เวียดนาม-กัมพูชา-สปป.ลาว ขอความร่วมมือกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างกัน

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศพื้นที่สามเหลี่ยม (กัมพูชา–สปป.ลาว–เวียดนาม) ได้ตั้งเป้าที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวน 3.3 ล้านคน ภายในปี 2025 ด้านผู้อำนวยการทั่วไปของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) Nguyen Trung Khanh กล่าวว่าเป้าหมายของแผนคือการดึงดูดผู้เยี่ยมชมพื้นที่สามเหลี่ยม 3.3 ล้านคน ภายในปี 2025 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 14 ต่อปี ซึ่งจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2030 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก โครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว และทรัพยากรบุคคลที่มีคุณสมบัติ โดยเวียดนามจะทำหน้าที่เป็นประธานในภารกิจหลัก 5 ประการ ได้แก่ ส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่พื้นที่ เชื่อมโยงธุรกิจและสมาคมในภูมิภาคให้มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เชื่อมโยงกลุ่มนักท่องเที่ยวและรีสอร์ท เปิดตัวกิจกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค และจัดเวทีส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคประจำปี นอกจากนี้ ประเทศจะประสานงานกับ สปป.ลาว และกัมพูชา เพื่อดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยว 10 อีเว้นท์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501064559/vietnam-provinces-seek-tourism-cooperation-with-four-provinces-cambodia/

กัมพูชามองหาผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกัมพูชาวางแผนสนับสนุนให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ เข้ามาเปิดโชว์รูมในกัมพูชา ในขณะที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันให้ใช้รถยนต์ EV เพิ่มมากขึ้น ด้าน Sun Chanthol รัฐมนตรีฯ ได้ขอให้ Patrick Murphy เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชา ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่ผลิตรถยนต์ EV เข้ามาลงทุนและขยายธุรกิจยังกัมพูชา โดยปัจจุบันกัมพูชามีการใช้รถยนต์ EV เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ มีการลงทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว 47 คัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 700 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ได้มีการจะทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ 7 คัน ในขณะที่สถานีชาร์จ EV มีไม่กี่แห่งที่ได้ให้บริการ ในเขตพื้นที่พนมเปญและตามจังหวัดหลัก ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่า 2,226 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501064355/cambodia-seeks-us-electric-vehicle-producers-entry/

ADB สนับสนุนทางด้านสุขภาพ พลังงานสะอาด และถนนหนทางในกัมพูชา

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) มอบเงิน 25 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสร้างระบบสุขภาพของกัมพูชา โดยเฉพาะห้องปฏิบัติการและระบบควบคุมการป้องกันการติดเชื้อจากโควิด-19 ทั่วประเทศจำนวน 81 แห่ง ซึ่งในปีที่แล้ว ADB ได้สนับสนุนภาคเอกชนในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดในกัมพูชา โดยได้ให้เงินกู้นอกภาครัฐจำนวน 4.7 ล้านดอลลาร์แก่ Prime Road Alternative Company Ltd. เพื่อพัฒนาและดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 60 เมกะวัตต์ ในจังหวัดกำปงชนัง โครงการนี้คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เกือบ 111,000 ตันต่อปี อีกทั้ง ADB ยังได้สนับสนุนเงินช่วยเหลือจำนวน 82.1 ล้านดอลลาร์ ให้กับกัมพูชา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างถนนภายในประเทศเชื่อมกันระหว่างจังหวัด เหยื่อแวง-กันดาล ระยะทางประมาณ 48 กม.

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063773/adb-focuses-on-health-clean-energy-roads-in-cambodia/

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 ในปี 2021

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในกัมพูชาเติบโตร้อยละ 11.2 ในปี 2021 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ซึ่งการลงทุนจากจีน เกาหลีใต้ เวียดนาม สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ถือเป็นส่วนที่สำคัญ โดยเฉพาะในภาคการเงิน การผลิต อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและร้านอาหาร เกษตรกรรม และการก่อสร้าง ซึ่งกัมพูชาได้รับการลงทุนจากต่างประเทศรวม 41 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว โดยจีนเป็นแหล่งลงทุนที่ใหญ่ที่สุดคิดเป็นมูลค่า 18 พันล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 43.9 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด ในขณะที่เกาหลีใต้อันดับรองลงมามีมูลค่าเงินลงทุนอยู่ที่ 4.9 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วยเวียดนามและสิงคโปร์ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ และ 2.7 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063578/cambodia-fdi-surges-11-2-percent-in-2021/

คาดมูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-เวียดนาม แตะหมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2022

กระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาและกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามได้ร่วมหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการค้า โดยให้คำมั่นที่จะผลักดันปริมาณการค้าทวิภาคีให้มีมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการหาวิธีแก้ไข Extended Cumulation Rule สำหรับการผลิตจักรยานที่กัมพูชาส่งออกไปยังสหภาพยุโรป หลังจากที่ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปได้มีผลบังคับใช้ไปเมื่อในปี 2020 ในขณะที่ประเด็นการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์และน้ำตาลจากกัมพูชาไปยังเวียดนาม ซึ่งมีอุปสรรคทางเทคนิคบางประการ ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเต็มความสามารถ โดยในปี 2021 ปริมาณการค้าร่วมระหว่างกัมพูชากับเวียดนามแตะระดับเกือบ 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเวียดนามมีมูลค่าแตะ 1.7 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นกัมพูชาส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนามมูลค่า 758 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ขณะที่กัมพูชานำเข้าสินค้าจากเวียดนามมูลค่า 963 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063033/cambodia-vietnam-eye-10-billion-bilateral-trade-in-2022/

RCEP โอกาสการค้า กัมพูชา-จีน และกลุ่มประเทศสมาชิก

หลังความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อต้นปี 2022 ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชาและประเทศสมาชิกอื่นๆ ให้เกิดการเร่งการบูรณาการทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ซึ่ง RCEP ถือเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบัน โดยจีนถือเป็นส่วนสำคัญในข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งปัจจุบันการค้าระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกอีก 14 ประเทศขยายตัวถึงร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นมูลค่า 442.75 พันล้านดอลลาร์ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 คิดเป็นร้อยละ 30.4 เมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าทั้งหมดของปีก่อน ข้อมูลจากกระทรวงศุลกากรจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063032/rosy-prospects-ahead-for-economic-ties-between-china-other-rcep-members/

คาด RCEP FTA กระตุ้นเศรษฐกิจกัมพูชาหลังโควิด-19 คลี่คลาย

ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) รวมถึงข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ (FTA) จะเป็นตัวเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจสำคัญในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย RCEP และ CCFTA ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 ด้าน Sim Sokheng รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา กล่าวว่า ข้อตกลงข้างต้นจะทำให้กัมพูชาเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น และจะมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนชาวจีน ให้เข้ามาลงทุนในประเทศกัมพูชามากขึ้น ซึ่งทางรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กัมพูชากล่าวเสริมว่า RCEP จะส่งเสริมภาคการส่งออกให้เติบโตที่ร้อยละ 9.4 โดยคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตจากร้อยละ 2 สู่ร้อยละ 3.8 ในปีนี้ สำหรับ CCFTA คาดว่าจะส่งเสริมให้การส่งออกของกัมพูชาไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้นน้อยละ 25 ในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501062382/rcep-cambodia-china-fta-catalysts-for-economic-growth-in-post-pandemic/