CGCC อนุมัติสินเชื่อสำหรับ SMEs กัมพูชา มูลค่ารวมกว่า 160 ล้านดอลลาร์

บริษัทประกันเครดิตแห่งกัมพูชา (CGCC) ได้ให้การค้ำประกันสินเชื่อมูลค่ารวมกว่า 164.7 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ SMEs ในกัมพูชา ณ เดือนธันวาคม 2023 โดยมีผู้ประกอบการกว่า 1,928 แห่ง ได้รับการอนุมัติ เพื่อหวังกระตุ้นการลงทุน และการขยายธุรกิจ สำหรับยอดเงินกู้ค้ำประกันคงค้างในปัจจุบันอยู่ที่มูลค่า 116.1 ล้านดอลลาร์ และยอดค้ำประกันคงค้างอยู่ที่ 83.6 ล้านดอลลาร์ ที่ทาง CGCC เป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งปัจจุบันได้ค้ำประกันร่วมกับสถาบันการเงินกว่า 27 แห่ง (PFI) เพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501427481/cgcc-provides-over-us160-million-credit-supports-to-smes/

‘เวียดนาม’ คาดหวังต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 17-18 ล้านคนในปีนี้

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนาม ได้ตั้งเป้าหมายที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 17-18 ล้านคนในปี 2567 ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับใกล้เคียงในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2562 ที่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทั่วโลก โดยจากข้อมูลในปี 2566 พบว่ายอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนเวียดนามอยู่ที่ 12.6 ล้านคน เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศ 108 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับเป้าที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ในมุมมองของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) ชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ความขัดแย้งระดับภูมิภาค และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-hopes-to-welcome-1718-million-foreign-tourist-arrivals-this-year/276168.vnp

‘เวียดนาม’ เผยเดือน ม.ค. ยอดส่งออกผักผลไม้ แตะ 459 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลเบื้องต้นของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือน ม.ค.2567 มูลค่าการส่งออกผักและผลไม้อยู่ที่ 459 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่นาย Dang Phuc Nguyen เลขาธิการของสมาคมผักและผลไม้เวียดนาม กล่าวว่าว่าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของปีนี้ที่คาดหวังว่าจะทำรายได้จากการส่งออกกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปีนี้มองว่ามีทิศทางเขิงบวก เนื่องจากการปรับปรุงคุณภาพผักและผลไม้ของเวียดนามที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่เข็มงวด ซึ่งในปีนี้ เวียดนามได้ตั้งเป้าที่จะขยายการส่งออก โดยเฉพาะมะพร้าว แตงโมและผลไม้ที่แปลกใหม่อย่างเช่น ทุเรียนแช่แข็งที่จะส่งออกไปยังตลาดจีน หากประสบความสำเร็จจากการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศจะทำให้เวียดนามมีรายได้มากขึ้น

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/veggie-fruit-exports-hit-us459-million-in-first-half-of-jan/

บริษัทรถไฟลาว-จีน เตรียมเพิ่มเส้นทางให้บริการผู้โดยสาร

บริษัทรถไฟลาว-จีน กำลังดำเนินการเดินรถโดยสาร EMU เพิ่มขึ้นทั้งสองเส้นทาง ขณะนี้มี 12 เที่ยวต่อวัน เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และรองรับการเติบโตด้านการเดินทางและสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสาร รถไฟสามารถรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการประชุมและงานต่างๆ ของอาเซียน และความต้องการของนักเดินทางในช่วงเยือนลาว ปี 2567 บริษัทรถไฟลาว-จีนได้เพิ่มจำนวนรถไฟโดยสาร C92/1 ในแต่ละวันจำนวนผู้ที่เดินทางระหว่างจุดหมายปลายทางภายในประเทศลาวและระหว่างลาวและจีนบนเส้นทางรถไฟจนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 เพิ่มขึ้นเกือบ 91% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2565 มีผู้โดยสารมากกว่า 100,000 คน จาก 72 ประเทศใช้เส้นทางรถไฟข้ามพรมแดนลาว-ชายแดนจีน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_16_rail_y24.php

ธนาคารโลกประเมิน ‘การท่องเที่ยวของลาวสามารถเติบโตและผลักดัน GDP ได้ถึง 10%’

ธนาคารโลกประเมินว่าการท่องเที่ยวของลาว สามารถเติบโตและมีส่วนผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศได้ถึง 10% ด้วยการลงทุนและการปฏิรูปที่เหมาะสม ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเริ่มต้นแคมเปญการท่องเที่ยวของลาวปี 2567 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนอย่างน้อย 4.6 ล้านคน ทั้งนักท่องเที่ยวชาวลาวและจากประเทศอื่นๆ “นี่แสดงให้เห็นถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยปัจจุบันการท่องเที่ยวมีสัดส่วนประมาณ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของลาว” ธนาคารโลกระบุว่า “การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกของประเทศลาว รัฐบาลกำลังดำเนินการตามแผนงานการฟื้นฟูการท่องเที่ยวลาว พ.ศ. 2564-2568 แผนงานนี้เป็นแนวทางที่สำคัญเกี่ยวกับการดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมในช่วงฟื้นตัวหลังโควิด (กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว, 2021)”

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_16_Laotourism_y24.php

ราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้นในตลาดย่างกุ้ง ส่งผลให้ทางการต้องใช้มาตรการควบคุม

อัตราอ้างอิงขายส่งน้ำมันปาล์มในตลาดย่างกุ้งในสัปดาห์นี้ (ตั้งแต่วันที่ 22-28 มกราคม) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 5,275 จ๊าดต่อviss เทียบกับ 5,250 จ๊าดต่อviss ในสัปดาห์ที่แล้ว (วันที่ 15 – 21 มกราคม) ตามที่รายงานโดย คณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจำหน่ายน้ำมันบริโภค ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 25 จ๊าดต่อviss อย่างไรก็ดี ปัจจุบันคณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันบริโภคกำลังติดตามราคาน้ำมันปาล์มในประเทศอย่างแข็งขันให้มีความสอดคล้องกับราคาตลาดโลก ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดราคาอ้างอิงเบื้องต้นสำหรับขายส่งน้ำมันปาล์มสำหรับตลาดภายในประเทศ โดยการติดตามราคา FOB รายวันในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่อย่างครอบคลุม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการคำนวณที่พิถีพิถันโดยคำนึงถึงต้นทุนทั้งหมด รวมถึงการขนส่ง การธนาคาร รวมถึงภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rising-palm-oil-prices-in-yangon-market-prompt-authorities-to-implement-control-measures/

ราคาทองคำบริสุทธิ์ในตลาด สูงถึง 3.8 ล้านจ๊าด ต่อ tical

ตามข้อมูลจากตลาดทองคำเมียนมา ราคาทองคำบริสุทธิ์ได้พุ่งขึ้นเป็น 3,800,000 จ๊าดต่อ tical แม้ว่าราคาอ้างอิงสำหรับทองคำบริสุทธิ์ที่กำหนดโดยสมาคมผู้ประกอบการทองคำย่างกุ้ง (YGEA) และราคาทองคำทั่วโลกในปัจจุบันกำลังมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ราคาทองคำทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 2,022 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในขณะที่อัตราอ้างอิง YGEA สำหรับทองคำบริสุทธิ์อยู่ที่ 3,638,500 จ๊าดต่อ tical ซึ่งมีส่วนต่างกว่า 100,000 จ๊าดระหว่างราคาตลาด (K3,800,000) และราคาอ้างอิง YGEA (K3,638,500) อย่างไรก็ดี YGEA กำหนดราคาทองคำอ้างอิงโดยคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนออนไลน์ระหว่างธนาคารที่กำหนดโดยธนาคารกลางแห่งเมียนมาก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ซึ่งในขณะนั้นราคาตลาดและราคาอ้างอิง YGEA มีช่องว่างอย่างน้อย 400,000 – 500,000 จ๊าดต่อ tical

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/pure-gold-price-per-tical-reaches-k3-8-mln-in-market/

‘เวียดนาม’ จับมือซัมซุง ผลักดันพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์

นาง Nguyen Thi Bich Ngoc รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) ได้กล่าวกับนายชอย จู โฮ (Choi Joo Ho) ผู้อำนวยการของบริษัทซัมซุงเวียดนามว่าเวียดนามหวังว่าบริษัทชั้นนำเกาหลีใต้ ‘ซัมซุง’ จะกลายมาเป็นนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ผลักดันประเทศให้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และนวัตกรรม โดยจากการประชุมครั้งล่าสุดทางรัฐมนตรีช่วยฯ เสนอให้ทางบริษัทเกาหลีใต้ช่วยส่งเสริมเวียดนามในการยกระดับขีดความสามารถทางธุรกิจ เพื่อมีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนช่วยดำเนินการศูนย์ฝึกอบรมที่ตั้งอยู่ในศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ (NIC)

นอกจากนี้ นายชอย จู โฮ กล่าวว่าทางบริษัทเล็งขยายการลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือกับศูนย์ NIC ในการส่งเสริมนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ ฝึกอบรมและสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-wants-to-cooperate-with-samsung-in-semiconductor-development-official/276580.vnp

‘AMRO’ มองเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้โต 6% หนุนจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออก

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 6% หลังจากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนมาจากการส่งออกที่มีทิศทางเป็นบวก อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจเวียดนามยังคงเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะการส่งออกของภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก สังเกตได้มาจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนในปีที่แล้ว

ทั้งนี้ สำนักงาน AMRO คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 ในปี 2567 ขยายตัว 4.5% เนื่องมาจากอุปสงค์ที่มีความแข็งแกร่ง เงินเฟ้อปรับตัวลดลง คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1639547/viet-nam-s-economy-poised-for-6-growth-in-2024-fueled-by-export-recovery-amro.html

กนอ. สำรวจนิคมอุตสาหกรรมใหม่สำหรับสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาคใต้

สมาชิกของคณะกรรมการโรดโชว์แลนด์บริดจ์ กล่าวว่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กำลังดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการนิคมอุตสาหกรรมใหม่ 2 โครงการ โครงการแรกเน้นการหาทำเลที่เหมาะสมสำหรับนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดระนองและชุมพร เพื่อรองรับโครงการแลนด์บริดจ์ โครงการสะพานทางบกของภาคใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกในจังหวัดระนองและชุมพร และเชื่อมโยงกับเครือข่ายมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ โดย กนอ. มองว่านิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่นี้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมชีวภาพ และอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและการท่องเที่ยว ในโครงการที่สอง กนอ. กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดตั้งนิคมอาหารฮาลาลในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2565 เพื่อจัดตั้งระเบียงเศรษฐกิจใหม่ ครอบคลุมจังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพในการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลทั่วโลกที่มีมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 13.5% ต่อปี กนอ. มองว่านี่เป็นโอกาสที่สร้างรายได้ รวมถึงการส่งออกอาหารฮาลาลของไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่า 136.5 พันล้านบาท

ที่มา : https://www.nationthailand.com/thailand/policies/40034914?fbclid=IwAR0QaTDLCDpgs0u1xmTEdyD0p13r7JR6iu8pqcorr9VeTKAWQqhFtl9sWJk