ หรือคิดเป็นร้อยละ 3 ของปริมาณเงินในระบบ เพื่อลดสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจที่มากเกินไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Weak194.php

รัฐบาลกัมพูชาออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชนสำรวจและผลิตเชื้อเพลิงภายในประเทศ

Angkor Resources Corp ประกาศว่า EnerCam Resources Corp. (Cambodia) Co., Ltd. (EnerCam) บริษัทย่อยสาขาพลังงานของบริษัท ได้รับใบอนุญาตขั้นสุดท้ายสำหรับการสำรวจ พัฒนา และผลิตบน Block VIII มีขนาดพื้นที่สำรวจมากถึง 7,300 ตารางกิโลเมตร บนชายฝั่งของกัมพูชา ด้าน Mike Weeks ประธานของ EnerCam กล่าวว่า การได้รับอนุญาตในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทและของประเทศกัมพูชา ซึ่งเกี่ยวกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ โดยคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในอนาคตของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกัมพูชา และเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในกัมพูชา รวมไปถึงการใช้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างพลังงานด้วยไฮโดรคาร์บอนนำมาซึ่งการพัฒนาในเชิงบวกและแผ่นแม่บทสำหรับทั้งประเทศ ด้านข้อมูล Angkor Resources Corp เป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนใน TSX-Venture Exchange และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทรัพยากรในกัมพูชา โดยมีใบอนุญาตในการสำรวจและผลิตแร่หลายแห่งในตอนเหนือของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501162922/onshore-exploration-and-production-license-for-cambodias-oil-gas-granted-to-angkor-resources-energy-subsidiary/

FTA กัมพูชา-เกาหลี มีผลบังคับใช้ 1 ธ.ค. นี้

สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศยืนยันว่าข้อตกลงการค้าเสรี กัมพูชา-เกาหลี (CKFTA) จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2022 หลังเข้าร่วมพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา (MFAIC) ขณะที่ Nguon Mengtech อธิบดีหอการค้ากัมพูชา (CBC) กล่าวว่า บริษัทเอกชนภายในประเทศต่างแสดงความยินดีจากการที่ข้อตกลง CKFTA กำลังจะเริ่มมีผลบังคับใช้ เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับภาคเอกชนในการขยายการส่งออกไปยังต่างประเทศ ภายใต้ข้อตกลง CKFTA กัมพูชาคาดว่าจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจากเกาหลีใต้มากกว่าร้อยละ 95 ด้าน Pen Sovicheat ปลัดกระทรวงการต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า CKFTA จะให้ประโยชน์เพิ่มเติม นอกเหนือจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยสินค้าสำคัญของกัมพูชาที่จะมีการส่งออก ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าทางการเกษตร, เครื่องนุ่งห่ม, สิ่งทอ, รองเท้า, และสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501162478/cambodia-korea-fta-to-come-into-force-from-december-1/