กัมพูชาส่งเสริมการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนระหว่าง เวียดนาม และสปป.ลาว

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) กำลังเตรียมลงนามข้อตกลงกับธนาคารแห่งรัฐเวียดนามและธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อส่งเสริมการใช้สกุลเงินเรียลของกัมพูชาในกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างกันข้ามพรมแดน กล่าวโดย Chea Serey รองผู้ว่าการ NBC ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อของเวียดนามในกรุงพนมเปญ โดยเน้นย้ำว่าความคิดริเริ่มนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคใช้สกุลเงินเรียลในการซื้อสินค้า/บริการในประเทศมากขึ้น ผ่านการใช้งานบนระบบ QR Code ที่เชื่อมโยงกับบัญชีในประเทศของตน ซึ่งรองผู้ว่าการฯ สังเกตว่าความต้องการในการใช้เงินสกุลเรียลเพิ่มขึ้นทีละน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การไหลเวียนของเงินเรียลในกัมพูชามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 16.6 หรือคิดเป็นประมาณ 14.1 ล้านล้านเรียล (เทียบเท่ากับ 3.4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจาก 356 ล้านเรียลในปี 1998 โดยการใช้สกุลเงินดอลลาร์ในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชา เนื่องจากปริมาณเงินเรียลในระบบมีการใช้อยู่ค่อนข้างน้อย จนทำให้ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ใช้นโยบายทางการเงินได้ไม่เต็มที่ โดยปัจจุบันกลุ่ม ASEAN-5 ประกอบด้วยอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และสิงคโปร์ ได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว เพื่อจัดตั้งระบบการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนโดยใช้ QR Code ร่วมกันภายในสิ้นปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501311878/cambodia-to-promote-cross-border-digital-payment-with-viet-nam-laos/

นายกฯ ฮุนเซน เรียกร้องเร่งศึกษาแหล่งน้ำมันดิบใต้ก้นทะเลกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน กล่าวว่า กัมพูชามีแหล่งน้ำมันที่มีศักยภาพใต้ก้นทะเลที่รอการสำรวจและการลงทุน ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวไว้ในระหว่างพิธีเปิดโรงงานบำบัดน้ำ Bakheng ในกรุงพนมเปญ โดยสนับสนุนให้ทำการศึกษาและสำรวจแหล่งน้ำมันใต้ก้นทะเลกัมพูชา เพื่อมองหาโอกาสในการลงทุน ซึ่งหวังว่าในอนาคตกัมพูชาอาจมีการลงทุนในอุตสาหกรรทการผลิตน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่ามีแหล่งน้ำมันอยู่ใต้พื้นที่โตนเลสาบที่ยังไม่ได้ศึกษาและสำรวจ ในอดีตกัมพูชาเคยมีการผลิตน้ำมันครั้งแรกดำเนินการโดย บริษัท KrisEnergy เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2020 และบริษัทได้ยื่นฟ้องล้มละลายประมาณหกเดือนหลังจากดำเนินการในช่วงเดือนมิถุนายน 2021 ส่งผลทำให้บริษัทต้องปิดกิจการลง แต่ในปัจจุบันกระทรวงและบริษัทพลังงานสัญชาติแคนาดา ได้ร่วมพูดคุยและหารือเกี่ยวกับการศึกษาร่วมกันเพื่อเริ่มต้นการทำงานใหม่ โดยอุปกรณ์ที่มีอยู่จะกลับมาทำงานในบล็อกน้ำมันในไม่ช้า ขณะที่การนำเข้าน้ำมันและก๊าซของกัมพูชาอยู่ที่ 1.15 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต โดยความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.8 ล้านตันในปี 2020 เป็น 4.8 ล้านตันในปี 2030 กล่าวโดยรัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501310756/pm-calls-for-study-on-cambodias-untapped-oil-reserves/

คาดความช่วยเหลือและการลงทุนของจีน มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาของกัมพูชา

Pan Sorasak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา กล่าวเมื่อไม่นานว่า ความช่วยเหลือและการลงทุนเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการของจีน มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงกัมพูชา โดยรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่าด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้งสองประเทศภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งปัจจุบันจีนเข้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ และเสียมราฐ-นครวัด สนามบินนานาชาติและอื่น ๆ ในขณะที่ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และความตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2022 ได้เพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501311086/chinas-aid-investment-greatly-contribute-to-cambodias-development/

ในช่วง ม.ค.-พ.ค. มูลค่าการค้ากัมพูชาหดตัว 14% แตะ 19.2 พันล้านดอลลาร์

มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาอยู่ที่ 19.2 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ตามรายงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง โดยกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวมเกือบ 9.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 2.4 (YoY) ขณะที่การนำเข้าคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ปรับตัวลดลงเช่นกันที่ร้อยละ 22.6 (YoY) ด้าน Pan Sorasak รมว.พาณิชย์ ระบุว่าการส่งออกที่ลดลงมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่คาดว่าสถานการณ์โดยภาพรวมจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงปีนี้ โดยกัมพูชาเน้นการนำเข้าวัตถุดิบและวัสดุก่อสร้าง รถยนต์ ยา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปุ๋ย และยาฆ่าแมลงเป็นหลัก ขณะที่สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าเดินทาง จักรยาน ข้าว เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางพารา เฟอร์นิเจอร์ และผัก สำหรับตลาดส่งออกสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น แคนาดา เยอรมนี เวียดนาม ไทย และสิงคโปร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501310428/cambodias-trade-turnover-over-19-2-bn-in-jan-may-2023-14-yoy-drop/

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาคาด GDP ปีนี้ โต 5.6%

Aun Pornmoniroth รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2023 ไว้ที่ร้อยละ 5.6 จากที่ขยายตัวร้อยละ 5.3 ในปีที่แล้ว โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการประชุมร่วมครั้งที่ 35 ของคณะกรรมาธิการ UNWTO (35th CAP & CSA) และการประชุม WTO ว่าด้วยมาตรฐานสากลการคุ้มครองนักท่องเที่ยว (ICPT) ณ Sokha Phnom Penh Hotel & Residence โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมีมุมมองในแง่ดีสำหรับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจของกัมพูชาที่กำลังจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ภาวะปกติ หลังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในช่วงปี 2025 ทางการกัมพูชาคาดว่าจะกลับมาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวแตะ 7 ล้านคน และในปี 2026 คาดว่าจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปถึงประมาณ 13 ล้านคน ใกล้เคียงกับจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2019 ภายใต้แนวคิด Public-Private Partnership (PPP) ผ่านความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501310040/pornmoniroth-puts-cambodias-2023-gdp-forecast-at-5-6/

นักท่องเที่ยว ไทย-เวียดนาม ยังคงเป็นกลุ่มสำคัญสำหรับภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาเปิดเผยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของกัมพูชา โดยในช่วงไตรมาสแรกมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมายังกัมพูชากว่า 570,000 คน นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 285,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวจีน 184,000 คน ซึ่งหากนับรวมกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆ จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 1.72 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 600 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันคาดว่าจะมีเที่ยวบินตรงจากจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น อีกทั้งทางการกัมพูชากำลังเร่งพัฒนาสนามบินใหม่สองแห่งที่มีระยะทางห่างจากเสียมราฐประมาณ 50 กม. ซึ่งมีกำหนดเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และแห่งที่สองห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 20 กม. คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2024 ด้วยเหตุผลข้างต้นคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังกัมพูชาอย่างน้อย 4 ล้านคนในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501309801/asean-neighbours-thailand-and-vietnam-the-largest-groups-of-tourists-entering-cambodia/

5 เดือนแรกของปี ทางการกัมพูชาจัดเก็บภาษีแตะ 1.8 พันล้านดอลลาร์

กรมภาษีอากร (GDT) หน่วยงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา รายงานการจัดเก็บภาษีมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 51 ของเป้าหมายการจัดเก็บภาษีประจำปี รายงานโดย Kong Vibol ผู้อำนวยการกรมภาษีอากร ในระหว่างการประชุมสรุปเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (15 มิ.ย.) โดยทางการได้เร่งพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับปี 2023 รัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีไว้ที่ประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501309834/cambodia-collects-1-8-billion-in-tax-income-for-first-5-months-of-this-year/

4 เดือนแรกของปี กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโตกว่า 613%

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.72 ล้านคน ขยายตัววกว่าร้อยละ 613 จากจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 241,485 คน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงการท่องเที่ยวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) ซึ่งประเทศไทยติดอันดับหนึ่งในชาร์ตนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังกัมพูชาในช่วงเดือนมกราคม-เมษายนปีนี้ ตามมาด้วยเวียดนามและจีน โดยรายงานระบุเพิ่มเติมว่าในจำนวนดังกล่าวคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 570,021 คน เวียดนาม 289,643 คน และชาวจีน 184,009 คน

ด้าน Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาตั้งเป้าหวังว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้มากกว่า 4 ล้านคน ภายในปี 2023 สำหรับภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจกัมพูชา โดยกัมพูชามีแหล่งมรดกโลก 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานโบราณคดีอังกอร์ในจังหวัดเสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือ ปราสาทพระวิหารในจังหวัดพระวิหารทางตะวันตกเฉียงเหนือ และปราสาทสมโบร์ไพรกุกในจังหวัดกำปงธมทางตอนกลางของประเทศ นอกจากนี้ยังเมีเมืองชายฝั่งที่ทอดยาวกว่า 450 กม. ผ่าน 4 จังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ สีหนุวิลล์ กัมปอต แกบ และเกาะกง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501308550/cambodia-records-513-percent-increase-in-tourist-arrivals-in-1st-4-months/

การค้า กัมพูชา-ญี่ปุ่น แตะเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่น ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวมกว่า 699 ล้านดอลลาร์ ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 5 รองจากจีน สหรัฐฯ เวียดนาม และไทย รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ซึ่งคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นที่มูลค่า 442 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการนำเข้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่นที่มูลค่า 257 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกในช่วงเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวมีมูลค่าอยู่ที่ 55 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 20.4 จากมูลค่า 69 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน

ด้านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา Ueno Atsushi ได้กล่าวในเวทีสาธารณะของกัมพูชาเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นมองเห็นถึงศักยภาพของกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขงติดต่อกับไทยและเวียดนามเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังมีกำลังแรงงานที่อายุน้อยและมีต้นทุนการจ้างงานที่ถูกกว่าแรงงานในประเทศไทยและเวียดนาม รวมถึงกัมพูชายังเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนภายใต้นโยบายส่งเสริมมากมาย ด้วยเหตุผลข้างต้นทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นคาดว่าจะเข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มขึ้นในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501308691/cambodia-japan-bilateral-trade-nears-700-million-in-the-first-five-months/

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญของกัมพูชา

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) โดยรายงานของ GDCE ระบุว่าการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 3.19 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 14.3 จากมูลค่า 3.73 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.8 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาที่มีมูลค่ารวม 9.18 พันล้านดอลลาร์ สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าสำหรับการเดินทาง แม้ว่าปัจจุบันกัมพูชาจะไม่ได้สิทธิพิเศษของโครงการ GSP จากสหรัฐแล้วก็ตาม โดยในปี 2023 ทางการกัมพูชาคาดว่าสถานการณ์การส่งออกอาจต้องเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากคำสั่งซื้อโดยภาพรวมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในปีที่แล้วการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่ารวม 6.92 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501307389/us-remains-cambodias-largest-export-market/