ด่านชายแดนตามูเมียนมา-อินเดีย ยังถูกสั่งปิด

นาย U Kyaw Win Oo ผู้ดูแลเขต Tamu กล่าวว่าพื้นที่ชายแดนเมืองตามู ในเขตสะกาย ระหว่างเมียนมาร์และอินเดียยังถูกสั่งปิดต่อไป ส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าของใช้ส่วนตัว เครื่องครัว ผักและผลไม้ ถั่ว หัวหอม กระเทียม และถั่วลันเตา ส่วนการนำเข้าอาหาร เสื้อผ้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รถมอเตอร์ไซด์ เส้นด้าย ฝ้าย เหล็กที่ไม่ใช่โลหะผสมและ วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ รัฐบาลเมียนมาปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่วันที่ 14 ถึงสิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งเกือบ 60% ของชาวท้องถิ่นการดำรงชีพขึ้นอยู่กับการค้าชายแดน ทั้งนี้แดนเมียนมาร์ – อินเดียส่งผลต่อการค้าขายของคนในพื้นที่ ณ วันที่ 19 มีนาคม 64 ปีงบประมาณ 63-64 การค้าชายแดนของทั้ง 2 ประเทศมีมูลค่ารวม 145 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/tamu-border-still-requested-to-close/#article-title

‘เอกชน’ ย้ำต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน หวั่นล่าช้ากระทบเปิดประเทศ

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เผยกรณีที่ประชาชนเริ่มกังวลการฉีดวัคซีนรักษาโควิด-19 ว่า ถือเป็นเรื่องปกติเพราะการพัฒนาวัคซีน เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนจึงทำให้มีการทดลองเพียง 1 ปี ที่กังวลเนื่องจากกระแสข่าวออกมาว่า มีคนฉีดแล้วเสียชีวิต ดังนั้นรัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเลือกชนิดของวัคซีนให้เหมาะกับคนฉีด แต่หากกังวลจนไม่อยากฉีดวัคซีนจะกระทบต่อการเปิดประเทศ รัฐบาลจึงต้องเร่งผลักดันให้ฉีดในจังหวัดนำร่องก่อน เริ่มด้วยภูเก็ต ให้ทันก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยว ในวันที่ 1 กรกฎคมนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนในพื้นที่แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา

ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_2657526

เซ็นทรัลเดินหน้าลุยลงทุนเวียดนาม 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ อีก 5 ปีข้างหน้า

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดแผนการลงทุนในเวียดนามอีก 5 ปีข้างหน้า จำนวน 35 ล้านบาท (1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานกรรมการบริษัท กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 9 ปีของธุรกิจที่ดำเนินกิจการในเวียดนาม กลุ่มธุรกิจอาหารยังคงเป็นภาคที่สำคัญ ด้วยสัดส่วน 70% ของรายได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน บริษัทตั้งเป้าที่จะพัฒนาธุรกิจที่มิใช้ประเภทอาหารและ “Omni Channel Platform” ทั้งนี้ คุณ Philippe Broianigo ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – เซ็นทรัลรีเทล เวียดนาม กล่าวว่าบริษัทได้จัดทำแผนโรดแมป เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมุ่งที่จะขยายธุรกิจในลักษณะการเจาะตลาดหลายช่องทางทั้งศูนย์กลางเมือง ขานเมืองและชนบท รวมถึงปรับปรุงแบรนด์ธุรกิจอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดตัวศูนย์การค้า GO! หลายจังหวัดในเวียดนาม และปีนี้ ธุรกิจยังคงขยายกิจการ 6 พันล้านบาท (191.8 ล้านเหรียญสหรัฐ)

 ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/917608/central-retail-to-invest-11-billion-in-viet-nam-in-next-5-years.html

HSBC ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนาม

ธนาคาร HSBC ปรับคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้ จาก 7% เป็น 6.6% หลังจากในไตรมาสแรก การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ GDP ขยายตัว 4.48% ในไตรมาสแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของเทคโนโลยีเพิ่มสูงขึ้นและเม็ดเงิน FDI ที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามร่วมลงนามหลายฉบับ ทำให้เวียดนามยังคงเป็นดาวเด่นในเอเชีย ทั้งนี้ การส่งออกในไตรมาสแรก พุ่ง 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรสูงขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกและภูมิภาคแปซิฟิกในปี 2564 ด้วยอัตราการขยายตัว 6.6% อีกทั้ง ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามโต 6.1% และ 6.5% ตามลำดับ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/hsbc-grows-less-bullish-on-vietnam-growth-prospects-4256989.html

จุรินทร์’ ลุย MINI-FTA ดันส่งออกทะลุ 4%

จุรินทร์ จัดทัพส่งออกไทยลุยทำมินิเอฟทีเอ เจาะรายเมืองรายมณฑล นำร่องมณฑลไห่หนาน ลงนามปลายเม.ย. หวังยอดส่งออกโตเกิน 4% ด้านเอกชนช่วงเอสเอ็มอีจีนลงทุนร่วมหุ้นผู้ประกอบการไทยสาขาเกษตรและประมง ติดตามได้จากรายงาน

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/930396

เวียดนามดึงดูดเม็ดเงิน FDI พุ่ง 18.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ (FIA) ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม ระบุว่านักลงทุนต่างชาติหอบเงินลงทุนไปยัง 17 ภาคอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นแหล่งดึงดูดเม็ดเงินทุนรวม ประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 49.6% ของยอดเงินทุนรวม รองลงมาการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า อสังหาริมทรัพย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามลำดับ ทั้งนี้ ณ วันที่ 20 มีนาคม มูลค่าเงินทุนจดทะเบียนธุรกิจใหม่และการซื้อหุ้นกิจการจากนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งสิ้น 10.13 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในช่วงไตรมาสแรก มีมูลค่า 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นสัดส่วน 45.6% ของยอดเงินทุนรวม รองลงมาญี่ปุ่น (20.8%), ญี่ปุ่น (20.8%),เกาหลีใต้ (11.8%), จีน ฮ่องกงและสหรัฐฯ ตามลำดับ

ที่มา : https://en.dangcongsan.vn/economics/total-fdi-capital-rises-18-5-from-same-period-last-year-571882.html

เวียดนามเผย CPI มี.ค. หดตัว -0.27%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค หลังเทศกาลเต็ต (Tet)  และราคาอาหารปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากปริมาณอาหารเหลือเฟือ ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคม ติดลบ 0.27% จากช่วงเดียวกันของเดือนก่อน ในขณะที่ เพิ่มขึ้น 1.16% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าตัวเลขดังกล่าว อยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 ทั้งนี้ ดัชนี CPI ในไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้น 0.29% เหตุจากราคาข้าวปรับตัวพุ่ง 8.55% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. อันเป็นผลของราคาสินค้าโลกที่เพิ่มสูงขึ้นและความต้องการข้าวเกรดพรีเมี่ยมจำนวนมาก ในช่วงเทศกาลเต็ต

ที่มา : https://en.dangcongsan.vn/economics/march-cpi-decreases-0-27-571880.html

เกษตรกรบ้านเมาะ “ปลูกแตงโม” สร้างยอดขายกำไรงาม

เกษตรกรผู้ปลูกแตงโม (แตงโมยักษ์ไต้หวัน) เมืองบ้านเมาะ เขตสะกายมีรายได้จากยอดขายที่พุ่งขึ้น หลังการเพาะปลูกข้าวเกษตรกรบ้านเมาะใช้เวลาปลูกแตงโมงเป็นเวลา 100 วัน ราคาขายจะอยู่ระหว่าง 2,500 ถึง 4,000 จัตขึ้นอยู่กับขนาด สามารถทำกำไรได้ปีละ 1 ถึง 1.5 ล้านจัต นอกจากนี้การปลูกแบบปลอดสารเคมียังดึงดูดผู้ซื้อเป็นจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับการดำรงชีพและเศรษฐกิจและสังคมของคนในท้องถิ่น ขณะนี้รถบรรทุกแตงโมมากกว่า 1,000 คันติดอยู่ในเขตการค้า 105 ไมล์ในเมืองมูเซ รถบรรทุกกว่า 200 คันกำลังแล่นผ่านชายแดนเมียนมา-จีน ส่งผลให้ส่งผลให้แตงโมเกินความต้องการอาจนำไปสู่ความล้มเหลวของระบบตลาด ซึ่งตลาดแตงโมพึ่งพาจีนเป็นหลัก ในเดือนธันวาคม 63 และมกราคม 64 เมียนมาได้ส่งแตงโมไร้เมล็ด 45 ตันไปยังตลาดดูไบ และมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังฮ่องกง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ ในช่วงปีที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับความเสียหายจากราคาที่ไม่แน่นอนและปัญหาการขนส่งจากการระบาดของ COVID-19 แตงโมและเมลอนจะเก็บเกี่ยวได้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมยกเว้นรัฐกะยาและชิน เมียนมาส่งออกแตงโมมากกว่า 800,000 ตันต่อปีและเมลอนประมาณ 150,000 ตันไปยังจีน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/1-april-2021/#article-title

รัฐบาลผลักดันให้มีการเชื่อมระหว่างระบบโทรคมนาคมกับแหล่งผลิตในประเทศ

การสร้างถนนและทางรถไฟที่เชื่อมต่อเขตการผลิตกับระเบียงเศรษฐกิจสปป.ลาว – ​​จีนเป็นสิ่งจำเป็นหากสปป.ลาวต้องการได้รับประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญจากการรวมกลุ่มในภูมิภาค Dr. Sonexay Siphandone รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน กล่าวกับรัฐสภาในที่ประชุมที่ผ่านมาว่า “ รัฐบาลกำลังมุ่งเน้นที่จะสร้างทางรถไฟและทางด่วนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระเบียงเศรษฐกิจลาว – ​​จีน โดยเรามุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทางรถไฟโดยเฉพาะการสร้างสถานีรถไฟหลัก 4 สถานีที่จะกลายเป็นศูนย์กลางของเมืองใหม่ที่ทันสมัย เมืองเหล่านี้จะเชื่อมต่อกับสวนอุตสาหกรรมและเขตการผลิตทางการเกษตรใน 10 แขวงที่สำคัญ” การดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดตามแนวระเบียงเศรษฐกิจลาว – ​​จีนจะช่วยส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากและจะนำการลงทุนมาสู่ภูมิภาคมากขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt64.php

ธนาคารกลางกัมพูชารายงานสถานการณ์ดัชนีราคาผู้บริโภค

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ภายในประเทศประจำเดือนธันวาคม 2020 อยู่ในเกณฑ์ชะลอตัวแสดงถึงความมีเสถียรภาพมากขึ้นในส่วนของราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค รวมถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของกำลังซื้อภายในท้องถิ่น โดยธนาคารกลางกล่าวว่า CPI ของเดือนธันวาคมลดลงเหลือร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันอยู่ที่ 4,069 เรียลต่อดอลลาร์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพฤศจิกายน 2020 แม้จะมีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลกัมพูชาได้ทำงานอย่างหนักในการลดอำนาจค่าเงินดอลลาร์ลงเพื่อทำการควบคุมและเป็นการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50832887/central-bank-december-data-indicates-an-increase-in-purchasing-power/