เศรษฐกิจ CLMV เร่งตัวปี 2567 แต่ยังโตช้ากว่าช่วงก่อนโควิด-19

โดย ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC)

เศรษฐกิจ CLMV มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นในปี 2024

SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจ CLMV มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นในปี 2024 ตามการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งจะสนับสนุนให้อุปสงค์ในประเทศปรับดีขึ้นผ่านการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ในระยะปานกลางเศรษฐกิจ CLMV มีแนวโน้มได้อานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตของธุรกิจข้ามชาติออกไปลงทุนในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคตามยุทธศาสตร์ “China +1” เพื่อลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในระยะต่อไป ในปีนี้ SCB EIC ประเมินว่า เศรษฐกิจกัมพูชาจะขยายตัวต่อเนื่อง 6.0% (จาก 5.6% ในปี 2023) สปป.ลาว 4.7% (จาก 4.5%) เมียนมา 3.0% (จาก 2.5%) และเวียดนาม 6.3% (จาก 5.1%)

อัตราการขยายตัวของแต่ละประเทศใน CLMV ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วงก่อน COVID-19 จากปัจจัยกดดันต่าง ๆ  อาทิ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเศรษฐกิจภูมิภาค CLMV มีความสัมพันธ์สูงทั้งด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยวและภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกัน บางประเทศ เช่น กัมพูชาและเวียดนามมีอัตราส่วนหนี้เสีย (Non-performing loans ratio) สูงขึ้นหลังมาตรการช่วยเหลือในช่วง COVID-19 สิ้นสุดลง ประกอบกับภาวะการเงินในประเทศที่ตึงตัวขึ้น อาจกระทบการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินและการเข้าถึงสภาพคล่องของธุรกิจได้ นอกจากนี้ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยที่ต้องจับตาต่อเนื่อง ในระยะสั้นการค้าโลกอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการขนส่งบริเวณทะเลแดงและคลองปานามาที่แห้งแล้งและอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้าส่งออกของภูมิภาค CLMV ได้ ในระยะยาวเศรษฐกิจ CLMV จะต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับโลกที่มีแนวโน้มจะกีดกันการค้าและตั้งกำแพงภาษีมากขึ้น

ความเร็วในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ CLMV แตกต่างกัน

ความเร็วในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ CLMV แตกต่างกัน ขึ้นกับปัจจัยเฉพาะประเทศ โดยเฉพาะในสปป.ลาวที่เผชิญความเสี่ยงจากระดับหนี้สาธารณะซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปสกุลเงินต่างประเทศที่อยู่ในระดับสูงเทียบกับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางภาวะการเงินโลกตึงตัว ทำให้เงินกีบอ่อนค่ารวดเร็ว ซ้ำเติมภาระการชำระหนี้ต่างประเทศ และทำให้เงินเฟ้อในประเทศพุ่งสูงขึ้นมากและปรับตัวลดลงได้ช้าในปีนี้ ปัจจัยเหล่านี้กดดันศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะปานกลาง โดยสปป.ลาวกำลังดำเนินการรัดเข็มขัดทางการคลัง ควบคู่กับการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้และการหาแหล่งระดมทุนใหม่เพื่อรักษาเสถียรภาพการคลังไว้ ขณะที่เมียนมาเป็นอีกประเทศที่กำลังเผชิญปัจจัยกดดันเชิงโครงสร้าง ซึ่งได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองตั้งแต่ปี 2021 และทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปี 2023 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ในประเทศซบเซา ขณะที่มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกมีส่วนทำให้อุปสงค์ต่างประเทศอ่อนแอลงมาก ประกอบกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การขาดแคลนเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เงินจัตอ่อนค่าและเงินเฟ้อเร่งตัว ตลอดจนปัญหาระบบขนส่งและโครงข่ายไฟฟ้าหยุดชะงัก การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ยังดูเป็นไปได้ยากในระยะสั้น เนื่องจากจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยทางการเมืองที่มีเสถียรภาพ

ค่าเงินของกลุ่มประเทศ CLMV จะเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าลดลง

ธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจหลักมีแนวโน้มเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่กลางปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลกลับเข้าประเทศกำลังพัฒนา รวมถึง CLMV มากขึ้น และจะกระตุ้นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศตามต้นทุนการระดมทุนที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเฉพาะประเทศยังคงเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อแนวโน้มค่าเงิน ส่งผลให้ค่าเงินบางประเทศอาจยังอ่อนค่าต่อ

การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับ CLMV

การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับ CLMV มีแนวโน้มดีขึ้นในปีนี้ หลังจากค่อนข้างซบเซาในปี 2023 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการค้าโลกที่ปรับดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคการผลิต และเศรษฐกิจประเทศในภูมิภาคที่ฟื้นตัว นอกจากนี้ ภาวะการเงินโลกและไทยที่คาดว่าจะผ่อนคลายลงบ้างในปีนี้จะเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนให้บริษัทไทยลงทุนใน CLMV ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามเสถียรภาพเศรษฐกิจของ CLMV บางประเทศที่ยังไม่เอื้อต่อการลงทุนมากนัก ทั้งนี้ในระยะยาว SCB EIC ยังมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจ CLMV และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในภูมิภาคของโลกที่เติบโตสูง และยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างชาติ จากปัจจัยประชากรที่มีอายุเฉลี่ยน้อย การมีข้อตกลงสนธิสัญญาการค้าเสรีต่าง ๆ และแหล่งที่ตั้งที่มีความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ ติดตลาดใหญ่ เช่น จีนและอินเดีย

ที่มา : https://www.scbeic.com/th/detail/product/clmv-outlook-mar24?utm_source=Twitter&utm_medium=Link&utm_campaign=CLMV_OUTLOOK_MAR_2024

 

‘เวียดนาม-กัมพูชา’ ยอดการค้า พุ่ง 25%

จากข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) รายงานว่าเวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของกัมพูชา รองจากประเทศจีน โดยปริมาณการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มูลค่าที่ 2.32 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเวียดนามยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ ทั้งนี้ สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ของกัมพูชาไปยังตลาดเวียดนาม คือ สินค้าการเกษตร อาทิเช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มะพร้าวและยางพารา เป็นต้น ในขณะเดียวกัน กัมพูชานำเข้าผลิตภัณฑ์จากการกลั่นปิโตรเลียมและเหล็กเส้นดิบจากเวียดนาม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501474739/cambodias-trade-with-vietnam-rises-nearly-25/

AMRO คาดการณ์เศรษฐกิจกัมพูชาโต 6.2% ในปี 2024

แนวโน้มเศรษฐกิจระดับภูมิภาคซึ่งรายงานโดยสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน+3 (AMRO) ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 เม.ย.) คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งภายในปี 2024 ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาจะเติบโตที่ร้อยละ 6.2 ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.3 ในปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป ภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ เป็นสำคัญ โดยในรายงานได้เสริมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาที่คาดว่าจะขยายตัวถึงร้อยละ 6.4 ในปี 2025 ภายใต้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 2.8

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501470536/cambodias-growth-forecast-at-6-2-pct-in-2024-amro/

6 เดือน CDC อนุมัติโครงการลงทุนในกัมพูชากว่า 173 โครงการ

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 173 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2023 ถึง ก.พ. 2024 ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 83 โครงการ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 3.1 พันล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัตินี้คาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นถึง 180,225 ตำแหน่ง โดยคาดว่าเป็นผลมาจากการปรับปรุงกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ของกัมพูชา ซึ่งเป็นกฎหมายที่เปิดให้นักลงทุนทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาวกัมพูชาหรือชาวต่างชาติได้มีโอกาสในการลงทุนมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501470535/cdc-endorses-173-investment-projects-worth-approximately-4-billion-in-six-months/

รัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าดันสีหนุวิลล์เป็นเซินเจิ้นแห่งใหม่

รัฐบาลกัมพูชา (RGC) ต้องการเปลี่ยนจังหวัดพระสีหนุให้เป็นเมืองเซินเจิ้นแห่งใหม่ โดยการลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ จัดให้มีแพ็คเกจจูงใจส่งเสริมการลงทุน และยกระดับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อดึงดูดนักลงทุน กล่าวโดย Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมืองเซินเจิ้นของจีนถือเป็นเมืองที่มีความทันสมัย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน โดยเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสามรองจากเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลกที่ทันสมัยที่สุด และถูกเรียกว่า Silicon Valley ของจีน ด้านทางการกัมพูชาเริ่มพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายเพื่อการลงทุนหวังดึงการลงทุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ทันสมัยเข้ามายังกัมพูชามากขึ้น ควบคู่ไปกับการที่กัมพูชามีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และสหภาพยุโรป (EU) ผ่านโครงการทุกอย่างยกเว้นอาวุธ (EBA) ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาให้มีการเติบโตต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501469715/govt-wants-sihanoukville-to-be-next-shenzhen/#google_vignette

กัมพูชาครองอันดับ 1 เอเซีย สำหรับประเทศเศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในปี 2024

กัมพูชาครองอันดับ 1 ในอาเซียน และอันดับ 3 ในบรรดา 20 ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในเอเชีย ด้วยอัตราการเติบโตที่คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6.1 ในปี 2024 รายงานโดย Pen Bona โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งจัดอันดับโดย SeasiaStats หน่วยงานทางสถิติของอินโดนีเซีย โดยกัมพูชาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านการบริหารจัดการอย่างรอบคอบของรัฐบาล นำโดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ซึ่งได้เปิดเผยวิสัยทัศน์ใหม่ครอบคลุมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อขับเคลื่อนกัมพูชาไปสู่สถานะประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2050 ซึ่งเน้นย้ำถึงนโยบายสำคัญ 6 โครงการที่พร้อมจะดำเนินการทันที หวังปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501469932/cambodia-ranks-first-in-asean-and-third-among-the-20-fastest-growing-economies-in-asia-with-a-growth-rate-of-6-1-in-2024/

เบี้ยประกันชีวิตรวมในกัมพูชาขยายตัวกว่า 8% ในเดือนมกราคม

เบี้ยประกันชีวิตรวมของกัมพูชาขยายตัวกว่าร้อยละ 8 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 40 ล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วงเดือนมกราคม 2024 รายงานโดยสำนักงานกำกับดูแลประกันภัยของกัมพูชา (IRC) ขณะที่ปริมาณการเคลมทั้งหมดที่บริษัทประกันภัยจ่ายออกไปในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 คิดเป็นมูลค่า 5.2 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่า 3.3 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับตลาดประกันภัยกัมพูชาปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยทั่วไป 18 แห่ง บริษัทประกันชีวิต 14 แห่ง บริษัทประกันภัยรายย่อย 7 แห่ง และบริษัทรับต่อประกันภัย 1 แห่ง โดยภาคประกันภัยของกัมพูชาเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอุตสาหกรรมประกันภัยในช่วงปี 2023 มีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรวม 342 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501468052/insurance-gross-premium-rises-8-percent-to-over-40m-in-january/

กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 106 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 2.2 พันล้านดอลลาร์

ไตรมาสแรกของปี 2024 คณะกรรมการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 106 โครงการ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์ คาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานได้มากกว่า 107,000 ตำแหน่ง ซึ่งโครงการลงทุน 73 โครงการที่ตั้งอยู่นอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ และอีก 33 โครงการลงทุนตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยปริมาณการอนุมัติโครงการลงทุนเพิ่มขึ้น 67 โครงการ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณร้อยละ 649 ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้เกิดจากการมีโครงการใหม่ๆ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการขยายอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501468470/cambodia-approves-106-new-projects-and-production-expansion-projects-with-an-investment-of-2-2-billion/

ทางการกัมพูชากำหนดแผนเริ่มก่อสร้างคลองฟูนันเตโชในปีนี้

Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างคลองฟูนันเตโชความยาว 180 กิโลเมตรของกัมพูชาจะเริ่มต้นในปีนี้ แม้จะยังมีความกังวลต่อผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดการก่อสร้างคลองดังกล่าว ถึงแม้จะเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคและลดต้นทุนการขนส่งสินค้าได้ โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์ ที่คาดว่าจะดำเนินการด้วยเงินทุนจากจีน ด้านรองนายกฯ ได้กล่าวเสริมไว้ในระหว่างปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “กัมพูชา-ประตูสู่อาเซียน” ในการประชุมสุดยอดธุรกิจกัมพูชา-อาเซียน 2024 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงพนมเปญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501467402/cambodia-plans-to-start-funan-techo-canal-work-this-year/

สมาคมญี่ปุ่น-กัมพูชา พร้อมดึงดูดการลงทุนระหว่างประเทศ

สมาคมญี่ปุ่น-กัมพูชา เปิดทำการอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 เม.ย.) ณ กรุงพนมเปญ โดยคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดนักธุรกิจและนักลงทุนชาวญี่ปุ่นเข้ามาสู่กัมพูชา ด้านนาย Heng Sour รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมอาชีวศึกษา (MLVT) ได้กล่าวไว้ในระหว่างการเป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงาน สมาคมญี่ปุ่น-กัมพูชา ซึ่งการจัดตั้งสมาคมดังกล่าวถือเป็นการสะท้อนความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่น สำหรับนาย Takahashi Fumiaki ประธานสมาคมญี่ปุ่น-กัมพูชา พร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพด้านการลงทุนในกัมพูชาให้กับบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสู่กัมพูชามากขึ้น สำหรับญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 5 ของกัมพูชา รองจากจีน สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และไทย ด้านคณะกรรมการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นไปแล้วกว่า 210 โครงการ ณ เดือนมกราคมปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าการลงทุน 3.1 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปี 1994 จนถึงปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501467404/japan-cambodia-association-to-help-attract-investors-sour-says/