ภาพรวมเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลัง COVID-19

หัวข้อสำคัญของเอกสาร มีดังต่อไปนี้

1.สภาวะเศรษฐกิจสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

2.สถานการณ์การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว

3.ผลกระทบทางธุรกิจที่นักธุรกิจไทยในสปป.ลาวควรรู้ในสถานการณ์ COVID-19

4.โอกาสของนักธุรกิจไทยใน สปป.ลาวหลังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19

5.นโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการไทย

6.สรุปมาตรการการรับมือการแพร่ระบาดของ COVID-19 ของสปป.ลาว

เรียบเรียงโดย : นายชลันธร จิววุฒิพงค์ นางสาวศิกาญจน์ รักใหม่

ที่มา : ISB, World Bank, IMF, CEIC, Globthailand , scbeic

เวียดนามเผยยอดส่งออกผักผลไม้พุ่ง 230% ไปยังไทย

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในเดือนมิ.ย. การส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามไปยังไทย มีมูลค่ามากกว่า 11.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าส่งออกรวมในช่วง 6 เดือนแรกอยู่ที่ 79.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลให้อัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 230 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 (23.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2562) ทั้งนี้ ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. มูลค่าส่งออกรวมของเวียดนามไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 2.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปี 2562 โดยรายการสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ในขณะเดียวกัน สินค้าที่มีมูลค่าสูงสุด ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน ถึงแม้ว่ามูลค่าลดลงอย่างหนัก 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีมูลค่าการค้าผักผลไม้ดิ่งลงราว 408 ล้านดอลลาร์สหรัฐ “ปัจจุบันไทยเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ที่มา : https://customsnews.vn/exports-of-fruits-and-vegetables-to-thailand-surge-230-15268.html

คาดปีนี้ GDP เวียดนามโต 3.8%

สถาบันวิจัยทางเศรษฐกิจและนโยบายเวียดนาม (VEPR) คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้จะสูงถึงร้อยละ 3.8 หากสิ้นสุดการระบาดของเชื้อไวรัสในช่วงครึ่งหลังของปีและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆกลับมาดำเนินการต่อ ซึ่งมุมมองของหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ VEPR มองว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าในปีนี้เศรษฐกิจจะโตร้อยละ 3.8 ขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง หากโอกาสเป็นไปได้อยู่ในระดับต่ำ เศรษฐกิจจะโตแค่ร้อยละ 2.2 เนื่องจากการแพร่ระบาดลุกลามของโรคโควิด-19 ยังอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเชื้อไวรัสเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเงินในระดับโลก ส่งผลให้หลายประเทศต้องขยายเวลาล็อคดาวน์ไปอีกจนกว่าไตรมาสที่สี่ของปีนี้ ผลที่ตามมากิจกรรมการส่งออก-นำเข้าของเวียดนามจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและจะไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในปีนี้ นำไปสู่ภาคการผลิตในประเทศอ่อนแอลง นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามกลับมาฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คือ ข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EVFTA) และการเร่งเบิกจ่ายไปยังโครงการลงทุนสาธารณะ ทำให้เกิดการขยายการลงทุนและความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-gdp-forecast-to-grow-38-pct/178955.vnp

ย่างกุ้งเปิดตัวระบบการชำระเงินของรถโดยสารประจำทาง

Yangon Bus Service (YBS) เปิดตัวระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนรถโดยสารเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยมียอดขาย 5,387 ใบภายในสองวันหลังจากเปิดตัว ผู้เดินทางส่วนใหญ่จะได้รับบัตรฟรีหากซื้อบัตรเครดิตมูลค่า 5,000 จัต คาดว่าจะขายบัตรเติมเงินมากกว่า 250,000 ใบในช่วงเดือนแรก บัตรดังกล่าวสามารถซื้อได้ที่ร้าน Grab and Go กว่า 100 แห่งทั่วเมือง ในเมืองย่างกุ้งมีการจำหน่ายบัตร 2,500 ใบในแต่ละวัน Yangon Payment Services (YPS) จะถูกติดตั้งบนรถบัสรวม 597 แห่งที่ดำเนินการโดย บริษัท ขนส่งสาธารณะย่างกุ้ง (YPBC) และสายรถบัสบันดุลา YPS จะถูกติดตั้งบนรถเมล์ในเมืองและโดยสารที่เดินทางระยะไกลไกลภายในสามเดือนข้างหน้า บัตรจะขายใบละ 2,000 จัตโดยรายละเอียดจะถูกโฆษณาบนรถบัส ระบบขนส่งสาธารณะในย่างกุ้งได้ถูกเปลี่ยนไปจากระบบ Ma Hta Tha แทนที่โดย Yangon Bus Service (YBS) เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2560 ปัจจุบันมีรถบัสมากกว่า 120 สายที่ให้บริการทั่วเมืองด้วยรถโดยสารมากกว่า 4,300 คันต่อวัน และมีผู้โดยสารมากกว่า 1.8 ล้านคน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/yangon-payment-system-launched.html

EU สนับนุนเงิน 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปฏิรูปการศึกษาของเมียนมา

สหภาพยุโรปให้ทุนเพื่อส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาในปีการศึกษาใหม่จำนวน 37.6 ล้านยูโร (ประมาณ 60 พันล้านจัต / 43.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา  ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และทำให้แน่ใจว่าเด็กทุกคนสามารถกลับไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่ารัฐบาลจะยังคงพยายามปรับปรุงการศึกษาและการฝึกอบรมสายอาชีพทั่วประเทศ เงินช่วยเหลือเป็นการชำระเงินครั้งที่สามจำนวน 221 ล้านยูโรจากสหภาพยุโรปเพื่อเพิ่มการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับทุกคนในประเทศ ซึ่งต้องทำให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะไม่ถูกทิ้งไว้ในช่วงวิกฤตินี้ การเข้าถึงการศึกษาและการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องจะมีความสำคัญต่อการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนและความสามารถของเราในการป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามดังกล่าวได้ดีขึ้นในอนาคต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโรงเรียนกว่า 5,600 แห่งทั่วประเทศเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ คาดว่าโรงเรียนประถมและมัธยมต้นจะเปิดในสองสัปดาห์ รัฐบาลเตรียมห้องเรียนเพื่อรองรับระยะห่างทางสังคม (social distancing) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับแนวทางการควบคุมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ครูจะได้เรียนรู้หลักสูตรใหม่ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มในการพัฒนาการศึกษาของเมียนมา เพื่อสนับสนุนการการสอนดิจิทัลมากขึ้นมีการเตรียมคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ให้กับโรงเรียนและครู กระทรวงจะประเมินแต่ละโรงเรียนและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละท้องถิ่น

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/eu-releases-43-million-boost-myanmar-education-reforms.html

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าพิจารณาระงับข้อเสนอการลงทุนใหม่สำหรับสถานีบริการน้ำมัน

ข้อเสนอสำหรับการลงทุนในการก่อสร้างและการดำเนินงานของสถานีบริการน้ำมันแห่งใหม่จะได้รับการพิจารณาโดยรัฐบาลสปป.ลาวอีกครั้งหลังจากโครงการถูกระงับไปก่อนในการประชุมสมัชชาสามัญสมัยล่าสุดของสมัชชาแห่งชาติ (NA) ดร. Sonexay Siphandone กล่าวว่า “ไม่กี่ปีที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า พิจารณาระงับข้อเสนอการลงทุนใหม่สำหรับสถานีบริการน้ำมันและธุรกิจน้ำมันอื่น ๆหลังจากเจ้าหน้าที่ทราบว่าสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งกำลังดำเนินการโดยไม่ได้ลงทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าสถานีบริการน้ำมันในบางพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้กันมากเกินไป สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดซึ่งกำหนดให้สถานีบริการน้ำมันอยู่ห่างกันอย่างน้อย 1,000 เมตร  หน่วยงานได้กำหนดในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 สำหรับการปรับปรุงแก้ไข้สถานบริการน้ำมันที่ไม่มีมาตรฐาน อย่างไรก็ตามรัฐบาลเสริมว่าข้อเสนอในการสร้างสถานีบริการน้ำมันใหม่ในชุมชนควรจะได้พิจารณาหรืออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนจึงค่อยดำเนินโครงการได้

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Investment141.php

ราคาทองคำในสปป.ลาวปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางโรคระบาดโควิด -19

จำนวนลูกค้าที่ซื้อเครื่องประดับที่เป็นทองคำในสปป.ลาวลดลงหลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ของ Covid-19 ประธานสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับสปป.ลาวกล่าวว่าราคาเครื่องประดับที่เป็นทองคำในสปป.ลาว เมื่อวันพุธอยู่ที่ 8.8 ล้านกีบต่อบาท(15 กรัม) และ 2.2 ล้านกีบต่อสลึง (3.75 กรัม) เพิ่มขึ้นจาก 8.2 ล้านกีบต่อบาท และประมาณ 2 ล้านกีบต่อสลึง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน  ผลกระทบหนักของ Covid-19 ทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาส่งผลให้ผู้นำอเมริกันตัดสินใจพิมพ์สกุลเงินดอลล่าร์มากขึ้นและเพื่อสนับสนุนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ จะส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินทั่วโลกลดลงและตลาดทองคำขนาดใหญ่ทั่วโลกต่างต้องเก็บผลิตภัณฑ์เพื่อขายในช่วงวิกฤต ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ยั่งยืนและประเทศกำลังพัฒนาอาจเก็บทองคำเมื่อสกุลเงินอ่อน ปัญหานี้เป็นเหตุผลสำคัญสำหรับการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในระดับโลกและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสปป.ลาว อย่างไรก็ตามไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางในอนาคตของราคาทองคำได้เนื่องจากขึ้นอยู่กับแนวโน้มของตลาดโลกและสินค้าทองคำส่วนใหญ่จะถูกนำเข้า และจีนเป็นตลาดหลักสำหรับทองคำและหากราคาในจีนขยับขึ้นหรือลงจะมีผลกระทบต่อตลาดสปป.ลาว ราคาทองคำยังได้รับผลกระทบเช่นกันเมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและค่าเงินบาทอ่อนค่าหรือสูงสุด

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Gold141.php

ขณะที่กัมพูชากำลังพัฒนาสนามบินแห่งใหม่ปริมาณผู้โดยสารทางเครื่องบินกลับลดลงร้อยละ 67

สนามบินนานาชาติ 3 แห่งของกัมพูชาที่ทำการเปิดให้บริการ ได้ให้การต้อนรับผู้โดยสารจำนวน 1.9 ล้านคน ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ลดลงกว่าร้อยละ 67.5 จาก 6 ล้านคนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จากรายงานสนามบินนานาชาติเสียมเรียบและสนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์มีปริมาณผู้โดยสารลดลงถึงร้อยละ 72.3 และ 75.1 คิดเป็นจำนวน 617,905 และ 188,502 คนตามลำดับ โดยการขนส่งสินค้าทางอากาศก็ลดลงเช่นเดียวกันมาอยู่ที่ร้อยละ 29.5 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วสนามบินกัมพูชาได้ให้บริการผู้โดยสารจำนวน 11.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 เมื่อเทียบกับปี 2018

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50747225/passenger-traffic-slides-down-67-percent-while-development-of-new-airports-boom/

การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในกัมพูชา

ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตพื้นฐานในกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้สู่ 249,132 คน เนื่องจากความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดของ COVID-19 ซึ่งข้อมูลเผยแพร่โดย Telecommunication Regulator of Cambodia (TCR) ซึ่งโฆษกของ TRC กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของสมาชิกอินเทอร์เน็ตในรูปแบบคงที่ สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ จากความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในหลาย ๆ ด้าน เช่นการทำงานและการศึกษาผ่านทางไกล ที่มีส่วนช่วยให้การใช้อินเทอร์เน็ตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือจำนวน 14.8 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 90 ของประชากรกัมพูชา และมีผู้ใช้ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนทั้งหมดจำนวน 20.4 ล้าน หรือคิดเป็นร้อยละ 124 ของประชากร (รวมการลงทะเบียนซิมการ์ดจากนักท่องเที่ยว) ซึ่งในเดือนพฤษภาคมจากรายงานแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีผู้ใช้ Facebook ประมาณ 10.9 ล้านคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50747218/fixed-internet-users-on-the-rise/

สื่อนอกชี้ความท้าทาย ครม.ใหม่ เศรษฐกิจไทยตกต่ำสุดในอาเซียน

เดอะ นิคเคอิ เอเชียน รีวิว สื่อใหญ่ของญี่ปุ่น รายงานนำเสนอมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจไทยท่ามกลางสภาวะ “เปลี่ยนม้ากลางศึก เปลี่ยนขุนพลกลางสนามรบ” ผ่านบทความ Thailand’s rulers must act fast to reverse COVID-19 economic damage ที่เขียนโดยวิลเลียม พีเซค (William Pesek) สื่อมวลชนที่คร่ำหวอด ว่า ไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายสุดโหดและเศรษฐกิจที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ใครจะเข้ามาเป็น หัวหน้าทีมเศรษฐกิจไทย หรือ โผคณะรัฐมนตรีใหม่ (ครม.) จะมีใครบ้าง จะไม่สำคัญเท่ากับการที่ไทยจะต้องปรับตัวเองให้ไว ปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง และขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่ริเริ่มไว้ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด การไหลออกของรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ ๆ รวมทั้งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอย่าง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดูเหมือนว่าเหตุผลส่วนหนึ่งจะมาจากผลการทำงาน เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 นี้ ซึ่งเป็นปีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ขับเคลื่อนรัฐนาวามาครบ 1 ปี จะหดตัวที่ร้อยละ -8.1 ทำให้เป็นไปได้ที่ไทยจะกลายเป็นประเทศที่เศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในอาเซียน แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่า ในอีกแง่หนึ่งการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ น่าจะเป็นความพยายามสร้างความมั่นคงทางการเมือง มากกว่าจะด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.thansettakij.com/content/world/442806