อาเซียน-แคนาดา ถกทำ FTA รอบ 5 คืบหน้าต่อเนื่อง นัดรอบ 6 พ.ย.นี้

นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) อาเซียน-แคนาดา รอบที่ 5 ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 25-29 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา ว่า การประชุมรอบนี้ ได้เน้นหารือ 9 กลุ่ม ได้แก่ การค้าบริการ บริการโทรคมนาคม บริการด้านการเงิน การลงทุน พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายและสถาบัน การค้าสินค้า และกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ส่วนอีก 4 กลุ่ม ได้หารือผ่านทางออนไลน์ ได้แก่ พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า และวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย

ทั้งนี้ คณะกรรมการเจรจาการค้าได้กำชับให้คณะทำงานเจรจาทุกคณะ หารืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ความคืบหน้าเพิ่มเติมก่อนการประชุมรอบที่ 6 ในเดือน พ.ย.2566 พร้อมทั้งกำหนดแผนที่จะประชุมกันอีก 5 รอบ ในปี 2567 เพื่อให้อาเซียนและแคนาดาสามารถสรุปผลการเจรจาภายในปี 2568 ตามที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและแคนาดาได้ตั้งเป้าหมายไว้

ที่มา : https://commercenewsagency.com/news/6408

‘รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่น’ เตรียมเยือน 4 ชาติอาเซียน รวมไทย เริ่ม 8 ต.ค.นี้

แหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (30 ก.ย.) ว่า โยโกะ คามิกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะเดินทางเยือนบรูไน เวียดนาม ลาว และไทยตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.นี้ ในขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมจัดการประชุมสุดยอดกับผู้นำอาเซียนในปลายปีนี้ เมื่อพิจารณาถึงความอหังการของจีนที่เพิ่มมากขึ้นในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออกนั้น คามิกาวะได้รับการคาดหวังให้ยืนยันกับรมว.ต่างประเทศของ 4 ชาติอาเซียนถึงความสำคัญของการรับรองความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม และการตระหนักถึงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรดาผู้นำจากญี่ปุ่นและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีกำหนดพบปะกันในวันที่ 16-18 ธ.ค.ปีนี้ที่กรุงโตเกียว เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกัน

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/339138

กัมพูชาถือเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศ ซึ่งได้รับการลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของจีน

การประชุมใหญ่เชิงวิชาการอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า (CEPSI) ครั้งที่ 24 มีกำหนดจัดขึ้นที่เมืองเซี่ยเหมินทางตอนใต้ของประเทศจีน ในระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคม นำโดยสภาการไฟฟ้าของจีน (CEC) ซึ่งโครงการลงทุนดังกล่าวครอบคลุม 10 ประเทศในภูมิภาค รวมถึงปากีสถาน กัมพูชา อุซเบกิสถาน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณกว่า 1.95 พันล้านดอลลาร์ ด้าน Xu Guangbin ผู้อำนวยการของ CEPSI กล่าวเสริมว่าในระหว่างการประชุมจะมีเซสชันและกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านพลังงานระหว่างกัน รวมถึงมองหาโอกาสในการร่วมมือและการพัฒนาที่ยั่งยืนของภาคพลังงาน ภายใต้ธีม “Low Carbon Energy Powering a Green Future” โดยเชื่อว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมพลังงานเพื่อที่จะลดการปล่อยคาร์บอนของโลกเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียวในระยะต่อไป สำหรับบริษัทพลังงานของจีนกำลังมุ่งเน้นไปที่โครงการพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทั่วโลก โดยจนถึงขณะนี้บริษัทใหญ่ๆ ได้ลงทุนและสร้างโครงการพลังงานแล้ว 16 โครงการ ภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 66.7 ของการลงทุนภาคพลังงานในต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501367595/cambodia-is-among-10-countries-where-1-95-billion-of-the-total-foreign-investment-by-major-chinese-power-companies-went/

นโยบายหนุนรถ EV ของอินโดนีเซียมีแววส่งเสริมการลงทุนในอาเซียน

นโยบายที่เอื้อต่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของอินโดนีเซียได้ดึงดูดให้นักลงทุนทั่วโลกหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นโยบายดังกล่าวของอินโดนีเซียนั้นจะช่วยหนุนการลงทุนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ นายอนินด์ยา โนเวียน บัครี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการบริษัทบัครีแอนด์บราเธอร์ส (Bakrie & Brothers) ระบุว่า อินโดนีเซียอาจเป็น “ประตู” มุ่งสู่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทวีเคทีอาร์ (VKTR) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบัครีแอนด์บราเธอร์ส เป็นผู้ผลิตรถบัสไฟฟ้าและชิ้นส่วนรถ EV

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/337445

BOL สปป.ลาว แนะภาคธุรกิจใช้ระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนมากขึ้น

ดร.บุญเหลือ สินไซวอระวง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศลาว กล่าวในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินและการพัฒนา ครั้งที่ 15 ณ หนานหนิง ประเทศจีน ว่า สปป.ลาว พร้อมส่งเสริมการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนและการใช้สกุลเงินท้องถิ่น ในการชำระราคาค่าสินค้าที่เกิดขึ้นระหว่างพรมแดน โดยความคิดเห็นของผู้ว่าการยังสอดคล้องกับมุมมองของ นาย Xiu Xiayu, หัวหน้าสาขาธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน (AgBank) ซึ่งได้เข้าร่วมหารือกับธนาคารแห่งประเทศลาว สำหรับประเทศในอาเซียนก็ได้มีพยายามที่จะส่งเสริมการชำระเงินด้วยสกุลเงินท้องถิ่น โดยใช้ระบบชำระเงินร่วมเพื่อสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจผ่านระบบชำระเงินที่ได้มีการพัฒนาร่วมกัน โดย สปป.ลาว และกัมพูชา ได้เปิดใช้งานระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR-Code ไปแล้วในปีนี้ เพื่อส่งเสริมการใช้เงินสกุลเรียลของกัมพูชา ใกล้เคียงกันกับการเปิดให้ใช้งานในประเทศไทยและเวียดนาม

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/09/25/bol-chief-calls-for-more-cooperation-in-launching-cross-border-payment-systems/

จับตา “บริษัทในอาเซียน” จำนวนมาก จ่อเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทในอาเซียน หลายแห่งกำลังพิจารณาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา โดยอาศัยความต้องการของนักลงทุนที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตของตลาดเกิดใหม่ สิ่งนี้เกิดขึ้นนอกเหนือจากแผนการที่ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ โดย VNG Corp บริษัทอินเทอร์เน็ตของเวียดนาม และ DoubleDragon Corp’s บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของฟิลิปปินส์ที่จะเข้าจดทะเบียนในสหรัฐฯ เป็นการเติมเต็มช่องว่างที่บริษัทจีนซึ่งหยุดชั่วคราว หลังจากความตึงเครียดทางการเมืองกับสหรัฐทวีความรุนแรงขึ้น จีนได้เข้มงวดการตรวจสอบบริษัทในประเทศที่แสวงหาการเข้าจดทะเบียนในต่างประเทศอย่างเข้มงวด ขณะที่เศรษฐกิจจีนก็ชะลอตัวลง ทั้งนี้ บริษัทในอาเซียน ระดมทุนได้ประมาณ 101 ล้านดอลลาร์ผ่านการเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ ในปี 2566 ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วมากที่ 919 ล้านดอลลาร์ แต่คาดว่าอัตราการระดมทุนจะเพิ่มขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ มองหาแหล่งเงินทุนใหม่

ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/2023/62235/

‘เมียนมา’ เผย 4 เดือนปี 66 ส่งออกไปยังภูมิภาค ทะลุ 1.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ (MoC) รายงานว่าการส่งออกของเมียนมาไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคในช่วงเดือน เม.ย.-ก.ค. มีมูลค่าเกินกว่า 1.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ของปีงบประมาณ 2566-2567 ขณะที่การค้าอาเซียน-เมียนมา ผ่านเส้นทางทะเลและชายแดนทางบก มีมูลค่ากว่า 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเมียนมาในภูมิภาค โดยมีมูลค่ามากกว่า 2.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาสิงคโปร์ (1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) มาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม อีกทั้ง สินค้าส่งออกสำคัญของเมียนมา ได้แก่ สินค้าการเกษตรและประมง แร่ธาตุ ในขณะเดียวกัน สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-exports-to-regional-countries-cross-us1-77-bln-in-4-months-moc-reports/

กลุ่มทุนยักษ์ซาอุฯ เตรียมทุ่ม 2 แสนล้านตั้งคลังน้ำมันภาคใต้ของไทยฮับอาเซียน เทียบเท่าสิงคโปร์

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. ได้เข้าร่วมคณะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยคณะภาครัฐและภาคเอกชน ระหว่างวันที่ 6-10 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือทวิภาคี และส่งเสริมการเจรจาการค้าและการลงทุนระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ในการเร่งผลักดันการค้า การลงทุน

ทั้งนี้ ทางซาอุฯ สนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่โครงการแลนด์บริดจ์ในภาคใต้ของไทยโดยพร้อมลงทุน 200,000 ล้านบาท ในการตั้งศูนย์กลางในการกระจายน้ำมันในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออก ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นแหล่งใหม่ในการกระจายน้ำมันในภูมิภาคนี้ และจะมีขนาดใหญ่ไม่น้อยไปกว่าที่สิงคโปร์ และมีแนวโน้มที่ไทยจะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางด้านน้ำมัน และปิโตรเคมีในภูมิภาคนี้ คาดว่าในระยะสั้นจะชิงส่วนแบ่งการตลาดจากสิงคโปร์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวหากไทยรักษาลูกค้าได้ดีกว่ามีโอกาสที่จะแซงหน้าสิงคโปร์ได้ในอนาคต

ที่มา : https://thailandnews.asia/28631/

นายกฯ สปป.ลาว ให้คำมั่น พร้อมร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการสนับสนุนโครงการ BRI

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 ก.ย.) นายกรัฐมนตรี Sonexay Siphandone ของ สปป.ลาว แสดงความพร้อมในการสนับสนุนโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) อย่างใกล้ชิด โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างพิธีเปิดงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 20 ณ เมืองหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งกล่าวว่า สปป.ลาว พร้อมที่จะรักษาความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับจีนและสมาชิกประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน และมีส่วนร่วมในการดำเนินการตามข้อริเริ่มดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานของทั้งสองประเทศกำลังก่อให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงบวก โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน ที่เริ่มให้บริการแล้วในปัจจุบัน ส่งเสริมทั้งภาคการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว เป็นอย่างมาก

ที่มา : http://en.people.cn/n3/2023/0918/c90000-20073122.html

กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับสุดยอดงานแสดงสินค้าคุณภาพดี ราคาโรงงาน จากประเทศจีน ใน “งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (ประเทศไทย) ครั้งที่ 10”

คณะผู้จัดงาน “กวางเจาเทรดแฟร์ หรือ แคนตันแฟร์” (Canton Fair) งานแสดงสินค้าเพื่อการส่งออกและนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนและเอเชีย จัดพิธีเปิดมหกรรมแสดงสินค้านำเข้าจากเมืองจีนครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (ประเทศไทย) ครั้งที่ 10” หรือ “The 10th China-ASEAN (Thailand) Commodity Fair (CACF)” สุดยอดงานแสดงสินค้าคุณภาพดี ราคาโรงงาน จากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลจีนกว่า 300 บูธ และมีการตอบรับการเข้าร่วมมากกว่า 200 บริษัท พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจด้วยกิจกรรมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการจีนโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ตลอดจนกิจกรรมสัมมนาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการตลาดชื่อดังของเมืองไทย เพื่อการต่อยอดธุรกิจในยุค Red Ocean อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับงานสามารถเข้าร่วมชมได้ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 14 กันยายน 2566 เวลา 10.00 – 18.00 น. และในวันที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 10.00 – 16.00 น. ณ ฮอลล์ 102 ไบเทค บางนา พร้อมร่วมอัพสกิล เสริมทักษะด้านการขายไปกับกิจกรรมในงาน ได้แก่ กิจกรรมสัมมนาพิเศษ “8 เคล็ดวิชา ปั้นธุรกิจให้ทำเงิน” บรรยายโดย 9 กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการตลาดชื่อดังของเมืองไทย อาทิ โซอี้ “เพจDigital Shortcut”, เปี๊ยก บุญชัย “เพจพี่เปี๊ยกจัดให้”, หมอกิม “เพจThe Sales-Partan”, ริริว ระชาวีย์ และแป้ง ศุกระวรรณ ที่จะมาเผยเคล็ดลับการทำธุรกิจให้ได้เงินในยุค Red Ocean ตั้งแต่วิธีหาสินค้าขายดี การนำเข้า การทำตลาด ช่องทางการขาย ไปจนถึงเทคนิคการจัดการภาษีแบบเข้าใจง่ายที่สามารถไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก พร้อมเปิดโอกาสให้ได้พูดคุย เจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตโดยตรง แบบไม่ผ่านคนกลาง และไม่ต้องบินไกลไปถึงเมืองจีนอีกด้วย

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/prg/3453782