สมาคมรองเท้ากัมพูชาเรียกร้องให้ EU เลื่อนการถอดถอน EBA ของกัมพูชา

พนักงานมากกว่า 40,000 คน ในภาคการผลิตรองเท้าได้รับผลกระทบแล้วในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาดของ COVID-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ โดยแรงงานกว่า 40,000 คน ในอุตสาหกรรมมีความเสี่ยงที่จะตกงาน ซึ่งข้อมูลถูกเปิดเผยโดยสมาคมรองเท้ากัมพูชา (CFA) ในแถลงการณ์ โดยได้ขอให้สหภาพยุโรปชะลอการถอนสิทธิพิเศษทางการค้า (EBA) ซึ่งสหภาพยุโรปถอดถอนสิทธิพิเศษของกัมพูชาจากปัญหาสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ รวมถึง CFA ประกาศถึงปริมาณการสั่งซื้อที่มีอยู่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 ที่จะส่งผลให้โรงงานกว่า 70 แห่ง ของสมาชิกในกลุ่มกำลังเตรียมการสำหรับการลดการจ้างงานต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50750848/cambodia-footwear-association-appeals-to-eu-again-to-postpone-eba-withdrawal-says-80000-jobs-at-risk/

อนุสัญญาว่าด้วยความร่วมมือว่าด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ (CCM) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิต

สปป.ลาวจะยังคงได้รับประโยชน์จากการเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ (CCM) เพื่อลดผลกระทบของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่ระเบิด (UXO) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนที่ได้รับผลกระทบความเสี่ยงของระเบิดที่ยังไม่ถูกเก็บกู้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมและประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการแห่งชาติของคณะทำงาน UXO กล่าวว่า “สปป.ลาวมีความคืบหน้าสำคัญในข้อผูกพันเหล่านี้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา วิธีการสำรวจได้รับการแก้ไขและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง” นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่าการลงนามในอนุสัญญา CCM ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสปป.ลาวเพราะเป็นกลยุทธ์ที่ยั่งยืนเพื่อให้แน่ใจว่าชีวิตปลอดภัยจาก UXO และความมั่นคงของประเทศที่จะมีเสถียรภาพมากขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Convention_148.php

การวางรางรถไฟสปป.ลาว – จีน คืบหน้าไปกว่า 20%

บริษัท Laos-China Railway จำกัด ได้แจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการระยะทาง 414.3 กม. ว่าการดำเนินงานของรากฐานจากนครเวียงจันทน์ไปยังชายแดนสปป.ลาว-​​จีนในแขวงหลวงน้ำทาเสร็จสมบูรณ์100% และการวางรางเหล็กคืบหน้าไปกว่า 21.4% ซึ่งปัจจุบันมีการเจาะอุโมงค์ 71 แห่งใน 75 อุโมงค์และการก่อสร้างสะพานรถไฟคืบหน้าไปกว่า 88% การติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงดำเนินการไปแล้ว 57.4 % อย่างไรก็ตามบางสถานียังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเนื่องจากผลกระทบรุนแรงจาก COVID-19 และหลายพื้นที่ยังอยู่ในระหว่างการไกล่เกลี่ยกับผู้ถือครองที่ดิน ตามที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ 8 ของรัฐสภา (NA) ยังมีกระแสความคิดเห็นสาธารณะที่มั่นคงเกี่ยวกับค่าตอบแทนที่ไม่แน่นอนในแขวงอุดมไซและนครเวียงจันทน์ ดังนั้น NA จึงแนะนำให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องของทั้งสองแขวงยังคงทำงานร่วมกับผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ได้ข้อยุติที่น่าพอใจ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_china_148.php

CHID Bank พักชำระหนี้เงินกู้จากภาวะ COVID-19

ธนาคารเพื่อการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐาน (CHID) ประกาศว่าพักชำระหนี้เพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ธนาคาร CHID เป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาลจัดตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2556 ภายใต้กระทรวงการก่อสร้างเพื่อมุ่งเน้นการจัดหาที่อยู่อาศัยราคาถูกและราคาไม่แพงให้กับประชาชนทั่วไป แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินกู้และประวัติการชำระหนี้ของลูกค้าด้วย ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามคำแนะนำของธนาคารกลางของเมียนมา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ธนาคารคิดค่าปรับสำหรับการชำระหนี้ล่าช้า 15 วันต่อมานับจากวันสุดท้ายของเดือนสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ต้องชำระในเดือนพฤษภาค มมิถุนายน และกรกฎาคม ก่อนหน้านี้ธนาคารคิดค่าปรับร้อยละ 0.01 ต่อวันสำหรับการชำระเงินล่าช้า ธนาคารยังลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 0.50 เป็นร้อยละ 1.50 ขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/chid-bank-delays-loan-repayment-period-clients-amid-covid-19.html

รัฐบาลเมียนมาเผยแผนสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) ในรัฐมอญ

เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) จะดำเนินการในรัฐมอญโดยเชื่อมโยงเมียนมากับแนวพื้นที่เศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำตะวันออก-ตะวันตก โดย SEZ แห่งใหม่มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อกับดานังของเวียดนามและจะเป็น SEZ ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมาหากได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการพัฒนาและใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีจึงจะแล้วเสร็จ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับประเทศที่อยู่บนทางเดินเศรษฐกิจโดยมีการสร้างท่าเรือน้ำลึกและการเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา (Thilawa SEZ) ผ่านเครือข่ายการขนส่งท้องถิ่น ในการเลือกที่ตั้ง การศึกษาความเป็นไปได้และจัดทำแผนแม่บทโดยได้รับความช่วยเหลือจากทีมที่ปรึกษาระหว่างประเทศ จุดประสงค์ในการเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) ของรัฐมอญกับเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา (Thilawa SEZ) เพื่อให้ทั้งสองพื้นที่เป็นเขตอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐาน มีความโปร่งใส และมีคุณภาพระดับโลก โครงการนี้จะรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารเมืองเพื่อพัฒนาอย่างเมืองเมาะลำเลิงในรัฐมอญ เมืองพะอานและเมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/govt-reveals-plans-build-new-sez-mon-state.html

พิพัฒน์ ลุยฟื้นเที่ยวไทยยึดหลักนิวนอร์มัล

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.63 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า” ว่า​ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กำหนดยุทธศาสตร์การฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยการให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ การใช้จ่ายจากการเดินทาง เพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และการจ้างงานภาคประชาชนในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ 4 ประการ คือ ความปลอดภัย ความสะอาด ความเป็นธรรม และกระจายรายได้สู่ชุมชน ทั้งนี้ หลังจากนายพิพัฒน์​ กล่าวปาฐกถาพิเศษแล้ว ได้มีวงเสวนาเรื่อง “ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า” มีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายสุรวัช อัครวรมาศ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และอุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สำหรับการสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความพร้อมของภาครัฐตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการท่องเที่ยวภายในประเทศ พร้อมกันนั้นยังหวังจะให้คนไทยมีโอกาสสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวในเวลาที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด ตามแนวทางการท่องเที่ยวด้วยวิถีใหม่ และนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/787851

LG Electronics สร้างศูนย์ R+D ในเวียดนาม

จากการประกาศอย่างเป็นทางการในการประชุมเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างตัวแทนบริษัท LG Electronics กับนายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ซึ่งคนในวงในของอุตสาหกรรมดังกล่าว ระบุว่าแผนที่จะก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาอีกแห่ง มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของโรงงานในเวียดนาม ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการประชาชน Hai Phong กล่าวว่าเมือง Hai Phong กำลังรอการอนุมัติจากรัฐบาล เพื่อขยายเขตนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ เขตเศรษฐกิจ Dinh Vu-Cat Hai และ Trang Du เพื่อที่จะรองรับการขยายของบริษัท LG อีกทั้ง โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 16 ล้านชิ้นต่อปี เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องดูดฝุ่นและอุปกรณ์ดิจิตอลแก่รถยนต์ เป็นต้น โดยบริษัทอิเล็กทรอนิกส์จากเกาหลีใต้อันดับ 2 ที่เปิดศูนย์ R&D โดยมุ่งเน้นธุรกิจยานพาหนะในฮานอยทางการในการันที่ ตัวแทน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/lg-electronics-to-build-additional-rd-centre-in-vietnam-416821.vov

นักการทูตและนักธุรกิจยุโรปกว่า 226 คน เดินทางไปยังเวียดนามสำหรับการลงทุน

สายการบิน Bamboo Airways ออจากแฟร้งค์เฟิรต์ บินไปท่าอากาศยานนานาติโหน่ยบ่ายที่ฮานอย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม โดยคุณ Marko Walde หัวหน้าของคณะผู้แทนสหภาพยุโรป กล่าวว่าสิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมการลงทุนและกิจกรรมการทำธุรกิจต่างๆ และจากการบินดังกล่าว ถือเป็นสัญลักษณ์ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอียู-เวียดนาม รวมถึงความร่วมมือของเยอรมันอีกด้วย นับว่าเป็นก้าวแรกเมื่อทำข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิ.ค. 2563 ทั้งนี้ เวียดนามปิดสายการบินพาณิชย์ระหว่างประเทศและการเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. แต่ว่าอนุญาตได้กรณีที่ผู้เดินทางมีหนังสือเดินทางการทูตหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญและแรงงานที่มีทักษะขั้นสูงเท่านั้น นอกจากนี้ ณ วันที่ 2 สิ.ค. เวียดนามมีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 590 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/226-european-diplomats-businesspeople-arrive-in-vietnam-for-investment-activities-416822.vov

เวียดนามเผยรายการสินค้าส่งออก 23 รายการที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าสินค้าส่งออกทั้งหมด 23 รายการที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 87 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ซึ่งสินค้าส่งออกดังกล่าว ประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ, เครื่องจักร, ชิ้นส่วนอะไหล่, รองเท้า, ไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้, ยานพาหนะและชิ้นส่วน, อาหารทะเล, เหล็กและเหล็กกล้า เป็นต้น สำหรับภาคเศรษฐกิจในประเทศยังคงมีแนวโน้มสดใส ด้วยมูลค่าการส่งออกรวม 50.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 ในขณะเดียวกัน ภาคการลงทุนจากต่างชาติ ลดลงร้อยละ 5.7 มูลค่า 95.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (65.2% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ทั้งนี้ สำนักงานนำเข้าและส่งออก ระบุว่ากระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ เพื่อช่วยลดความซ้ำซ้อนในการบริหารองค์กรควบคู่กับดิจิทัล

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/23-commodities-see-exports-reach-over-us1-billion-each-416715.vov

ดัชนี CPI เวียดนาม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ก.ค.

จากรายงานเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน และร้อยละ 3.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสินค้าโภคภัณฑ์หลัก 9 จาก 11 รายการที่ราคาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.91 ขณะเดียวกัน ที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.47, วัฒนธรรม บันเทิงและการท่องเที่ยว (0.3%) และสินค้าและบริการอื่นๆ (0.17%) แต่ราคาในภาคร้านอาหารและงานบริการ รวมถึงไปรษณีย์และโทรคมนาคม ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.18 และ 0.02 ตามลำดับ ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น เกิดจากราคาน้ำมันเบนซิน ก๊าซ ไฟฟ้าและน้ำที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านด่ง (2,160 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตำลึง ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารสด พลังงาน บริการสุขภาพและการศึกษา) ในเดือนกรกฎาคมและช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.31 และ 2.74 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/770319/consumer-price-index-up-04-per-cent-in-july.html