ธนาคารโลกเผยข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA ยกระดับการส่งออกเวียดนาม 12% ปี 2573

ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์ว่าข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) จะช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามและยอดส่งออก เติบโตร้อยละ 2.4 และ 12 ตามลำดับ ภายในปี 2573 ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) โดยข้อตกลงดังกล่าวคาดว่ามีโอกาสที่จะขยับผู้คนให้ออกมาจากความยากจน ประมาณ 100,000-800,000 คน ทั้งนี้ ธนาคารโลกมองว่าเวียดนามจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นจากการเข้าร่วมข้อตกลง EVFTA และ CPTPP หากดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจโดยรวมและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิด (Rules of Orgin) เป็นหนึ่งในสิ่งที่ท้าทายอย่างมากของเวียดนาม เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่นำเข้าวัตถุดิบมาจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ทางกระทรวงการค้าฯ ได้ร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปีนี้ เพิ่มส่งเสริมและปรับแก้ไขกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาฉบับปี 2553

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/wb-evfta-could-lift-vietnams-exports-by-12-by-2030-414153.vov

ธนาคารโลกปล่อยสินเชื่อภาคเกษตรให้เมียนมา

เมียนมาได้รับเงินกู้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารโลก เพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารและการเกษตรในเมียนมา เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน การดูแลปศุสัตว์ การช่วยเหลือทางการเงินสำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 และการขับเคลื่อนโภชนาการในชนบท การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2562 และอีกครั้งในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม 2563

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-receive-agriculture-loan-world-bank.html

ธุรกิจท่องเที่ยวเมียนมาพร้อมเปิดตัวใหม่

บริษัททัวร์ของเมียนมามากำลังเตรียมที่จะจัดทัวร์อีกครั้งซึ่งถูกระงับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นความพยายามของรัฐในการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดในประเทศในตอนแรก และมาตรการความปลอดภัยจะถูกนำมาใช้กับทั้งแรงงานในภาคท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้สายการบินระหว่างประเทศบางแห่งได้ประกาศให้เที่ยวบินไปย่างกุ้งตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเยือนเมียนมาลดลง 44% จากเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ ในปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.36 ล้านคนเพิ่มขึ้นจาก 3.55 ล้านคนในปีที่แล้ว โดยชาวจีนคิดเป็นหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปีที่แล้วและเพิ่มขึ้น 152% จากปีก่อน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-tourism-businesses-prepare-reopen.html

โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขนาด 400 mW ในกันดาลจะเริ่มก่อสร้างในเดือนหน้า

การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทข้นขนาด 400 เมกะวัตต์ (mW) ในจังหวัดกันดาล ซึ่งวางแผนที่จะเริ่มดำเนินการในช่วงต้นเดือนมิถุนายนแต่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้โครงการนี้หยุดชะงักเนื่องจากวิศวกรโยธาชาวต่างชาติที่มีสำคัญในการดำเนินการไม่สามารถบินไปยังกัมพูชาเพื่อทำงานต่อได้ โดยผู้อำนวยการฝ่ายพลังงานและโฆษกของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานได้กล่าวไว้ ซึ่งกล่าวเสริมว่าการก่อสร้างในโครงการยังคงเดินหน้าต่อไป แต่มีปัญหาในการรับทีมเทคนิคเนื่องจากข้อจำกัดด้านการเดินทาง โดยรัฐบาลยังมีแผนที่จะสร้างสถานีย่อยที่เชื่อมต่อโครงการขนาด 400 mW ไปยังกริดแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนช่วยอย่างมากต่อการรักษาเสถียรภาพของแหล่งพลังงานของประเทศ ปัจจุบันโครงการไฟฟ้า 12 โครงการกำลังดำเนินการอยู่ 7 โครงการเป็นเขื่อนพลังน้ำด้วยกำลังการผลิตรวม 2,093 mW รัฐบาลยังได้รับใบอนุญาตสำหรับโครงการพลังงานอีก 9 โครงการซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 1,500 mW ในอนาคตอันใกล้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50726931/kandals-400mw-heavy-fuel-power-plant-to-resume-construction-next-month/

ภาคอุตสาหกรรมในกัมพูชายังคงเรียกร้องให้มีการสนับสนุนทางเศรษฐกิจต่อไป

ผู้สนับสนุนธุรกิจยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นต่อไป ในระหว่างและหลังการระบาดของ COVID-19 ผ่านการปล่อยสินเชื่อในหลายแบบและนโยบายใหม่เพื่อส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากขึ้นในกัมพูชา โดยการประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประกาศแผนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อลดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับธุรกิจในภาคการผลิตการเกษตร การค้าและภาคบริการตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งบริษัทในภาคส่วนนี้จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่ใช้และคาดว่าจะประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 25% โดยผู้นำในอุตสาหกรรมได้เรียกร้องให้รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และส่งเสริมให้กัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ประกอบการ ซึ่งให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและผลประโยชน์สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปี 2563 ของกัมพูชาจะหดตัว -1.7% ในปีนี้สอดคล้องกับการหดตัวทั่วโลกที่ -3.0%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50726929/industry-leaders-continue-to-call-for-further-economic-support/

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) อนุมัติเงินกู้แก่สปป.ลาวส่งเสริมการป้องกัน COVID-19

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้ยืมจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนด้านความมั่นคงด้านสุขภาพโดยรัฐบาลสปป.ลาวได้นำเงินดังกล่าวไปจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์เพื่อป้องกันและเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดของ COVID-19 ที่อาจกลับมาแพร่ระบาดรุนแรงอีกครั้งถึงแม้สปป.ลาวจะมีมาตราการในการป้องกันอย่างเคร่งครัดทำให้ยอดผู้ติดเชื้อมีน้อยแต่ ABD มีมุมมองว่าสปป.ลาวยังคงมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากการระบาดของโรคในประเทศอื่นๆ ยังถือว่ารุนแรง ดังนั้นหากมาตราการต่างๆถูกผ่อนปรนก็อาจมีความเสี่ยงที่สปป.ลาวอาจกลับมาระบาดได้อีกครั้ง ดังนั้นเงินกู้ดังกล่าวจะเป็นเงินที่นำมาสนับสนุนด้านสาธารณสุขของสปป.ลาวให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_ADB99.php

บริษัทจากญี่ปุ่นสองแห่งมองหาโอกาสทางการเกษตรในกัมพูชา

NIPPON Express และ Xamato Green แสดงถึงความสนใจหลังจากได้เห็นการลงทุนที่มีศักยภาพในภาคเกษตรกรรมของกัมพูชา โดยแผนดังกล่าวถูกเปิดเผยในระหว่างการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนำโดยประธาน บริษัท และผู้อำนวยการทั่วไปของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกล่าวว่าบริษัทกำลังดำเนินโครงการลงทุนเกี่ยวกับผักและผลไม้ในประเทศกัมพูชา โดยเสริมว่าบริษัทกำลังวางแผนที่จะดำเนินการและบรรจุภัณฑ์เพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนับสนุนการลงทุนโครงการอย่างมั่นคง โดยกล่าวว่าโครงการการลงทุนนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ดึงดูดการลงทุนดังกล่าวในภาคเกษตรกรรม ซึ่งให้คำมั่นว่าจะเร่งงานในบันทึกความเข้าใจเพื่อลงนามในไม่ช้าเพื่อให้บริษัทสามารถเริ่มดำเนินโครงการได้โดยเร็ว โดยเสริมว่าโครงการลงทุนนี้จะช่วยลดการนำเข้าผักและผลไม้จากตลาดต่างประเทศได้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อการส่งออกและสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50726611/two-japanese-firms-eye-agricultural-opportunities/

บริษัทจดทะเบียนในจีนได้รับใบอนุญาตให้สร้างสวนพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชา

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Risen Energy (กัมพูชา) ผู้ผลิตแผงวงจรจากจีนเพื่อสร้างโซล่าฟาร์มขนาด 60 เมกะวัตต์ (mW) ในจังหวัดพระตะบอง จากข้อมูลของ CDC โครงการดังกล่าวมีเงินลงทุน 50.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 และจดทะเบียนเป็น บริษัท มหาชนของจีนในปี 2010 ในนาม Risen Energy เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ โดยการลงทุนโซล่าฟาร์มของ บริษัท ในกัมพูชาเป็นหนึ่งในสี่สวนพลังงานแสงอาทิตย์ที่รัฐบาลอนุมัติในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดเก้าโครงการที่กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่กำลังก่อสร้าง ซึ่งในรายงานของกระทรวงดังกล่าวระบุห้าสวนพลังงานแสงอาทิตย์ในห้ารวมทั้งโครงการพระตะบองกำลังมีการเร่งการก่อสร้างเพื่อให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับกริดแห่งชาติภายในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50726630/listed-chinese-firm-licensed-to-build-another-solar-park/

สหรัฐฯ เป็นซัพพลายเออร์ผักผลไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

สมาคมผักและผลไม้เวียดนาม (Vinafruit) เปิดเผยว่าสหรัฐอเมริกาเป็นซัพพลายเออร์ผักและผลไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ มูลค่าการส่งออกผักผลไม้อยู่ที่ 102.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ มูลค่าการนำเข้ารวมอยู่ที่ 376.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 42 แต่มีการนำเข้ามาจากหลากหลายประเทศ ได้แก่ นิวซีแลนด์ สหรัฐฯและเกาหลี ทั้งนี้ คุณ Pham Thien Hoang เจ้าของร้านค้า GreenSpace เป็นผู้นำเข้าผลไม้ กล่าวว่าผลไม้จากสหรัฐฯ เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้บริโภคชาวเวียดนาม โดยเฉพาะแอปเปิ้ล องุ่นและเชอรี่ที่มีการนำเข้ามากที่สุด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/us-becomes-vietnams-largest-supplier-of-fruits-vegetables/173843.vnp