‘เวียดนาม’ เล็งขึ้นแท่นเศรษฐกิจดิจิทัลใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในอาเซียน ปี 2568

เวียดนามก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2568 ในขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซจะดึงดูดกิจการขนาดใหญ่ได้มากยิ่งขึ้น ทางด้านคุณ Do Huu Hung ผู้อำนวยการของบริษัท Accesstrade มองว่าอีคอมเมิร์ซควรเป็นก้าวแรกของการเดินทางออนไลน์ ตามมาด้วยบริการด้านโลจิสติกส์ เพื่อสร้างความมั่นในให้กับผู้บริโภคและปรับปรุงประสบการณ์การช้อปปิ้ง หากบริการด้านโลจิสติกส์ดีขึ้นแล้ว จะช่วยให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีมูลค่า 50-60% ของเศรษฐกิจเวียดนามในอนาคตข้างหน้า ทั้งนี้ ตามรายงาน “e-Commerce White Book 2020” เปิดเผยว่ารายได้ทั่วโลกจากอีคอมเมิร์ซแบบ B2C มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าในช่วงปี 2562-2566 จากระดับ 1.94 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นมาอยู่ที่ 2.88 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาซียน รวมถึงเวียดนามที่คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-to-become-second-largest-digital-economy-in-southeast-asia-in-2025-experts/225333.vnp

โบรกเกอร์ประเมิน ”เศรษฐกิจไทย” ซึมยาวถึงปี’70 การลงทุนหดตัว อสังหา อ่วมต้นทุนพุ่ง 10-15%

ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) กล่าวว่า จาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกแถลงการณ์ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ โดยเป็นตัวเลขสรุปล่าสุดในไตรมาสที่ 1/2565 โดย IMF คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 8 คือจะเติบโตเพียง 3.3% โดยจากข้อมูลสรุปได้ว่า  ประเทศที่มีรายได้ประชาชาติต่อหัวต่ำกว่าไทย มีอัตราการเติบโตสูงกว่าไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซียและกัมพูชา ยิ่งกว่านั้นประเทศที่ร่ำรวยกว่าไทย เช่น บรูไน มาเลเซียและสิงคโปร์ ก็มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าไทยเช่นกัน การนี้แสดงว่าประเทศไทยยังไม่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจเท่าที่ควร การที่เศรษฐกิจไทยยังไม่มีวี่แววที่จะ “รุ่งเรือง” แบบก้าวกระโดด เช่น กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย อาจทำให้ประเทศเหล่านี้แซงไทยไปได้ในด้านรายได้ประชาชาติต่อหัวในอนาคต และยิ่งทำให้การลงทุนจากต่างประเทศถูกแย่งชิงโดยประเทศอื่นมากขึ้น การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ก็คงไม่เติบโตอย่างมาก ยกเว้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ส่วนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม ก็คงไม่ได้เติบโตในอัตราสูงเช่นเดิม

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_3299964

‘เวียดนาม’ เผยนโยบายการคลัง คุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย

นาย Võ Thành Hưng รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเวียดนาม เปิดเผยว่าได้ดำเนินนโยบายการคลัง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตลอดจนควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย (4%) ที่สภาแห่งชาติกำหนดไว้ ท่ามกลางราคาสินค้าในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อตลาดในประเทศ ทั้งราคาอาหารและวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อของเวียดนาม เฉลี่ย 1.92% ในไตรมาสแรกของปีนี้ นโยบายการคลังจึงต้องลดภาษีและค่าธรรมเนียม เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้  ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของเวียดนามจะยังต่ำกว่า 4% และเสริมว่ารัฐบาลมีความสามารถที่จะควบคุมราคาสินค้าให้มีความยืดหยุ่น เช่น การลดภาษีการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสำหรับเชื้อเพลิง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1174694/fiscal-policies-work-to-keep-inflation-under-control.html

 

เมียนมาส่งออก “หมาก” ไปอินเดีย ลดฮวบ

ผู้ค้าหมากชาวเมียนมา เผย การส่งออกหมากของเมียนมาไปยังอินเดียลดลงอย่างมากในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหมากจะถูกส่งออกผ่านเขตย่างกุ้ง พะโค และมัณฑะเลย์ไปยังอินเดีย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการค้าชายแดนระหว่างเมียนมาและอินเดียลดลงอย่างต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและผลกระทบของโควิด-19 โดยในปีก่อนสามารถส่งออกได้ประมาณ 400-500 ถุง แต่ตอนนี้ลดลงเหลือ 300 ถุง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวเพิ่มส่งผลให้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้นจาก 3,600 จัต เป็น 4,500 จัตต่อถุง ปัจจุบันราคาหมากโดยทั่วไปอยู่ที่ 4,300-4,900 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ลดลงเมื่อเทียบกับราคาของปีก่อนที่สูงถึง 5,000-6,000 จัตต่อ viss ขณะเดียวกัน การนำเข้าหมากจากไทยเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาลดต่ำลง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-areca-nuts-exports-to-india-plummet/

หลวงพระบางพบนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 74%

นับตั้งแต่การรถไฟลาว-จีนเริ่มเปิดดำเนินการ ผู้คนในสปป.ลาวได้เดินทางไปทั่วประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปยังหลวงพระบาง โดยมีผู้มาเยือนภายในประเทศมากกว่า 67,000 ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 74 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว หลวงพระบางอยู่ในรายชื่อโซนท่องเที่ยวสีเขียวที่รัฐบาลกำหนดให้เดินทาง นับตั้งแต่ประเทศเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้งในเดือนมกราคม ภายหลังการปิดพรมแดนระหว่างการระบาดของโควิด ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวและปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยในโรงแรม เกสต์เฮาส์ และร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นภายใต้โครงการลาว Thaio Laos ซึ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ไม่เพียงแค่หลวงพระบางแต่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากในขณะนี้ ซึ่งได้ยกเลิกข้อจำกัดการเดินทาง ในขณะที่บริการของพนักงานต้อนรับก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Luang76.php

การลงทุนในกัมพูชาเพิ่มขึ้น หลังทางการออกกฎหมายรับมือโควิด-19

หลังจากประชากรภายในประเทศกัมพูชาได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในอัตราที่ค่อนข้างสูง และกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว ได้มีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนโครงการลงทุนใหม่ในกัมพูชา รายงานโดยสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ซึ่งมีการขอยื่นข้อเสนอการลงทุนใหม่จำนวน 35 โครงการ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 14 โครงการเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายงานระบุว่าโครงการลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตสามารถสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้กว่า 31,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 75 ด้านมูลค่าการลงทุนรวมของโครงการอยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 236 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งโครงการการลงทุนใหม่ยังไม่รวมโรงการที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501060981/kingdoms-new-investments-rise-on-covid-19-handling-law/

ทางการกัมพูชารายงานการจัดเก็บภาษีไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 22%

กรมภาษีอากรกัมพูชา (GDT) รายงานการจัดเก็บภาษี ณ ไตรมาส 1 ปี 2022 คิดเป็นมูลค่ารวม 1,263 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ครอบคลุมร้อยละ 45 ของเป้าหมายการจัดเก็บภาษีประจำปี 2022 ซึ่งในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว GDT จัดเก็บภาษีได้ 750 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 26 ของรายได้ทั้งหมดที่ตั้งเป้าไว้ ในด้านของกรมศุลกากรและสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้มูลค่า 512 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันกรมภาษีอากรยังคงเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินการตามกรอบนโยบายการคลังและมาตรการด้านการบริหารงาน ควบคู่ไปกับมาตรการสำคัญหลายประการเพื่อนำเงินที่ได้จากการจัดเก็บภาษีมาพัฒนาประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501060747/tax-income-collection-rises-by-22-percent-in-q1/

ราคาสินค้านำเข้า สปป.ลาว พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ต้นทุนของสินค้าในครัวเรือนที่นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 15-50 ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม จากผลการศึกษาล่าสุด จัดทำโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ รายงานวิจัยระบุว่าราคาที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการอ่อนค่าลงของ kip อย่างต่อเนื่องและต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น ซึ่งเกิดจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในครัวเรือนที่นำเข้ามีส่วนสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อในลาว โดยมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งเต่เดือนมกราคมที่อยู่ที่ร้อยละ 6.25% ในเดือนกุมภาพันธ์เป็น 7.31% และ 8.54% ในเดือนมีนาคม ทั้งนี้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องส่งเสริมการส่งออกเพื่อนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศมากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลควรมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ระบบธนาคารรวมึงควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเข้มงวด ส่งเสริมธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าส่งออกให้ดำเนินการผ่านระบบธนาคาร และดูแลให้การค้าสินค้าและบริการในลาวใช้ kip เป็นหลัก

 

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Price75.php

‘CP’ เล็งรุกขยายการลงทุนในเวียดนาม

วันที่ 18 เมษายน นายฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ได้เข้าพบกับนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และหารือกับการดำเนินงานและการผลิตของบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตลอดจนบรรยายกิจการเจริญโภคภัณฑ์ว่าเปิดธุรกิจในเวียดนามเมื่อปี 2536 ในอุตสาหกรรมเกษตรผ่านบริษัท ซีพี เวียดนาม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพนักงานชาวเวียดนาม จำนวนมากกว่า 30,000 คน และในปี 2563 บริษัท ซีพี ได้เปิดตัวโรงงานแปรรูปไก่ในจังหวัดบิ่นห์เยือ ประเทศเวียดนาม ด้วยกำลังการผลิต 50 ล้านตัวต่อปีในเฟสแรก และเฟสสอง จะสามารถผลิต 100 ล้านตัว ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ แสดงความยินดีกับความสำเร็จของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม

ที่มา : https://en.nhandan.vn/business/item/11414402-thailand-s-cp-group-interested-in-expanding-investment-in-vietnam.html

‘เวียดนาม’ เผยตลาดรถยนต์ในประเทศ มี.ค. เริ่มฟื้นตัว

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่าในเดือนมี.ค. มียอดขายรถยนต์กว่า 36,962 คัน เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน นับว่าเป็นเดือนแรกของปีนี้ที่ยอดขายรถยนต์ของสมาคมฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังจากในเดือนมกราคม ลดลง 34% และ 26% ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน อยู่ที่ 28,491 คัน รถยนต์เชิงพาณิชย์ 7,794 คัน เพิ่มขึ้น 63% และรถที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ 677 คัน เพิ่มขึ้น 41% นอกจากนี้ ภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ แสดงให้เห็นว่าในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกซื้อรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ เนื่องจากการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน 50% ตามพระราชกฤษฎีกาเลขที่ 103/2021 /ND ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2564 – 31 พ.ค.2565

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1174400/domestic-car-market-sees-consumption-growth-in-march.html