สปป.ลาว-สหภาพยุโรป ร่วมพัฒนาห่วงโซ่มูลค่าสินค้ากาแฟ ชา และผลิตภัณฑ์ป่าไม้

รัฐบาล สปป.ลาว สหภาพยุโรป (EU) ผู้แทนจากฝรั่งเศสและเยอรมนี ร่วมเปิดตัวโครงการ Global Gateway มูลค่าหลายล้านยูโร เพื่อพัฒนาห่วงโซ่มูลค่ากาแฟ ชา และป่าไม้ และสนับสนุนการเข้าถึงตลาด โครงการนี้มีขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้า การลงทุน และการเชื่อมต่อในภาคการเกษตรและป่าไม้ที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืนและครอบคลุมของกาแฟ ชา และผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ ที่ สปป.ลาว กำลังทำการค้ากับสหภาพยุโรป เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงตลาดระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเชื่อมต่อห่วงโซ่มูลค่าที่ดีขึ้นกับตลาดระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ผ่านการฟื้นฟูทางหลวงหมายเลข 2 ที่เป็นเส้นทางไปสู่ประเทศไทยและเวียดนามที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหภาพยุโรป จำนวน 28 ล้านยูโร ฝรั่งเศส 4.65 ล้านยูโร เยอรมนี 11 ล้านยูโร และเงินกู้ที่ได้รับสัมปทานจากธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรป 50 ล้านยูโร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_54_LaosEU_y24.php

การค้าชายแดนเมียนมา-ไทยมีมูลค่าสูงถึง 4.1 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 11 เดือน

การค้าชายแดนของเมียนมากับประเทศไทยมีมูลค่ารวม 4.136 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-มีนาคม) ของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงจาก 4.99 พันล้านดอลลาร์ที่บันทึกไว้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งลดลงอย่างมากที่ 857.145 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เมียนมาดำเนินการค้าข้ามพรมแดนกับไทยผ่านทางท่าขี้เหล็ก เมียวดี เกาะสอง มะริด บ้านพุน้ำร้อน และมอตอง ซึ่งชายแดนบ้านพุน้ำร้อน มีการค้าขายที่ครอบคลุมมากที่สุดซึ่งมีมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ชายแดนเมียวดีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 1.097 พันล้านดอลลาร์ ที่ท่าขี้เหล็ก 150.597 ล้านดอลลาร์ ที่มะริด 132.668 ล้านดอลลาร์ ที่เกาะสอง 199.131 ล้านดอลลาร์ และที่มอตอง 21.6 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailand-border-trade-tops-us4-1-bln-in-11-months/

เมียนมาเข้าร่วมการประชุมโอกาสการลงทุนและธุรกิจที่เวียดนาม

กระทรวงการต่างประเทศเมียนมา (MoFA) รายงานว่า เมียนมาเข้าร่วมการประชุมเรื่องการลงทุนและโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ณ เมืองฮาลอง จังหวัดกว๋างนิงห์ ประเทศเวียดนาม ด้าน U Soe Ko Ko อุปทูตชั่วคราวประจำเวียดนาม เป็นตัวแทนของเมียนมาในงานนี้ตามคำเชิญของหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม อย่างไรก็ดี ก่อนเริ่มการประชุม U Soe Ko Ko ได้พบกับนาย Cao Tuong Huy ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนิงห์ ในระหว่างการหารือ U Soe Ko Ko เสนอการเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีในด้านการค้าและการค้า การเกษตร การท่องเที่ยว และการส่งออกเครื่องนุ่งห่ม โดยคาดว่าจะครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตทวิภาคีในปีหน้า นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตและผู้แทนการค้าจากสถานทูตต่างประเทศในกรุงฮานอยก็เข้าร่วมงานด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-attends-investment-business-opportunities-meeting-in-viet-nam/

2 เดือนแรกของปี กัมพูชาดึงดูดการลงทุนกว่า 1.39 พันล้านดอลลาร์ เข้าประเทศ

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งชาติกัมพูชา (CDC) รายงานว่าในช่วงสองเดือนแรกของปี 2024 ทางการกัมพูชาได้อนุมัติโครงการลงทุนในทรัพย์สินถาวรมูลค่ารวม 1.39 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากคิดเป็นการเติบโตประมาณกว่า 500% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในรายงานระบุว่าในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปีนี้ กัมพูชาได้รับการลงทุนจากจีนสูงสุดที่มูลค่าราว 545 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 39 ของเงินทุนการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งโครงการที่ได้รับการอนุมัติ ได้แก่ โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า โรงงานประกอบจักรยานไฟฟ้าและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โรงงานเหล็ก โรงงานเสื้อผ้าและสิ่งทอ โรงงานแปรรูปผลไม้ และโรงแรมหรู เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501454423/cambodia-attracts-1-39-bln-investment-in-first-2-months-of-2024/

กัมพูชาส่งออกขยายตัว 22.7% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี

มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาเติบโตกว่าร้อยละ 19.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ก่อน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 8.12 พันล้านดอลลาร์ เผยแพร่โดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 คิดเป็นมูลค่ารวม 3.98 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 ที่มูลค่า 4.13 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในช่วงเวลาดังกล่าวที่สหรัฐฯ ยังคงเป็นปลายทางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา รองลงมาคือเวียดนาม ส่งผลทำให้กัมพูชามีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ 1.26 พันล้านดอลลาร์ แต่ขาดดุลการค้ากับจีนที่มูลค่า 1.74 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501454157/cambodias-exports-surge-22-7-in-first-two-months/

‘ยูโอบี’ คาดไตรมาส 1 ศก.เวียดนามโต 5.5%

ธนาคารยูโอบี (UOB) ประเมินทิศทางเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) คาดว่าจะขยายตัว 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว กลับมาฟื้นตัวและเร่งขยายตัว 6.72% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องมาจากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิเช่น ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวในเดือน ก.พ.67 โดยการส่งออกหดตัว 5% ในขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรม หดตัว 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สาเหตุสำคัญมาจากอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของ UOB มองว่าโมเมนตัมยังคงไปในทิศทางเชิงบวก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เนื่องจากได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตฯ เซมิคอนดักเตอร์ และการเปลี่ยนแปลงของธนาคารกลางทั่วโลกไปสู่นโยบายผ่อนคลาย

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-q1-economic-expansion-projected-at-5-5-uob/

การส่งออกจากภาคการผลิตทะลุ 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 1 มีนาคม

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เผยว่ามูลค่าการส่งออกจากภาคการผลิตมีมูลค่า 8.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 1 มีนาคมของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งลดลง 1.975 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูปมีมูลค่า 10.255 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เมียนมายังคงพลักดันภาคการส่งออก ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) พ.ศ. 2563-2568 เพื่อสนับสนุนการส่งออก ภาคส่วนที่มีลำดับความสำคัญของ NES ประกอบด้วยการผลิตทางการเกษตร เครื่องนุ่งห่มและเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจประมง ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ การผลิตและบริการดิจิทัล บริการโลจิสติกส์ การจัดการคุณภาพ บริการข้อมูลการค้า นวัตกรรม และภาคส่วนของผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/exports-from-manufacturing-sector-surpass-us8-2b-as-of-1-march/#article-title

แผนดำเนินการจ่ายไฟฟ้าให้กับหมู่บ้าน 900 แห่งทั่วประเทศในปี 2567

U Maung Win รองอธิบดีกรมพัฒนาชนบท ประกาศว่าขณะนี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับหมู่บ้านทั้งหมด 900 แห่งทั่วประเทศผ่านระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับบ้านขนาดเล็กด้วยงบประมาณ 20 พันล้านจ๊าดในปี 2567 โครงการได้เริ่มดำเนินการมาแล้ว ในปีงบประมาณ 2559-2560 เพื่อนำไฟฟ้ามาสู่หมู่บ้านที่อยู่ห่างจากระบบโครงข่ายแห่งชาติมากกว่า 10 ไมล์ อย่างไรก็ดี ในการดำเนินโครงการ จะให้ความสำคัญกับหมู่บ้านที่สามารถบริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้กับต้นทุนได้ ปัจจุบัน หมู่บ้านประมาณ 10,000 แห่ง (500,000 หลังคาเรือน) ได้รับไฟฟ้าใช้แล้วภายใต้โครงการของธนาคารโลกระหว่างปีงบประมาณ 2559-2560 และปีงบประมาณ 2564-2565

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/plan-underway-to-provide-electricity-to-900-villages-across-nation-in-2024/

‘GDP เวียดนาม’ ก้าวกระโดด มูลค่าทะลุ 430 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 66

จากรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม มีมูลค่าราว 433.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 และอยู่ในอันดับที่ 5 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย มูลค่า 1.54 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ไทย สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของโลกในปีที่แล้ว คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 104.48 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยสหรัฐอเมริกายังคงมีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยมูลค่าที่ 26.95 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์และวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร (CEBR) ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการจัดอันดับของขนาดเศรษฐกิจเวียดนาม มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นในอนาคตข้างหน้าและคาดว่าเวียดนามจะขึ้นอันดับที่ 24 ภายในปี 2576 ด้วยขนาดเศรษฐกิจสูงถึง 1,050 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://en.baochinhphu.vn/vietnamese-gdp-size-hits-over-us430-billion-in-2023-111240312092316328.htm

‘เวียดนาม’ ส่งออกสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

หนังสือพิมพ์เดอะ ฮินดู (The Hindu) รายงานว่าส่วนแบ่งการส่งออกสมาร์ทโฟนของเวียดนามในปี 2565 สูงถึง 12% ของตลาดสมาร์ทโฟนโลก ในขณะเดียวกัน อินเดียเป็นคู่แข่งของเวียดนามในตลาดสมาร์ทโฟนและอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก ด้วยส่วนแบ่งการส่งออกมากกว่า 2.5% อย่างไรก็ดีจีนยังคงครองส่วนแบ่งการส่งออกสมาร์ทโฟนกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดโลก

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมศุลกากร เปิดเผยว่าการส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วนของเวียดนามในเดือน ม.ค. มีมูลค่ามากกว่า 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และจากรายงานของธนาคาร HSBC แสดงให้เห็นว่าเวียดนามครองส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนโลกถึง 13% ในปี 2564 โดยเป็นผู้ส่งออกสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ที่มา : https://www.nationthailand.com/world/asean/40036303