เวิลด์แบงก์คาดจีดีพีไทยปีนี้ 2.9% ราคาน้ำมัน-สินค้าแพง ดันเงินเฟ้อพุ่ง 5.2%

นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทย ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า เวิลด์แบงก์ออกรายงานตามติดเศรษฐกิจไทยฉบับใหม่ โดยคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ไว้ที่ 2.9% ซึ่งปรับลดลง 1% จากคาดเดิมเมื่อเดือนเดือนธ.ค.64 โดยไทยได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาพลังงานสูงและราคาสินค้าแพง กดดันเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นมาก และยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีนไม่ฟื้นตัวจากการปิดเมือง รวมทั้งความเสี่ยงจากโควิดที่อาจกลับมาระบาดได้อีกครั้ง ส่วนปัจจัยสนับสนุนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับเข้ามาได้ 6 ล้านคนในปีนี้ ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยได้พึ่งพาน้ำมันจากต่างประเทศ ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งจึงกระทบต่อไทย แต่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีจะได้รับแรงกระตุ้น และกลับไปสู่ระดับก่อนการระบาดโควิดในไตรมาสที่ 4 ของปี 65 จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดลงและการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนของประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านคนในปี 65 เพิ่มขึ้นจาก 4 แสนคนในปี 64 และเพิ่มขึ้นเป็น 24 ล้านคน หรือ 60% ของระดับก่อนการระบาดภายในปี 67 จึงคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 4.3% ในปี 66 และขยายตัว 3.9% ในปี 67 ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ที่ 5.2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 14 ปี ตลอดปี 65 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.3 การส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัว 4.1% ในปี 65 ชะลอตัวลงจากผลของปี 64 ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 18.8% สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์โลกที่ลดลงและปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานโลกที่ยืดเยื้อ

ที่มา : https://www.businesstoday.co/business/29/06/2022/85098/

คาดปี 2022 GDP กัมพูชาโตร้อยละ 5 ท่ามกลางความเสี่ยงภาวะเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางกัมพูชา (NBC) รายงานถึงเสถียรภาพทางการเงิน ณ ปี 2021 โดยเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะเติบโตประมาณร้อยละ 5 ในปี 2022 แต่ยังคงต้องคอยติดตามความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือนภายในประเทศ โดยการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากภาคการส่งออกสินค้าเกษตร การขนส่ง โทรคมนาคม และกระแสการลงทุนที่ดีขึ้น เป็นสำคัญ ในแง่ของการค้าและการลงทุน กัมพูชาคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี และการออกกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ ซึ่งในปี 2021 ภาคการผลิตดีดตัวขึ้นจากอุปสงค์ภายนอกที่ปรับตัวดีขึ้น โดยการส่งออกเสื้อผ้าคิดเป็นร้อยละ 65.1 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 ในขณะที่การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่ม (ไม่รวมทองคำ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 โดยเฉพาะจักรยาน ชิ้นส่วนไฟฟ้า และสินค้าเกษตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501097032/cambodias-gdp-to-grow-at-5-in-2022-but-inflation-threat-looms-large/

รัฐบาลขอให้รัฐสภา ตั้งเป้าตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอีกครั้ง

รัฐบาลได้ขอให้รัฐสภาพิจารณาและอนุมัติเป้าหมายเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญบางส่วนซึ่งได้รับการแก้ไขในปี 2565 ท่ามกลางความกลัวว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำ นาย Sonexay Sitphaxay ผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป. ลาว นำเสนอรายงานในการประชุมสภาแห่งชาติที่กำลังดำเนินอยู่ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมายที่แก้ไขแล้วซึ่งรัฐบาลจะต้องดำเนินการให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ ภายใต้ข้อเสนอนี้ ความยืดหยุ่นของอัตราแลกเปลี่ยน kip/us dollar ซึ่งขณะนี้ได้รับอนุญาตให้ผันผวนภายในช่วงบวกหรือลบร้อยละ 5 ต่อปี จะได้รับการแก้ไขให้อยู่ในระดับที่ไม่สร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อให้กับรัฐบาล รัฐบาลยังได้ขอให้เพิ่มจำนวนเงินในระบบ จากร้อยละ 22 เป็นร้อยละ 28 อันเนื่องมาจากค่าเงิน kip ที่อ่อนค่า ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.5 ในปีนี้ แม้จะมีความไม่แน่นอนของปัจจัยภายในและภายนอก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten113_Govtasks.php

EIC ปรับขึ้นจีดีพีปี 65 ขยายตัว 2.9% ต่างชาติเที่ยวไทยหนุนปีนี้ 7.4 ล้านคน

นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2565 ขึ้นเป็น 2.9% จากเดิม 2.7% ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและภาคบริการ ผ่านการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทยและการผ่อนคลายมาตรการผ่านแดนในหลายประเทศทั่วโลก โดย EIC ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 7.4 ล้านคนในปีนี้ (เดิม 5.7 ล้านคน) อีกทั้ง กิจกรรมในภาคบริการในประเทศยังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการกลับออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ตามอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคของภาครัฐ

ที่มา : https://www.businesstoday.co/business/14/06/2022/84717/

“IMF” มองเวียดนามกลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 5 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) พบว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปี 2564 อยู่ที่ 368 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจัดอยู่ในอันดับที่ 41 ของโลก โดยสหรัฐอเมริกายังเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด มีมูลค่า 22,940 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาจีน 16,863 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ รายได้ต่อหัวของคนเวียดนาม อยู่ที่ 3,743 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน นอกจากนี้ เมื่อพิจารณารายได้ต่อหัวของคนทั่วโลก พบว่าอันดับ 1 คือ ลักเซมเบิร์ก มี GDP ต่อหัวมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 131,302 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน รองลงมาไอร์แลนด์ ($102,394) และสวิตเซอร์แลนด์ ($93,515) เป็นต้น ในขณะที่ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 1 ของรายได้ต่อหัวมากที่สุด อยู่ที่ 66,263 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน รองลงมาคือบรูไน ($33,979), มาเลเซีย ($11,125), ไทย ($7,809) และอินโดนีเซีย ($4,225)

ที่มา : https://en.dangcongsan.vn/daily-hot-news/vietnam-becomes-fifth-largest-economy-in-southeast-asia-imf-598783.html

GDP เมียนมา โดยได้แรงหนุนจากภาคบริการถึง 58%

ระหว่างพิธีเปิดตัวแว็บไซต์เวอร์ชันใหม่ของ Services Trade and Investment Portal-STIP ที่จัดขึ้น ณ กรุงเนปยีดอ เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.2565) โดย Dr. Pwint San รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมา กล่าวว่า GDP ของประเทศมาจากการค้าบริการคิดเป็นร้อยละ 58 และรั้งอันดับ 4 ของประเทศอาเซียนในปี 2562  ซึ่ง  STIP Web Portal เป็นเว็บไซต์ที่เสนอกฎหมาย กฎและข้อบังคับของของการค้าบริการ และการบังคับใช้ตามพันธสัญญาของเขตการค้าเสรี ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งการค้าและการบริการมีบทบาทสำคัญในเมียนมาจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-gets-58-of-gdp-growth-from-services-trade/

‘ศก.เวียดนาม’ เผิชญกับความท้าทายใหม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนโลก

The Economic Information Daily ซึ่งเป็นสื่อในเครือของสำนักข่าวซินหัวที่เป็นสื่อของรัฐบาลจีน ได้ตีพิมพ์บทความระบุว่าเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ท่ามกลางสถานการณ์ทั่วโลกที่มีความผันผวน ตามรายละเอียดชี้ให้เห็นว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจท้องถิ่นได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ เศรษฐกิจของประเทศมีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะเมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 เวียดนามก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีการเติบโตของ GDP เป็นบวก นอกจากนี้ เศรษฐกิจเวียดนามกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการดำเนินใช้ชีวิตกำลังจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนเกิดโรคระบาด แต่ก็กำลังเผชิญกับอุปสรรคใหม่ อาทิ ปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกและปัจจัยดังกล่าวเริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามอีกด้วย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-economy-facing-new-challenges-amid-global-uncertainties-post946020.vov

รองนายกฯ เวียดนาม ตั้งเป้า GDP โต 6.5%

การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 15 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นาย เล วัน แถ่ง (Le Van Thanh) รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวว่าเศรษฐกิจเวียดนามปี 2565 ให้โตได้ตามเป้าหมาย 6-6.5% ถือเป็นเป็นความท้าทายครั้งใหญ่จากสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ในปัจจุบันเวียดนามมุ่งรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระดับมหภาคและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แสดงได้จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2.1% นอกจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินงานตามมติของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและมุ่งป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ตลอดจนขอความร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามนโยบายการเงินและการคลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อและเพิ่มรายรับงบประมาณของภาครัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/growth-target-of-65-remains-big-challenge-deputy-pm-post945860.vov

คาดเศรษฐกิจกัมพูชาปี 2022 โต 5.4%

Vongsey Vissoth รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงเศรษฐกิจการคลังกัมพูชา ได้รายงานถึงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาอยู่ที่ร้อยละ 5.2-5.4 ในปีนี้ ต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 5.6 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งรวมถึงการผลิต การค้า และการบริการ ในขณะที่จำนวนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนก็อยู่ในระดับที่สูง สอดคล้องกับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ที่ได้คาดการณ์ไว้ ณ เดือนเมษายนว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะสูงถึงร้อยละ 5.3 ในปี 2022 เนื่องจากการส่งออกสินค้าที่แข็งแกร่งและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น ในขณะที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.5 ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3 ในปีที่แล้ว และในระยะกลางคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมามีศักยภาพอีกครั้ง โดยอาจจะมีการเติบโตสูงถึงประมาณร้อยละ 6 ในระยะกลาง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501067848/cambodias-2022-economic-growth-estimates-revised-to-5-4-percent/

หนี้สาธารณะเวียดนาม พุ่งแตะระดับ 3,500 ล้านล้านดอง

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเวียดนาม ภายใต้กระทรวงการคลัง ได้เผยแพร่ข้อมูลตัวเลขหนี้สาธารณะ ณ เดือนมิถุนายน 2564 พบว่าหนี้รัฐบาล มีจำนวน 3,100 ล้านล้านดอง มาจากเงินกู้ต่างประเทศ 1,100 ล้านล้านดอง หากเทียบกับปี 2560 ชี้ให้เห็นถึงรัฐบาลมีหนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 533 ล้านล้านดอง ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นผู้ให้กู้เงินรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีจำนวน 333 ล้านล้านดอง รองลงมาเกาหลีใต้ ฝรั่งเศสและเยอรมนี ในขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาการให้กู้ยืมของเวียดนามกับสถาบันการเงินระดับโลก พบว่าธนาคารโลก (World Bank) เป็นผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีจำนวน 382 ล้านล้านดอง รองลงมาธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) นอกจากนี้ กระทรวงฯ ได้คาดการณ์ว่าหนิ้สาธารณะจะอยู่ที่ระดับ 46%-47% ของ GDP

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-public-debt-totals-vnd3-500-trillion-as-of-june-2021-2010781.html