เวียดนามขึ้นแท่นผู้นำ “ดึงดูดนักลงทุนระยะยาว” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ว่ากลุ่มนักลงทุนเชื่อมั่นว่า กิจกรรมการลงทุนในเวียดนามจะเพิ่มขึ้น 83% ระหว่างปี 2568-2573 ปัจจุบัน เวียดนามเป็นเสาที่ 3 ของสามเหลี่ยมทองคำ ในแวดวงบริษัทสตาร์ตอัปของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ขณะเดียวกัน เวียดนามยังเต็มไปด้วยผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีชั้นนำ และวัฒนธรรมด้านนวัตกรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกเป็นอย่างมาก
‘ข้าวเวียดนาม’ ยังคงครองผู้นำตลาดฟิลิปปินส์ แม้มีการเปลี่ยนนโยบาย
สำนักงานการค้าเวียดนาม ประจำประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่าสถานการณ์การค้าข้าวเวียดนาม-ฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับทรงตัวในอนาคตอันใกล้นี้ ในขณะที่สำนักงานอาหารแห่งชาติ (NFA) พิจารณาแก้ไขกฎเกณฑ์การนำเข้าข้าว ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของเวียดนาม และการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ อยู่ในระหว่างการดำเนินการ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานเข้ามาแทรกแซงโดยตรงต่อตลาดข้าวและสร้างความมีเสถียรภาพของราคาข้าวในประเทศ
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวราคาข้าวดังกล่าว สาเหตุสำคัญมาจากราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมาตรการก่อนหน้านี้ของรัฐบาลได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถควบคุมการขึ้นของราคาสินค้าได้
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาข้อมูลทางสถิติ แสดงให้เห็นว่าเวียดนามยังคงเป็นผู้นำตลาดข้าวของฟิลิปปินส์ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ และเวียดนามเป็นซัพพลายเออร์ข้าวรายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 72% ของการนำเข้าพืชผลทางการเกษตรทั้งหมด
รถไฟลาว-จีน 5 เดือนแรกปีนี้ มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 17.5% ให้บริการแล้วกว่า 1 หมื่นขบวน
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 พฤษภาคม 2567 รถไฟลาว-จีน ได้ให้บริการรถไฟโดยสารจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีน มายัง สปป.ลาว แล้ว 10,642 ขบวน รองรับผู้โดยสาร 8,723,000 คน ขยายตัว 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน หัวหน้าแผนกขนส่งผู้โดยสารของบริษัทรถไฟลาว-จีน สาขาคุนหมิง กล่าวว่า รถไฟโดยสารมีราคาถูก รวดเร็ว และสะดวกสบาย ทำให้กลายเป็นทางเลือกหลักในการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยว นักศึกษา และนักธุรกิจ และยังทำให้เกิดการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ตลอดจนสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในภูมิภาค
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_107_Passenger_y24.php
‘เวียดนาม’ เผยอีคอมเมิร์ซ ดันนำเข้าสินค้าพุ่ง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน
จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าตลาดอีคอมเมิร์ซของเวียดนามมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 20-25% ต่อปี และยอดขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ทำรายได้สูงถึง 20 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 8% ของมูลค่าการอุปโภคบริโภคโดยรวม
ทั้งนี้ จากรายงานล่าสุด แสดงให้เห็นว่าเวียดนามนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐบาล
ด้วยเหตุนี้ นาย เหงียน ฮ่ง เญียน รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม แนะนำให้รัฐบาลทบทวนการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำ เพื่อให้เป็นธรรมในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งในปัจจุบันสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ล้านล้านด่อง จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
เรือ 8 ลำเทียบท่าเทียบท่าเพื่อส่งออกข้าว
กระทรวงพาณิชย์เมียนมาระบุ เรือ 8 ลำที่ถูกกำหนดไว้สำหรับขนส่งสินค้าข้าวถุงกำลังจอดเทียบท่าที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และมีแผนที่จะบรรทุกข้าวสารบรรจุถุงมากกว่า 135,000 ตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับสหภาพเมียนมา สหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรม สหพันธ์ข้าวเมียนมา สมาคมพ่อค้าถั่ว ถั่ว ข้าวโพด และเมล็ดงา สมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มแห่งเมียนมา สมาคมอุตสาหกรรมเมียนมา ชาวสวนยางและผู้ผลิตยางเมียนมา สมาคมผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ประมงและผู้ส่งออกเมียนมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการส่งออกและอำนวยความสะดวกในการส่งออก ทั้งนี้ สหพันธ์มีเป้าหมายที่จะบรรลุการส่งออกข้าว 2.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีการเงิน 2567-2568 (เมษายน-มีนาคม) โดยคาดว่าจะส่งออกข้าว 12,500 ตัน ผ่านท่าเรือระหว่างประเทศ Ahlon และท่าเรือระหว่างประเทศย่างกุ้ง 10,000 ตันผ่านท่าเรือเมียนมา 9,800 ตันผ่านท่าเรือนานาชาติวิลมาร์ และ 91,120 ตันผ่านท่าเทียบเรือ Sule Pagoda รวมเป็น 135,920 ตัน และเรืออีก 4 ลำจะถูกเรียกไปยังท่าเรือย่างกุ้งเพื่อส่งออกข้าว 74,000 ตัน อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2566-2567 ที่ผ่านมาการส่งออกข้าวไม่เป็นไปตามเป้าหมายโดยตลอดทั้งปีมีการส่งออกอยู่ที่ 1.6 ล้านตัน มูลค่า 845 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ประธานสมาพันธ์ข้าวเมียนมายืนยันว่านโยบายการเงินของธนาคารกลางเมียนมาในการควบคุมรายได้จากการส่งออกเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกข้าว ส่งผลเสียทางการเงินแก่ผู้ส่งออก รวมทั้ง สภาพอากาศเอลนิโญยังขัดขวางการส่งออกข้าวอีกด้วย
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/8-vessels-dock-at-port-terminals-for-rice-export/#article-title
‘กาแฟเวียดนาม’ ราคาพุ่ง
จากข้อมูลวันที่ 5 มิ.ย. ระบุว่าราคากาแฟในพื้นที่ที่ราบสูงตอนกลาง (Central Highlands) ของเวียดนาม ยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ 122,000 – 123,500 ด่องต่อกิโลกรัม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาและการเก็งกำไรในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ รวมถึงราคากาแฟ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคากาแฟโรบัสต้าในเมืองลอนดอนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยอยู่ที่ประมาณ 3,846 – 4,319 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
นอกจากนี้ โคลัมเบีย เปรูและฮอนดูรัส อยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวกาแฟ ซึ่งคาดการณ์ว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ต่ำกว่าความต้องการของตลาด ส่งผลให้ราคากาแฟยังคงปรับตัวสูงขึ้น
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-coffee-prices-on-the-rise-post288072.vnp
‘เซมิคอนดักเตอร์เวียดนาม’ เดินหน้าส่งเสริมอสังหาริมทรัพย์เชิงอุตสาหกรรม
นายโทมัส รูนีย์ (Thomas Rooney) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริการอุตสาหกรรมของบริษัท Savills Vietnam กล่าวว่าเวียดนามจะกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์ ตลอดจนเวียดนามอยู่ในจุดทำเลที่ตั้งที่ดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีแหล่งธาตุหายาก (Rare Earth) จำนวนมากที่จำเป็นในการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์
ทั้งนี้ นายโทมัส ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่ากระแสการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น จะส่งผลต่อความต้องการโรงงานและนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงแหล่งพลังงานที่มีเสถียรภาพ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและความพร้อมของระบบบำบัดน้ำ โดยการยกระดับคุณภาพของโรงงานดังกล่าว มีไว้เพื่อดึงดูดนักลงทุนเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ภาครัฐบาลและเอกชน ควรจำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกันในการส่งเสริมบรรยากาศทางด้านการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานและกำลังแรงงาน เพื่อให้มีความพร้อมที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอสังหาริมทรัพย์เชิงอุตสาหกรรม