‘วีซ่า’ จับมือเป็นพาร์ทเนอร์อีวอลเล็ท ดันตลาดเวียดนาม

นาง Dang Tuyet Dung ผู้จัดการวีซ่าประเทศเวียดนามและสปป.ลาว กล่าวว่าวีซ่า (Visa) ผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก มีความยินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำในเวียดนาม ได้แก่ MoMo, VNPAY และ ZaloPay เพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินให้เป็นเรื่องสะดวก ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ให้กับผู้ถือบัตรวีซ่าที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงประชาชน โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของเวียดนามไปสู่สังคมไร้เงินสด โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่สามารถเสนอโซลูชั่นให้กับผู้บริโภค

นอกจากนี้ จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในเรื่องการชำระเงิน พบว่าในปี 2566 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 88% ใช้การชำระเงินดิจิทัล ในขณะที่ 62% ใช้สแกน QR Code ชำระเงิน เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2565

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656257/visa-partners-with-e-wallets-in-viet-nam.html

‘เวียดนาม’ เผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม สัญญาณฟื้นตัว

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ทำการประเมินสถานการณ์ของภาคอุตสาหกรรมพบว่าดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม ม.ค.-เม.ย. เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะสาขาการผลิตและแปรรูปที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 6.3% เนื่องจากมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ ตลอดจนการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ในขณะที่ตลาดโลกค่อยๆกลับมาฟื้นตัวและปรับตัวจากการหยุดชะงักในปี 2565 และปี 2566 ทำให้ยอดคำสั่งซื้อส่งออกใหม่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ นาย Dao Phan Long ประธานสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องกลของเวียดนาม กล่าวว่าความพยายามของประเทศพัฒนาแล้วในการกระจายห่วงโซ่อุปทานและการลงทุน ช่วยให้เวียดนามกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก อย่างไรก็ดี จากการคาดการ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อสูง และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่ต่างๆ ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/industrial-production-shows-signs-of-recovery-post287518.vnp

สภาเวียดนามลงมติเลือก “พลเอกโต เลิม” เป็นปธน.คนใหม่

สมาชิกสภาแห่งชาติของเวียดนาม ลงมติเลือกพลเอกโต เลิม วัย 66 ปี เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของเวียดนาม ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่แทนอดีตประธานาธิบดีหว่อ วัง เถือง ผู้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 1 ปี โดยพลเอกโต เลิม มีผลงานโดดเด่นจากการดำรงตำแหน่งผู้นำโครงการปราบปรามการคอร์รัปชันครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐบาลและนักธุรกิจเวียดนามหลายพันคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และการขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาเกิดขึ้นในขณะที่พรรคโปลิตบูโรของเวียดนามสูญเสียสมาชิก 6 คนจากทั้งหมด 18 คน รวมถึงอดีตประธานาธิบดี 2 คนและหัวหน้ารัฐสภาของเวียดนาม ท่ามกลางการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตรับสินบนที่ขยายตัวออกไป

ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า การขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของพลเอกโต เลิม เป็นการปูทางให้เขาก้าวเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คนใหม่แทนนายเหงียน ฟู จอง วัย 80 ปี

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2787791

‘นายกฯ เวียดนาม’ สั่งจัดงบประมาณปี 68 มุ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

นายฟาม มินห์ จิญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ลงนามคำสั่งว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และจัดทำงบประมาณปี 2568 โดยตั้งข้อสังเกตไว้ว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปีหน้านั้น ได้มีการร่างขึ้นมาแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ที่รวดเร็วและคาดการณ์ไม่ได้ ในขณะที่ในปี 2568 ถือเป็นปีที่สำคัญของเวียดนาม เนื่องจากตรงกันกับช่วงการประชุมสมัชชาของพรรคทุกระดับ ก่อนที่จะไปสู่การประชุมสมัชชาพรรคแห่งชาติครั้งที่ 14

ทั้งนี้ ตามแผนการทำงานดังกล่าว ทางนายกฯ เรียกร้องให้กระทรวง หน่วยงานกลางและท้องถิ่น ระบุประเด็นหลักของแผนพัฒนาปี 2568 และตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถบรรลุเป้าหมายได้และแนวทางการแก้ไข รวมถึงชี้แจงรายละเอียดของเนื้อหา ระยะเวลาและความคืบหน้า ในขณะเดียวกัน การจัดทำแผนงบประมาณปี 2568 ต้องมีรายละเอียดของการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดเก็บงบประมาณ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pm-orders-building-socio-economic-development-plans-budget-estimates-for-2025-post287427.vnp

‘เวียดนาม’ พึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศมากเกินไป จำเป็นที่ต้องพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรม

จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่าภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบัน มีสัดส่วนราว 90% ของการส่งออกรวม และมีสัดส่วน 25.8% ของจำนวนงานทั้งหมดในประเทศ ในขณะที่การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของการลงทุนทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนสภาพจากการลงทุนของรัฐไปเป็นของการลงทุนที่มิใช้รัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไปยังภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ทั้งนี้ ธุรกิจข้ามชาติหรือธุรกิจ FDI เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากธุรกิจในประเทศประสบปัญหากับการยกระดับขีดความสามารถทางด้านการผลิตและการบริหาร รวมถึงการขาดเทคโนโลยีขั้นสูงและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656090/vn-too-heavily-dependent-on-fdi-must-improve-industrial-ecosystem.html

‘อีคอมเมิร์ซ’ ดันโอกาสสินค้าเวียดนามสู่ตลาดโลก

จากการประชุมอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัล จัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และ Amazon Global Selling Vietnam เมื่อวันที่ 22 พ.ย. พบว่าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีมูลค่า 7.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 และผลักดันรายได้ให้กับองค์กรและโซลูชั่นทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่รายได้จากอีคอมเมิร์ซค้าปลีก เติบโตเฉลี่ย 20% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และเวียดนามอยู่ใน 10 ประเทศชั้นนำที่มีอัตราการเติบโตทางด้านอีคอมเมิร์ซ

ทั้งนี้ สำนักงานอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนาม เร่งดำเนินมาตรการในการพัฒนาตลาดอีคอมเมิร์ซและสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอีคอมเมิร์ซระดับชาติ ปี 2564-2568

นอกจากนี้ สำนักงานยังร่วมมือกับสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้าประจำจังหวัดต่างๆ เพื่อที่จะส่งเสริมการเชื่อมโยงอีคอมเมิร์ซระดับภูมิภาคและท้องถิ่น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/e-commerce-helps-vietnamese-goods-go-global-conference-post287404.vnp