ผงะ! โรงงานอิฐในกัมพูชาใช้ขยะจากแหล่งผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ดังเป็นเชื้อเพลิงเตาเผา ทำคนงานป่วย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า The Cambodian League for the Promotion and Defense of Human Rights หรือ LICADHO เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ระบุว่า ขยะจากแบรนด์สินค้าระดับโลกอย่างน้อย 19 แบรนด์ ซึ่งรวมทั้ง Adidas และ Walmart ถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงเตาเผา ในโรงงานอิฐหลายแห่งในกัมพูชา และส่งผลทำให้คนงานบางคนล้มป่วย ซึ่งจากการสัมภาษณ์พนักงานทั้งที่เป็นอดีตและปัจจุบันของโรงงาน พบว่าขยะของโรงงานสิ่งทอ ทั้งผ้า พลาสติก ยางและวัสดุอื่นๆ จากแบรนด์ต่างๆ ถูกนำไปเผาตามโรงงานต่างๆ 7 แห่ง โดยโรงงานเหล่านี้นำขยะจากสิ่งทอมาเผาเพื่อประหยัดต้นทุนการซื้อเชื้อเพลิงอื่นๆ

ทั้งนี้ Adidas ระบุว่า นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของกัมพูชา คือขยะจากสิ่งทอทั้งหมดจะต้องถูกทำลายทิ้ง หรืออาจจะถูกนำไปแปรรูปเป็นพลังงานในโรงงานแปรรูปขยะเป็นพลังงาน ที่มีการควบคุมอย่างเต็มที่และการควบคุมคุณภาพอากาศ

ที่มา : https://www.matichon.co.th/foreign/news_4293405

4 เดือนแรกของปี 2023 กัมพูชานำเข้า น้ำมัน-ก๊าซ แตะ 1.15 พันล้านดอลลาร์

การนำเข้าน้ำมันและก๊าซของกัมพูชาในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2023 อยู่ที่มูลค่า 1.15 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ปัจจุบันกัมพูชานำเข้าน้ำมันและก๊าซทั้งหมด ซึ่งยังไม่มีการผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ เนื่องจากน้ำมันและก๊าซสำรองนอกชายฝั่งยังอยู่ในขั้นของการพัฒนา  นับตั้งแต่วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ส่งผลให้ราคาน้ำมันในกัมพูชาพุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อราคาสินค้าและบริการอื่นๆ เป็นวงกว้าง ด้านนาย Penn Sovicheat โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ระบุก่อนหน้านี้ แม้ความต้องการจะเพิ่มขึ้น แต่กัมพูชามีน้ำมันคงคลังเพียงพอต่อการบริโภคภายในท้องถิ่นอยู่ที่ 15 ถึง 20 วัน โดยไม่ต้องนำเข้า  ส่วนความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.8 ล้านตัน ในปี 2020 เป็น 4.8 ล้านตัน ในปี 2030

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290819/oil-and-gas-imports-reach-1-15b-in-four-months/

Q1 กัมพูชานำเข้าเชื้อเพลิงมูลค่าแตะ 400 ล้านดอลลาร์

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 กัมพูชานำเข้าน้ำมันเบนซินและดีเซล มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์ รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนับเป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซินมีมูลค่า 197 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 21 ในขณะที่การนำเข้าน้ำมันดีเซลมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 211 ล้านดอลลาร์ สำหรับการนำเข้าเชื้อเพลิงอากาศยานมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 17 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 77 ด้าน Pen Sovicheat โฆษกกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา กล่าวเสริมว่า อุปทานน้ำมันของกัมพูชาปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยส่วนใหญ่เริ่มกลับมาดำเนินได้อย่างปกติ โดยเชื้อเพลิงที่กัมพูชาใช้นำเข้ามาส่วนใหญ่นำเข้าจาก สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันราคาขายปลีกที่กำหนดโดยกระทรวงพาณิชย์ เช่น น้ำมันเบนซินที่ขายในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 4,200 เรียล และดีเซลอยู่ที่ 3,950 เรียลต่อลิตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501287333/cambodia-spends-more-than-400-million-on-domestic-fuel-imports-in-q1/

ประชาชนสปป.ลาวกว่า 1 ล้านคน เผชิญปัญหาความไม่มั่งคงทางอาหาร

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และโครงการอาหารโลก (WFP) รายงานว่าประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ต้องทนทุกข์จากความไม่มั่งคงทางอาหารอย่างเฉียบพลัน ทำให้เกิดความกังวลต่อวิกฤตความมั่งคงทางอาหารในสปป.ลาว โดยประชาชนกว่า 1.04 ล้านคน (13.9% ของประชากรทั้งประเทศ) ได้รับการประเมินว่ามีความไม่มั่งคงทางอาหารอย่างเฉียบพลันอยู่ในระดับปานกลาง และคนกว่า 71,000 คน (0.9% ของประชากร) อยู่ในภาวะไม่มั่งคงทางอาหารเฉียบพลันขั้นรุนแรง สาเหตุของสถานการณ์ดังกล่าวมาจากราคาอาหารและเชื้อเพลิง ตลอดจนปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน กำลังซื้อและรายได้ครัวเรือนที่ลดลงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติในปี 2565

นอกจากนี้ สำนักงานสถิติประเทศลาว (LSB) ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มสูงขึ้น และพุ่งขึ้นสู่ระดับ 41.3% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจาก 40.3% ในเดือน ม.ค.

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten56_Over_1_y23.php

สปป.ลาว-เกาหลีใต้ ตกลงเริ่มโครงการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ

สปป.ลาว และเกาหลีใต้ตกลงที่จะเริ่มโครงการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 20 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตก๊าซชีวภาพ 500,000 ลิตรต่อวัน หรือเท่ากับ 12.5 ล้านลิตรต่อเดือน ในระยะแรกจะเน้นไปที่น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเฮลิคอปเตอร์ที่เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกระดับพรีเมียม และตามด้วยเชื้อเพลิงทางเลือกอื่นๆ ซึ่งในการลงนามนำโดย Mr. Sysangkhom Khotnhotha ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัทเชื้อเพลิงแห่งรัฐของ สปป.ลาว ร่วมกับ CEO ของ GAIA Petro Co., Ltd. และหน่วยงานอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยโครงการดังกล่าวจะตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้าน Dongphosy อำเภอ Hadxaifong ในเวียงจันทน์ประเทศ สปป.ลาว ซึ่ง บริษัท GAIA Petro Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 55 , บริษัท เชื้อเพลิงแห่งรัฐ สปป.ลาว ร้อยละ 22.5 และอีกร้อยละ 22.5 ถือครองโดยนักลงทุนในท้องถิ่น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten213_Laosonly.php

รัฐบาลกัมพูชาออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชนสำรวจและผลิตเชื้อเพลิงภายในประเทศ

Angkor Resources Corp ประกาศว่า EnerCam Resources Corp. (Cambodia) Co., Ltd. (EnerCam) บริษัทย่อยสาขาพลังงานของบริษัท ได้รับใบอนุญาตขั้นสุดท้ายสำหรับการสำรวจ พัฒนา และผลิตบน Block VIII มีขนาดพื้นที่สำรวจมากถึง 7,300 ตารางกิโลเมตร บนชายฝั่งของกัมพูชา ด้าน Mike Weeks ประธานของ EnerCam กล่าวว่า การได้รับอนุญาตในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทและของประเทศกัมพูชา ซึ่งเกี่ยวกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ โดยคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในอนาคตของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกัมพูชา และเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในกัมพูชา รวมไปถึงการใช้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างพลังงานด้วยไฮโดรคาร์บอนนำมาซึ่งการพัฒนาในเชิงบวกและแผ่นแม่บทสำหรับทั้งประเทศ ด้านข้อมูล Angkor Resources Corp เป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนใน TSX-Venture Exchange และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทรัพยากรในกัมพูชา โดยมีใบอนุญาตในการสำรวจและผลิตแร่หลายแห่งในตอนเหนือของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501162922/onshore-exploration-and-production-license-for-cambodias-oil-gas-granted-to-angkor-resources-energy-subsidiary/

รัฐบาลให้คำมั่นแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำมัน กีบอ่อน หนี้สินประเทศ

รัฐบาลให้คำมั่นที่จะดำเนินการที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงและหนี้ที่เป็นหนี้กับบริษัทเอกชนและต่างประเทศ คำมั่นสัญญานี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในการบรรลุเป้าหมายของสองวาระแห่งชาติ ซึ่งพยายามบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ และควบคุมกับการป้องกันค้ายาเสพติด ในการประชุมประจำเดือนของคณะรัฐมนตรีที่จัดขึ้นที่เวียงจันทน์เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นชอบที่จะจัดหาแหล่งการลงทุนระยะยาวเพิ่มเติมจากภาคเอกชนในประเทศลาวและประเทศอื่นๆ และผลักดันโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ให้ก้าวหน้าตามแผนที่วางไว้ การเคลื่อนไหวเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างงานมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ควบคุมการใช้จ่ายและรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราให้มีเสถียรภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten103_Govtvows.php

อัตราเงินเฟ้อพุ่ง 7.3 % แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี

อัตราเงินเฟ้อปีเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.3 ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดที่นับแต่มีการบันทึกสถิติมา ราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นได้รับแรงหนุนจากต้นทุนเชื้อเพลิงและสินค้านำเข้าอื่นๆ ที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของ kip อย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น ด้านนักเศรษฐศาสตร์กังวลว่าราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากอุปสงค์และอุปทานไม่ตรงกัน รัฐบาลอาจเริ่มปรับราคาน้ำมันทุก 5-7 วัน แทนที่จะเป็นทุกสองสัปดาห์ หากราคาน้ำมันโลกยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อเพิ่มการผลิตเพื่อลดการนำเข้า และเพื่อควบคุมราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจและประชาชนทั่วไป รัฐบาลได้ตัดสินใจลดภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 7 ในปีนี้ และลดปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าราคาน้ำมันสำรองในปัจจุบันอยู่ที่ 0 กีบ/ลิตร ซึ่งจะช่วยบรรเทาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Inflation54.php