ทางการกัมพูชาผลักดันธุรกิจ SMEs ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์

รัฐบาลกัมพูชากำลังพยายามอย่างมากที่จะให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของกัมพูชา (SMEs) ขึ้นจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์และกรมสรรพากรมากขึ้น โดยต้องการให้ธุรกิจ SMEs ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และอีกทางหนึ่งเพื่อปกป้องผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มในวันที่ 25 ของเดือนถัดไป ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรามาตรฐานที่ร้อยละ 10 แต่ก็มีผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ต้องเสียภาษีพิเศษ (SPT) อาทิเช่น บุหรี่เสียภาษีร้อยละ 20 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้อยละ 35 และน้ำมันเครื่องร้อยละ 30 ในทางกลับกัน SPT สำหรับตั๋วเครื่องบินและบริการด้านความบันเทิง เช่น ผู้จัดคอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬาคิดเพียงน้อยละ 10 เท่านั้น โดยรัฐบาลมีความกระตือรือร้นที่จะเก็บภาษีทั้งหมดที่ค้างชำระ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาด ซึ่งกรมสรรพากรของกัมพูชาได้รายงานถึงการจัดเก็บภาษีมากกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 7.3 และคาดการณ์ว่าจะมีการจัดเก็บภาษีรวม 2.2 พันล้านดอลลาร์ ตลอดทั้งปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50936037/tax-changes-are-part-of-efforts-to-maintain-govt-revenue-experts-say/

‘เวียดนาม’ เผยราคาอพาร์ทเม้นท์พุ่งในเมืองโฮจิมินห์และฮานอย แม้ความต้องการลดลง

ราคาอพาร์ทเม้นท์ในเดือนสิ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และ 8% ในเมืองฮานอย แม้ว่าความต้องการลดลง ตามข้อมูลเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ “Batdongsan.com” เปิดเผยว่าการค้นหาอพาร์ทเม้นท์ในเมืองโฮจิมินห์ลดลง 23% และฮานอย 43% ชี้ให้เห็นถึงความต้องการของผู้คนลดลง สาเหตุสำคัญมาจากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นาย Dinh Minh Tuan ผู้อำนวยการเว็บไซต์ดังกล่าว มองว่ามาตรการเว้นระยะทางสังคม ทำให้แนวโน้มการลงทุนอสังหาฯ โยกย้ายไปยังตลาดหุ้นจำนวนมาก อย่างไรก็ดียังคงเป็นเพียงชั่วคราว เนื่องจากนักลงทุนยังถือครองอสังหาฯ และรอให้กลับมาซื้ออีกครั้งหลังจากสิ้นสุดการแพร่ระบาด นอกจากนี้ ปัจจัยทางด้านอุปทานที่ดินมีอยู่อย่างจำกัด ราคาที่ดินสูงขึ้น ความล่าช้าในการขอใบอนุญาตและการขาดแคลนอุปทาน ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาอพาร์ทเม้นท์พุ่งสูงขึ้น

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/apartment-prices-rise-in-hcmc-hanoi-despite-falling-demand-4356763.html

‘เวียดนาม’ เผยยกเว้นภาษีสินค้านำเข้า 0% จากกัมพูชา 31 รายการ

รัฐบาลเวียดนามออกพระราชกฤษฏีกาที่ “Decress 83/2021/ND-CP” เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ในประเด็นการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศกัมพูชา 31 รายการ ให้เหลือ 0% ได้แก่ สัตว์ปีกมีชีวิต เนื้อสัตว์ปีก มะนาว ข้าว ขนมปัง ขนมอบ เนื้อสุกรแปรรูปและใบยาสูบที่ยังไม่แปรรูป โดยพระราชกฤษฏีกาดังกล่าวกำหนดอัตราภาษีนำเข้าพิเศษตามข้อตกลงการส่งเสริมการค้าทวีภาคีระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา ปี 64-65 ทั้งนี้ พระราชกฤษฏีกาที่ “Decress 83/2021/ND-CP” มีผลยบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 2564 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-imposes-0-duty-on-31-commodities-imported-from-cambodia/

ตั้งแต่ ก.ค. ถึง ส.ค.64 เมียนมาไฟเขียวให้ต่างชาติลงทุนเพียงรายเดียว รวมมูลค่า 5 ล้านเดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) ระหว่างเดือนก.ค. – ส.ค. 2564 เมียนมาอนุญาตให้มีการลงทุนจากต่างประเทศเพียง 1 ราย ในภาคการผลิตเพียง 5.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม พ.ศ. 2564 เมียนมาร์อนุญาตการลงทุนจากต่างประเทศเพียง 5.3 ล้านเหรียญสหรัฐในภาคการผลิต ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563-2564 มีการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวม 45 โครงการ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคพลังงาน มากกว่า 80% ด้วยเงินลงทุนรวม 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ภาคเกษตรมีการลงทุนใน 2 โครงการ มูลค่าเกือบ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคปศุสัตว์และประมงจำนวน 6 โครงการ มูลค่ากว่า 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคการผลิตจำนวน 24 โครงการมูลค่ากว่า 262 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ธุรกิจโรงแรมและการท่องเทียวมีมูลค่าการลงทุนกว่า 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ธุรกิจที่ลงทุนในการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมมูลค่ากว่า 28 ล้านเดอลลาร์สหรัฐฯ การลงทุนในภาคบริการจำนวน 5 โครงการมูลค่ากว่า 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านการขนส่งและการสื่อสารมีการลงทุนมากกว่า 133 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภาคอสังหาริมทรัพย์ได้รับอนุมัติการลงทุนมากกว่า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2531-2532 จนถึงสิ้นเดือนก.ค. 2564 เมียนมาอนุญาตให้มีการลงทุนจากต่างประเทศไปแล้วมากกว่า 91,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://news-eleven.com/article/215851

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง และคณะ เยือนลาวไพพ์ส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ

บริษัท ลาวไพพ์ อินดัสเทรียล เทคโนโลยี โซล จำกัด (ลาวไพพ์) ให้การต้อนรับนายเวียงสวัสดิ์ สีพันโดน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง และคณะ เยี่ยมชมโรงงานผลิตและจำหน่ายท่อ DD และ LP ในเขตไชธานี เวียงจันทน์ นายบุญลอง กล่าวว่า “บริษัท ลาวไพพ์ อินดัสเทรียล เทคโนโลยี โซล จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2549 และตั้งแต่นั้นมาก็ได้จำหน่ายและจัดส่งสินค้าไปยังร้านค้ากว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ” และยังกล่าวเสริมว่ารัฐบาลส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในท้องถิ่นเพื่อลดการนำเข้า ท่อและอุปกรณ์ที่ผลิตในโรงงานลาวไพพ์มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากระบบตรวจสอบและทดสอบที่เหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ยังส่งเสริมเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับคนในประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Minister181.php

สถานการณ์การท่องเที่ยวในกัมพูชาปรับตัวดีขึ้น แต่จำนวนนักท่องเที่ยวยังคงต่ำ

จำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งในสี่ระหว่างสัปดาห์แรกและสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวได้รายงานว่าในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้คนออกมาเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศถึง 63,421 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.25 เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์แรกของเดือน ซึ่งคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาจำนวน 62,462 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 959 คน โดยจำนวนผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสามแห่งของกัมพูชา ลดลงมากกว่าร้อยละ 92 ตลอดปี จนถึงเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020 ซึ่งมีผู้เดินทางมายังสนามบินเสียมราฐเพียง 359 คน ในช่วง 7 เดือนแรกของปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50935298/domestic-tourism-on-the-rise-but-numbers-are-still-very-low/

บิ๊กซีรุกตลาดอาเซียน

บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เดินหน้าเปิดสาขา “มินิ บิ๊กซี” สาขาแรกในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เนื่องจากเห็นโอกาสการเติบโตทางการค้าของประเทศกัมพูชา โดยนับเป็นประเทศที่สามที่บิ๊กซีเดินหน้าขยายสาขา รองจากประเทศไทย และสปป.ลาว ซึ่งมินิบิ๊กซี มุ่งเน้นส่งมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ด้วยสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานในราคาที่เหมาะสม ด้านนายแกรี่ ฮาร์ดี้ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ฝ่ายธุรกิจค้าปลีกบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบริษัทบีเจซี เปิดเผยว่า บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาปอยเปต ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เดินหน้าขยายตลาดค้าปลีกในประเทศอาเซียน ล่าสุดเปิด “มินิบิ๊กซี สาขาตลาดเดโป” ร้านสะดวกซื้อสาขาแรกในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เนื่องจากมองเห็นโอกาสกำลังซื้อสูงจากการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยว ในประเทศกัมพูชาที่มีแนวโน้มเติบโต โดยได้รับเกียรติจาก นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำราชอาณาจักรกัมพูชา และ Mr. Penn Sovicheat ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิด

ที่มา : https://www.banmuang.co.th/news/directsale/250308

สหรัฐฯ สนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนโควิดในสปป.ลาว

รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขด้วยการแจกจ่ายวัคซีนโควิด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของโครงการฉีดวัคซีน และช่วยให้แน่ใจว่าผู้มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนทุกคน การสนับสนุนขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) มูลค่ากว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีต่อรัฐบาลลาวในช่วงเวลาที่ยากลำบากและท้าทายเหล่านี้ การสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะช่วยให้รัฐบาลเอาชนะความท้าทายที่พบในการควบคุมการระบาดของ Covid โดยให้ความช่วยเหลือในการแจกจ่ายวัคซีนและกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ที่ต้องการการฉีดวัคซีนมากที่สุด โครงการนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าการฉีดวัคซีนจะดำเนินการอย่างทันท่วงทีตามนโยบายและแผนของฝ่ายต่าง ๆ รวมถึงเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_USsupports_180.php

เวียดนามเร่งฉีดวัคซีนโควิดรับปลดล็อกดาวน์ปลายเดือนนี้

กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม ระบุว่า สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนในกรุงฮานอยได้มากกว่า 1 ล้านคนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดเป็นเกือบ 20% ของจำนวนวัคซีนทั้งหมดที่ฉีดในกรุงฮานอยตั้งแต่เดือนมี.ค. ทั้งนี้ นาย”ชู ง็อก อันห์” นายกเทศมนตรีกรุงฮานอย กล่าวว่า ทางการจำเป็นต้องเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อที่จะสามารถเปิดธุรกิจต่าง ๆ ได้อีกครั้ง จนถึงตอนนี้ ประชากรในกรุงฮานอยประมาณ 80% จากทั้งหมด 5.7 ล้านคน ได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อยหนึ่งโดส และทางการหวังว่าตัวเลขคนฉีดวัคซีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 100% ภายในสัปดาห์นี้

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/world/959943

‘เวียดนาม’ เผยยอดการส่งออกอาหารทะเลดิ่งลงฮวบ ท่ามกลางมาตรการเว้นระยะทางสังคม

สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่ามาตรการเว้นระยะทางสังคมที่เข็มงวดในหัวเมืองและจังหวัดทางภาคใต้ 19 จังหวัดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการผลิตและการแปรรูปอาหารทะเล ทำให้ยอดการส่งออกอาหารทะเลลดลงอย่างมาก ตามข้อมูลของสมาคมฯ แสดงให้เห็นว่ายอดการส่งออกอาหารทะเลของเวียดนามไปยังตลาดหลักในเดือนสิงหาคม ได้แก่ สหรัฐฯ และยุโรป ลดลงราว 16-50% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะตลาดเนเธอแลนด์และเยอรมนี ลดลงประมาณ 50% และ 42% ตามลำดับ โดยมูลค่าการส่งออกอาหารทะเลทั้งสิ้น แตะ 588 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว ลดลงราว 28% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ นาย Le Van Quang ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท Minh Phu กล่าวว่าบริษัทอาหารทะเลในจังหวัดทางภาคใต้ดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้นและผลผลิตลดลง

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/seafood-exports-drop-sharply-during-social-distancing/