กัมพูชาส่งออกมะม่วงสดเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 251 ในช่วง 8 เดือนแรกของปี

ทางการกัมพูชารายงานถึงการส่งออกมะม่วงสดภายในประเทศไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากกว่าร้อยละ 251 หรือคิดเป็นกว่า 163,828 ตัน ในช่วง 8 เดือนแรกของปี ตัวเลขดังกล่าวรายงานโดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง (MAFF) ซึ่งในเวลาเดียวกันกัมพูชาได้ทำการส่งออกแยมมะม่วงไปอีกกว่า 14,087 ตัน และน้ำเชื่อมจากมะม่วงกว่า 4,000 ตัน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 195 และ ร้อยละ 79 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกที่สำคัญของมะม่วงกัมพูชา ได้แก่ เวียดนาม ไทย จีน เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ คูเวต ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา คาซัคสถาน และรัสเซีย เป็นต้น ซึ่งกัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกมะม่วงมากกว่า 100,000 เฮกตาร์ และสามารถสร้างผลผลิตได้ประมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50931274/fresh-mango-exports-up-251-percent-in-first-eight-months/

อนาคตอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มกัมพูชา

การประชุมก่อนการเจรจาปรับค่าแรงขั้นต่ำในภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มกัมพูชา ระหว่างสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแห่งกัมพูชา (GMAC) และสหภาพแรงงาน รายงานว่าปัจจุบันคนงานในภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 192 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยสหภาพแรงงานกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มค่าแรงขึ้นเป็น 214.20 ดอลลาร์ต่อเดือน จากคำกล่าวของประธานสหภาพแรงงานกัมพูชา แต่ในทางกลับกันเลขาธิการ GMAC กล่าวว่านายจ้างส่วนใหญ่ยังคงรักษาระดับการจ่ายค่าจ้างไว้ ทั้งที่ควรจะลดลงในปีนี้ เนื่องจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน อุปสงค์ที่ลดลง ผลผลิตที่ลดลง และค่าธรรมเนียมการขนส่งที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเมื่อประเมินสถานการณ์จริงที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญอยู่ ชัดเจนว่าปัจจุบันยังไม่อยู่ในฐานะที่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่ง GMAC ยังได้เตือนอีกว่าการเพิ่มค่าจ้างขึ้นร้อยละ 11 จะทำให้นักลงทุนที่มีอยู่และนักลงทุนรายใหม่เกิดความกังวลและความไม่แน่ใจที่จะทำการลงทุนใหม่ จากการที่มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50931076/ministry-shares-bleak-data-on-the-garment-industry-future/

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเยือนอาเซียน เลือกไปเวียดนาม-กัมพูชา-สิงคโปร์ จับตากระชับอิทธิพลจีน

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเลือกไปเวียดนาม-กัมพูชา-สิงคโปร์ ในแผนเยือนอาเซียนสุดสัปดาห์นี้ จับตาเจรจากระชับอิทธิพลจีนในภูมิภาค หลังรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งเยือนสิงคโปร์-เวียดนามเมื่อเดือนที่แล้ว โดยวันที่ 8 ก.ย. 2564 เว็บไซต์ SCMP สื่อภาษาอังกฤษในฮ่องกง รายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ประกาศแผนเดินทางเยือนชาติในภูมิภาคอาเซียน โดยมีกำหนดเยือนเวียดนามในวันศุกร์นี้ (10 ก.ย.) ขณะเดียวกันรัฐมนตรีต่างประเทศจีนยังเลือกเดินทางเยือนกัมพูชาและสิงคโปร์ ก่อนจะจบท้ายด้วยการเยือนเกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า สำหรับประเด็นหารือ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า จะเน้นพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 และความร่วมมือในโครงการ 1 แถบ 1 เส้นทางเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายจับตาการพูดคุยประเด็นระหว่างประเทศอื่นๆ เช่น ข้อพิพาททะเลจีนใต้ ซึ่งจีนกำลังมีปัญหากับเวียดนามและหลายชาติอาเซียน รวมไปถึงสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งอาจมีการพูดคุยกันระหว่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเดินทางเยือนเกาหลีใต้ด้วย

ที่มา : https://workpointtoday.com/china-asean-trip/

รัฐบาลสปป.ลาวทุ่มกว่า 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในวังเวียง

รัฐบาลสปป.ลาวจะมีการใช้เงินมากกว่า 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการก่อสร้างถนนที่มุ่งสู่น้ำตกแก่งนุ้ยในจุดท่องเที่ยวของวังเวียงในแขวงเวียงจันทน์ โดยได้รับทุนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียมากกว่า 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตวังเวียงและรอบอ่างเก็บน้ำน้ำงึม โดย 4.6 ล้านเหรียญสหรัฐได้ถูกอนุมัติแล้วในการสร้างถนนที่มีอยู่เดิมไปน้ำตกแก่งยุ้ยระยะทาง 6 กิโลเมตร รวมถึงการก่อสร้างถนนและสะพานทางฝั่งตะวันตกของอำเภอวังเวียงเป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร และความกว้างของถนน 6 เมตร การสร้างถนนและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาแขวงเวียงจันทมากขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_OverUS_175.php

ชวน หารือ ปธ.สภาเวียดนาม เร่งแก้ปัญหาส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ช่วยเกษตรกร

นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากรายงานการประชุมหารือทวิภาคีระหว่าง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กับ นายเวือง ดิ่งห์ เหวะ (H.E.Mr.Vung Finh hue) นายเวือง ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการหารือเรื่องความร่วมมือและกำจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างไทย-เวียดนาม โดยนายชวนได้หารือเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกรในการส่งออกผลไม้จากไทยไปจีน เพราะตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลไม้ของไทยและจะมีการส่งผลไม้จากไทยไปจีนมากกว่าช่วงเวลาอื่นของปี แต่มีปัญหาคือรถบรรทุกผลไม้ติดสะสมที่ด่านจังหวัดหล่าง เชิน (Lang Son) ของเวียดนามที่จะเข้าประเทศจีน จนทำให้ผลไม้เน่าเสียเกษตรกรเดือดร้อน ดังนั้น นายชวน จึงขอให้ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้พิจารณาหาแนวทางแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาดังกล่าว

ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_2927653

‘เวียดนาม’ เผย 8 เดือนแรก ทุ่มเงินต่อสู้กับโควิด-19 กว่า 827 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ รัฐบาลเวียดนามใช้เงินราว 18.8 ล้านล้านดอง (827 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกัน จำนวนเงินอีก 2.55 ล้านล้านดอง (11.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) ได้รับการจัดสรรจากกองทุนเวียดนาม (VFVC) มีบทบาทสำคัญในการจัดหาวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งนี้ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์  นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้สั่งให้มีการจัดส่งข้าว 74,300 ตัน เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและโควิด-19 นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ชี้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4 ส่งผลกระทบต่อรายรับงบประมาณลดลง ขณะเดียวกันกิจกรรมการค้าขายก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

ที่มา : http://hanoitimes.vn/over-827-million-allocated-to-covid-19-fight-in-8-months-318627.html

‘เวียดนาม’ เผยเดือน ม.ค.-ส.ค. ภาคเกษตร ป่าไม้และประมง เกินดุลการค้าลดลง

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท เปิดเผยว่าตั้งแต่เดือนม.ค.-ส.ค. ภาคเกษตร ป่าไม้และประมงของเวียดนาม ทำรายได้จากการส่งออก 32.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ยอดการนำเข้าสินค้า 28.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้เกินดุลการค้าแตะ 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 48.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมงลดลงอย่างมาก เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4 ทำให้บริษัทแปรรูปและส่งออกหลายแห่งดำเนินการผลิตได้เพียง 30-40% ขณะเดียวกันยังมีธุรกิจอีกหลายแห่งต้องระงับการดำเนินกิจการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมงรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ด้วยมูลค่า 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/agro-forestry-fishery-sector-earns-smaller-trade-surplus-in-jan-aug/

กัมพูชาร่วมกับสำนักงานสมาคมธุรกิจไทย ส่งเสริมการค้าระหว่างกัน

สมาคมสภาส่งเสริมการค้าธุรกิจกัมพูชา (CBC) และสมาคมธุรกิจไทยในกัมพูชา (TBCC) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อร่วมมือกันในการส่งเสริมกิจกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักหลายประการ อาทิเช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการสารความสัมพันธ์สำหรับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการค้าและการพัฒนาตลาดร่วมกัน แลกเปลี่ยนเครือข่ายธุรกิจ สนับสนุนช่องทางการตลาดเพื่อส่งเสริมธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการลงทุนระหว่างกัน และการดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งในปัจจุบันการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยลดลงในช่วงหกเดือนแรกของปี โดยลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1 มาอยู่ที่มูลค่า 3.98 พันล้านดอลลาร์ จาก 4.03 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังไทยลดลงร้อยละ 33 มาอยู่ที่ประมาณ 516 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าจากไทยถูกตรึงไว้ที่ 3.47 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50930585/cambodia-thai-business-councils-agree-more-trade/

การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสีหนุวิลล์ เลื่อนกำหนดการเป็นปี 2022

เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวว่าการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเฟสแรกของท่าเรือปกครองตนเองสีหนุวิลล์ (PAS) จำเป็นต้องเลื่อนการเริ่มก่อสร้างในเฟสแรกออกไปจนถึงช่วงปีหน้า โดยคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2025 ซึ่งท่าเรือน้ำลึกแห่งนี้กำหนดความยาวไว้ที่ 350 เมตร และความลึกอยู่ที่ 14.50 เมตร รองรับเรือบรรทุกสินค้าที่กินน้ำลึกประมาณ 13 เมตร และเรือขนาดกลางที่มีความจุ 5,000 TEU โดยโครงการมีมูลค่าอยู่ที่ 218 ล้านดอลลาร์ได้รับการพัฒนาภายใต้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้โครงการก่อสร้างมีกำหนดเริ่มการก่อสร้างในช่วงกลางปี 2021 ซึ่งการเลื่อนการก่อสร้างเป็นผลมาจากการออกแบบเลย์เอาต์ที่ช้ากว่าที่วางแผนไว้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50930380/construction-of-first-deep-port-terminal-at-sihanoukville-rescheduled-for-2022/

แตงโมเขตมะกเว ยอดขาย พุ่ง เกษตรกรเฮ รายได้งาม

ผลผลิตแตงโมเมือง Gangaw Township ในเขตมะกเวเริ่มจำหน่ายในท้องถิ่นและพื้นที่แถบชายแดน เมียนมา-อินเดีย และเมืองกะเลย์ มะละกอในเขตชินวินตอนบน ซึ่งสร้างรายได้อย่างงามให้กับเกษตรกรในท้องถิ่นจากความต้องการที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาอยู่ที่ 700-1,000 จัตต่อลูก ขึ้นอยู่กับขนาด อย่างไรก็ตาม ราคาลูกเล็กราคาอาจถึง 1,200 จัตต่อลูก และ 2,500 จัตสำหรับลูกโตในตลาดกะเล่, ตามู และเมาลาย ในตลาดชายแดนเมียนมา-อินเดีย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/watermelon-in-magway-sells-well/#article-title