INFOGRAPHIC : เวียดนามเผยช่วง 7 เดือนแรก ยอดส่งออกของภาคเกษตร ป่าไม้และประมงที่ 22.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมง อยู่ที่ 22.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่

  • ผลผลิตการทำฟาร์ม 10.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ผลผลิตป่าไม้ 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ผลผลิตการประมง 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/sevenmonth-agroforestryaquaculture-export-reaches-223-billion-usd/179675.vnp

คลองชลประทานภายในกัมพูชาเข้าถึงพื้นที่การเพาะปลูกกว่าร้อยละ 62

ในช่วงกลางปี 2563 ระบบชลประทานของกัมพูชาสามารถเข้าถึงได้โดยประมาณร้อยละ 62 ของพื้นที่เพาะปลูก 2,957,400 เฮกตาร์ทั่วประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะเพิ่มความครอบคลุมต่อไปเมื่อโครงการพัฒนาชลประทานขนาดใหญ่ 12 โครงการเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 ซึ่งในปี 2562 น้ำชลประทานครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรม 1,835,422 เฮกตาร์ ทั่วประเทศกัมพูชารวมถึง 537,077 เฮกตาร์ สำหรับปลูกข้าวในฤดูแล้งและ 1,298,345 เฮกตาร์สำหรับปลูกข้าวในฤดูฝน  หากเปรียบเทียบกับความครอบคลุมของการชลประทานระหว่าง 2510-2562 การเข้าถึงของคลองชลประทานเพิ่มขึ้นร้อยละ 81รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยังเน้นย้ำถึงความพยายามของรัฐบาลกัมพูชาในการฟื้นฟูและพัฒนาระบบชลประทานของกัมพูชาเพื่อสนับสนุนและขยายการพัฒนาการเกษตรของประเทศต่อไปในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739924/water-from-cambodias-irrigation-canals-accessible-by-62-of-total-farm-land/

กัมพูชาเร่งพัฒนาภาคเกษตรกรรม การท่องเที่ยวภายในประเทศ และ SMEs

กัมพูชาจำเป็นต้องเร่งส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวภายในประเทศ การเกษตรและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 หลังจากการประชุมเรื่อง “สิ่งที่ประเทศกัมพูชาควรเตรียมที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจหลัง COVID-19” ซึ่งเศรษฐกิจของกัมพูชาจะไม่สามารถฟื้นตัวได้เลยจนกว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ สนับสนุนการท่องเที่ยวและสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมถึงลดต้นทุนการผลิตในภาคการขนส่งและการพัฒนาของ SMEs โดย ณ ปัจจุบัน SMEs ภายในประเทศได้เริ่มจ้างงานประมาณร้อยละ 70 ของภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด แต่ยังคงขาดแคลนเทคโนโลยีและแรงงานที่มีทักษะสูง เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาอาจหดตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในปีนี้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736309/agriculture-domestic-tourism-and-smes-are-the-catalysts-to-restore-the-economy/

ข้อตกลงการค้า EVFTA ช่วยส่งเสริมภาคเกษตรกรรมของเวียดนาม : EP

ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนามกับสหภาพยุโรป (EU-Vietnam Free Trade Agreement : EVFTA) เป็นประโยชน์ต่อภาคเกษตรของเวียดนาม ตามข้อมูลของรัฐสภาสยุโรป (EP) แม้ว่าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีจะได้รับการอนุมัติจากสถาแห่งชาติของเวียดนาม เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.โดยยกเลิกภาษีนำเข้าถึง 65% สำหรับสินค้าเวียดนาม เมื่อมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ และจนถึงปี 2030 การยกเลิกภาษีจะเท่ากับ 100% ทั้งนี้ เวียดนามยินดีต่อการยกภาษีนำเข้าและโควตาข้าวขาว ข้าวสาร ข้าวหอมมะลิ ปริมาณอยู่ที่ 30,000 , 20,000 และ 30,000 ตัน ตามลำดับ ขณะที่ สินค้าอื่นๆ ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ชาและกาแฟ ได้รับผลประโยชน์จากข้อตกลงดังกล่าว นอกจากนี้ สหภาพยุโรปก็ได้รับประโยชน์ในการส่งออกเนื้อวัว ผลิตภัณฑ์นมและเนื้อหมู ไปยังกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรัฐสภายุโรปมองว่าข้อตกลง EVFTA สร้างผลประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย และคาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังยุโรปกว่า 15 พันล้านยูโร

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/evfta-to-benefit-vietnams-agricultural-sector-ep-official/174596.vnp

‘เวียดนาม’ติดท็อป 15 ประเทศเกษตรกรรมชั้นนำโลก

เวียดนามตั้งเป้ายกระดับภาคเกษตรกรรมให้เป็น 1 ใน 15 ประเทศที่มีการพัฒนาด้านการเกษตรระดับโลก ภายในปี 2573 ด้วยการเป็นผู้นำด้านการแปรรูปอาหาร 10 อันดับแรกกของทั่วโลก ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวถูกดำเนินงานภายใต้คำสั่งรัฐบาลเวียดนามที่ No25/CT-TTg โดยมีการกำหนดภารกิจและแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ป่าไม้ ประมง รวมถึงเครื่องจักรกลทางการเกษตรในสัปดาห์นี้ ในขณะเดียวกัน คำสั่งรัฐบาลยังตั้งเป้าให้เวียดนามเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์การเกษตรชั้นนำของโลกและการแปรรูปเชิงลึก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เหวียนซวนฟุก ขอความร่วมมือสำนักงานรัฐมนตรี คณะกรรมการประชาชนในท้องถิ่นให้ดำเนินงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อมุ่งเน้นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปและเครื่องจักรกลเกษตร นอกจากนี้ ทางกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนท (MARD) เร่งพิจารณาในการปรับปรุงแผนฉบับก่อนเกี่ยวกับเครื่องจักรกลเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูป เพื่อบูรณาการเข้ากับแผนพัฒนาระดับชาติ จังหวัดและท้องถิ่น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-agriculture-to-be-worlds-top-15-most-developed/174497.vnp

หน่วยงานของสหประชาชาติเริ่มดำเนินการเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมในกัมพูชา

กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร (IFAD) ซึ่งเป็นองค์กรด้านการเงินระดับโลกและหน่วยงานพิเศษของสหประชาชาติ (UN) ได้ประกาศแผนการที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อยกระดับภาคเกษตรกรรม และบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 โดยความร่วมมือดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจของชุมชนในชนบทโดยการสร้างโอกาสให้กับแรงงานเกษตรกรและการขยายโอกาสสำหรับเกษตรกรรายย่อยด้วยการสนับสนุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการบริการการเกษตรเพื่อนวัตกรรมความยืดหยุ่นและการขยายตัว (ASPIRE) จะถูกนำโดย MAFF และมุ่งเน้นในทันทีคือการรักษาการผลิตผักใบเขียวและไข่ไก่เป็นองค์ประกอบสำคัญของอาหารท้องถิ่น พร้อมกันกับโครงการเร่งรัดการรวมตลาดสำหรับผู้ถือครองรายย่อย (AIMS) ที่นำโดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นช่องทางในการจัดหาทรัพยากรเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านชลประทานในฟาร์มแก่เกษตรกรเพื่อสนับสนุนในการผลิตสินค้าเหล่านี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50715086/un-agency-springs-into-action-to-aid-agriculture-sector/

ภาคเกษตร ป่าไม้และประมง เกินดุลการค้า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้

ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ภาคเกษตร ประมงและประมงเวียดนาม มียอดเกินดุลการค้ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมงอยู่ที่ 5.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.8 ขณะเดียวกัน มูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมงอยู่ที่ 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตลาดส่งออกสินค้าเกษตร ป่าและประมงรายใหญ่ของเวียดนาม คือ จีน สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและอาเซียน ทั้งนี้ ทางกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) ระบุว่าได้ทำการประสานงานกับหนวยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการค้าในตลาดใหม่และกระตุ้นยอดขายในประเทศ ขณะเดียวกัน คาดว่ายอดส่งออกสินค้าดังกล่าวในปี 2563 อยู่ที่ 41.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่าภาคการเกษตร ป่าไม้และประมง ขยายตัวร้อยละ 2.01 ในปี 2562

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/agro-forestry-fishery-sector-runs-trade-surplus-in-two-months/169295.vnp

ญี่ปุ่นให้คำมั่นสัญญาต่อกัมพูชาในการช่วยพัฒนาภาคการเกษตร

รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคเงินจำนวน 890,471 เหรียญสหรัฐ สำหรับการพัฒนาระบบชลประทาน การดูแลสุขภาพเยาวชนและการเสริมสร้างศักยภาพเยาวชนในกัมพูชา โดยจะมีการจัดสรรงบประมาณจำนวน 85,019 เหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการแรกซึ่งจะเน้นการพัฒนาระบบชลประทานเพื่อส่งเสริมการเกษตรในเขตพระวิหาร ซึ่งเงินดังกล่าวจะมอบให้กับองค์กรภาครัฐคือสมาคมปราสาทพระวิหารแห่งประเทศญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำในหมู่บ้านเชิงนิเวศของจังหวัด โดยตัวแทนของสมาคม Noritada Morita กล่าวว่าเกษตรกรในพื้นที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการเพราะเชื่อว่าจะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะในฤดูแล้ง ร่วมปรับปรุงเทคโนโลยีการเกษตรและปรับปรุงการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพัฒนาภูมิภาคอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการที่สองจะได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 452,427 เหรียญสหรัฐ เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงบริการสุขภาพแบบครบวงจร น้ำสะอาด สุขาภิบาลและบริการด้านโภชนาการในพระวิหาร ส่วนโครงการที่สามจะเน้นการพัฒนาเยาวชนในจังหวัดไพลิน เงินจำนวนสนับสนุน 353,025 เหรียญสหรัฐจะนำไปบริจาคให้องค์กรพัฒนาเอกชน Kokkyo naki Kodomotachi เพื่อสนับสนุนเยาวชนและจัดให้พวกเขามีทักษะชีวิตและความสามารถ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50695195/japan-pledges-nearly-900000-to-improve-kingdoms-agriculture

ตัวแทนบริษัทจากสหรัฐอเมริกาจะไปเยือนกัมพูชา

ตัวแทนจาก 16 บริษัท จากสหรัฐอเมริกาจะไปเยือนกัมพูชาในสัปดาห์นี้เพื่อสำรวจแนวโน้มล่าสุดในภาคเกษตรกรรมของประเทศโดยเฉพาะ ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักเช่น Amazon, John Deer, IBM, Walmart, US Grains Council และ Sripipat Engineering โดยมีกำหนดการจะเดินทางมาถึงกัมพูชาในต้นเดือนหน้าตามที่สถานทูตสหรัฐฯในกรุงพนมเปญรายงาน ซึ่งถือเป็นโอกาสทางธุรกิจในภาคเกษตรกรรมของกัมพูชา โดยบริษัทจะมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีความปลอดภัยทางชีวภาพ และความปลอดภัยของอาหารในภาคเกษตรกรรม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแนะนำให้บริษัทจากสหรัฐสามารถลงทุนในการเกษตร การแปรรูปอัญมณี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยข้อมูลการค้าระหว่างสองประเทศระหว่างกัมพูชาและสหรัฐอเมริกามีมูลค่าราว 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 40% เมื่อปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50686575/us-firms-to-visit-cambodia

ความร่วมมือสปป.ลาว – จีนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและการเกษตรในสะหวันนะเขต

หน่วยงานสปป.ลาวและบริษัทจีนจะสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเกษตรในเมืองเซโปน แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งบริษัท ซันเปเปอร์โฮลดิ้งลาว จำกัด จะให้การสนับสนุนมากกว่า 177 พันล้านกีบ (20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อดำเนินโครงการบนที่ดิน 800 เฮกตาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและการลงทุนในแขวงสะหวันนะเขตและผู้อำนวยการ บริษัท ซันเปเปอร์โฮลดิ้งลาว จำกัด ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการ โดยมีแผนที่จะจัดสรรที่ดินเพื่อการเพาะปลูก การเลี้ยงปลาและการปลูกต้นไม้เพื่อการผลิตที่ยั่งยืนที่จะสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น หน่วยงานและบริษัทยังวางแผนที่จะพัฒนาพื้นที่โครงการ 800 เฮกตาร์เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยสร้างเพื่อรับรองผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Product) และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-chinese-partnership-develop-industry-and-agriculture-savannakhet-111968