‘เวียดนาม’ จัดตั้งกองทุนพัฒนาข้อมูลแห่งชาติ 38.4 พันล้านดอลลาร์ ขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัล

รัฐบาลเวียดนาม ได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาข้อมูลแห่งชาติ โดยมีทุนเริ่มต้น 1 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 38.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการกำกับดูแล โดยการจัดตั้งกองทุนฯ ในครั้งนี้ อยู่ภายใต้พระราชกฤษฎีกาหมายเลข 160/2025/ND-CP เป็นกองทุนการเงินของรัฐที่ไม่ใช่งบประมาณ และเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ซึ่งกองทุนนี้ได้รับการบริหารจัดการโดยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ทั้งนี้ กรอบการจัดการและวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) การเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) คลาวด์คอมพิวติ้ง เทคโนโลยีบล็อคเชน และโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต IoT โดยจะรองรับการบริหารจัดการของรัฐบาล ประโยชน์ของชาติ สวัสดิการสาธารณะ และเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-launches-384-billion-usd-national-data-development-fund-to-fuel-digital-transformation-post321846.vnp

‘ภาษีศุลกากร’ ยังคงเป็นปัจจัยหลักกระทบตลาดหุ้นโลกและเวียดนาม

ตามข้อมูลจาก Bloomberg แสดงให้เห็นว่ากองทุนทั่วโลกได้ซื้อหุ้นสุทธิมูลค่า 9.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ยกเว้นจีน ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการไหลเข้าของเงินทุนที่มีระยะเวลานานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ในขณะเดียวกัน นาย Tyler Nguyen Manh Dung หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของบริษัทหลักทรัพย์ ‘HSC’ กล่าวว่ามีปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่ผลักดันตลาดหุ้น ได้แก่ การปรับฐานมูลค่า การผ่อนคลายความกังวลในเรื่องภาษีศุลกากร และการส่งออกที่มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในแต่ละอุตสาหกรรม พบว่ากลุ่มสินค้าอาหารทะเล สิ่งทอ และไม้ ซึ่งมีความสำคัญต่อภาคการส่งออกของเวียดนาม และคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เนื่องจากเวียดนามเจรจาเชิงรุกกับสหรัฐฯ ทำให้เวียดนามอยู่ในตำแหน่งที่ดีมากขึ้น

ที่มา : https://www.thestar.com.my/business/business-news/2025/05/23/tariffs-remain-a-key-factor-swaying-markets?fbclid=IwY2xjawKcuO1leHRuA2FlbQIxMQBicmlkETF3bWkxRlRBVGVCcjFwVUJVAR7TKUox1R1K9TpScvOkczBG7F5mral0AuBSWnP8Gt0p5ScGT_ZaYdNeSl1z_g_aem_Zm1AMMVBEoFr1UkYb2GCFw#goog_rewarded

FSA อนุมัติหลักการประกาศร่างการลงทุนกองทุนรวมในกัมพูชา

Council of Non-Bank Financial Services Authority (FSA) หน่วยงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ได้อนุมัติในหลักการร่างประกาศเพื่ออนุญาตให้นักลงทุนสามารถซื้อขายกองทุนรวมภายในตลอดหลักทรัพย์กัมพูชาได้ ซึ่งร่างประกาศดังกล่าวได้รับการอนุมัติเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 ก.ค.) โดยมี Aun Pornmoniroth รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวง MEF เป็นประธาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ FSA รวมทั้ง Sou Socheat ผู้อำนวยการทั่วไปของ Securities and Exchange Regulator (SERC) ของประเทศกัมพูชา ซึ่งร่างดังกล่าวกำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนสำหรับการออกหน่วยลงทุน รวมถึงการดำเนินการของผู้บริหารกองทุนรวม เพื่อเป็นการรับรองกรอบความรับผิดชอบและความโปร่งใส ตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ภายใต้หลักการกฎหมายและข้อบังคับ อีกทั้ง FSA ยังอนุมัติคำขอของบริษัทต่างชาติอย่าง บริษัท Binance KH Co. Ltd. สำหรับการวางแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลใน FinTech Regulatory Sandbox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนำร่อง แต่ถึงอย่างไร FSA จำเป็นต้องเตรียมการและออกประกาศอื่นเพิ่มเติม เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501321301/fsa-approves-draft-scheme-proclamation/

กองทุน LMC มอบเงินสนับสนุน สปป.ลาว ดำเนินการ 68 โครงการ

สปป.ลาว ได้รับเงินทุนสนับสนุนมากกว่า 18 ล้านดอลลาร์ จากกองทุนพิเศษความร่วมมือล้านช้าง-แม่น้ำโขง (LMC) เพื่อดำเนินการ 68 โครงการ ตามการรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว ภายในการประชุมแม่น้ำโขง-ล้านช้าง (MLC) ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองพุกาม ประเทศเมียนมา เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีผู้เข้าร่วมระดับรัฐมนตรีจาก สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ไทย และเวียดนาม โดยกองทุนพิเศษ LMC ริเริ่มโดยรัฐบาลจีนในระหว่างการประชุมผู้นำ LMC ครั้งแรกในมณฑลไห่หนานของจีนเมื่อเดือนมีนาคม 2016 ซึ่งกองทุนพิเศษ LMC มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนโครงการความร่วมมือที่เสนอโดย 6 ประเทศในกลุ่ม LMC ซึ่งในปัจจุบันการค้าทวิภาคีระหว่างจีนและกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงในปี 2021 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten128_68project.php

‘ธนาคารดิจิทัลเวียดนาม’ ระดมทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ

จากข้อมูลรายงานของ TechInAsia เปิดเผยว่าธนาคารดิจิทัลเวียดนาม “Timo” ประกาศระดมทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนระดับโลกอย่าง Square Peg ตลอดจนซิสโก้และจังเกิล เวนเจอร์ส (Jungle Ventures) , Granite Oak, Phoenix Holdings และนักลงทุนอิสระรายอื่นๆ ยังได้เข้าร่วมในการระดมทุนครั้งนี้

ทั้งนี้ การระดมทุนดังกล่าว ธนาคาร Timo จะนำเงินไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีและมุ่นเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านสำหรับตลาดเวียดนาม นอกจากนี้ ตามรายงานของ McKinsey & Company ชี้ว่าผู้ใช้บริการจากบริษัทฟืนเทคในเวียดนาม เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปี 2560 เป็น 56% ในปี 2564 ซึ่งความนิยมของการใช้ E-wallets และ Fintech ในเวียดนามนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/sci-tech-environment/vietnamese-digital-banking-startup-gets-20-million-usd-809687.html

กระทรวงสาธารณะ เร่งการค้าข้ามพรมแดน

รัฐบาลกำลังร่วมมือกันเพื่อให้การดำเนินงานด้านศุลกากรมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเร่งการค้าข้ามพรมแดน ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการบริหารความเสี่ยงแบบบูรณาการและกลไกการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าข้ามพรมแดน MOU จัดให้มีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านการใช้ระบบอัตโนมัติสำหรับข้อมูลศุลกากร (ASYCUDA) ระบบจะใช้ระบบนี้ที่จุดผ่านแดนเพื่อให้การตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าและส่งออกมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงร่วมซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานงานการรวบรวมข้อมูลและพัฒนาโปรไฟล์ความเสี่ยงแบบบูรณาการเพื่ออัปโหลดเข้าสู่ระบบ ASYCUDA ทั้งนี้ MOU ดังกล่าวเป็นความคิดริเริ่มที่สำคัญซึ่งให้กรอบการทำงานสำหรับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชายแดนเพื่อปรับปรุงการกวาดล้างชายแดนผ่านข้อตกลงการอำนวยความสะดวกทางการค้าขององค์การการค้าโลก (WTO-TFA) ข้อตกลงนี้กำลังดำเนินการภายใต้กองทุน Multi-donors Trust Fund- โครงการการแข่งขันและการค้าของสปป.ลาว ซึ่งได้รับทุนจากธนาคารโลก รัฐบาลของออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministries_245_21.php

‘เวียดนาม’ เผย 8 เดือนแรก ทุ่มเงินต่อสู้กับโควิด-19 กว่า 827 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ รัฐบาลเวียดนามใช้เงินราว 18.8 ล้านล้านดอง (827 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกัน จำนวนเงินอีก 2.55 ล้านล้านดอง (11.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) ได้รับการจัดสรรจากกองทุนเวียดนาม (VFVC) มีบทบาทสำคัญในการจัดหาวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งนี้ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์  นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้สั่งให้มีการจัดส่งข้าว 74,300 ตัน เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและโควิด-19 นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ชี้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4 ส่งผลกระทบต่อรายรับงบประมาณลดลง ขณะเดียวกันกิจกรรมการค้าขายก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

ที่มา : http://hanoitimes.vn/over-827-million-allocated-to-covid-19-fight-in-8-months-318627.html

‘สหรัฐ’ ประกาศมอบ 500,000 ดอลลาร์ เข้ากองทุน ‘อาเซียน’ โควิด

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงในวันนี้ เกี่ยวกับผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน- สหรัฐว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของสหรัฐในภูมิภาค ขณะที่ นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ได้ประกาศว่า สหรัฐสนับสนุนเงินจำนวน 500,000 ดอลลาร์ ให้แก่กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือโควิด-19 ในที่ประชุม นายดอน ได้เสนอประเด็นส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน-สหรัฐ 4 ด้าน ได้แก่ 1.การสำรองวัคซีนโควิด-19 และอุปกรณ์ทางการแพทย์ในภูมิภาคสำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในอนาคต 2.การเสริมสร้างดุลยภาพทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคโดยมีอาเซียน เป็นเวทีในการขับเคลื่อนความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทุกผู้เล่นหลักในภูมิภาค 3.การพัฒนาความร่วมมือด้านดิจิทัล 4.การสร้างความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ โดยเสนอโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG)เป็นแนวคิดที่สอดคล้องและสามารถสนับสนุนข้อริเริ่ม Build Back Better World (B3W) ของสหรัฐ

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/953051

รัฐบาลกัมพูชาตั้งกองทุนพิเศษสำหรับรองรับฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวในปีนี้

ธนาคารเพื่อการพัฒนาชนบทเพื่อการเกษตร (ARDB) ได้เริ่มสนับสนุนกองทุนพิเศษมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ให้กับโรงสีและผู้ส่งออกข้าวเพื่อทำการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในกัมพูชาในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวปีนี้ โดยผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการพัฒนาชนบทเพื่อการเกษตร (ARDB) กล่าวว่าเงินสนับสนุนจะถูกปล่อยออกมาทีละช่วง ซึ่งในช่วงแรกปล่อยออกมาประมาณ 3 ล้านดอลลาร์ แล้วจะค่อยๆกระจายยอดไปในระหว่างการเก็บเกี่ยว โดยเกษตรกรขายข้าวเปลือกให้กับ Amru ในราคาที่ 1,620 เรียลต่อกิโลสำหรับข้าวคุณภาพดีที่สุดและ 1,580 เรียลต่อกิโลสำหรับเกรดรองลงมา ซึ่งรายได้รวมจากการส่งออกข้าวของกัมพูชาแตะ 366.44 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2020 ตามรายงานของ CRF อยู่ที่ 536,035 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกัมพูชาทำการส่งออกข้าวส่วนใหญ่ไปยังตลาดเวียดนามอย่างไม่เป็นทางการมากกว่า 2 ล้านตันต่อปี ตามตัวเลขจากกระทรวงเกษตรกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50781705/special-fund-keeps-rice-harvests-on-firm-track-despite-heavy-floods/

รัฐบาลสร้างกองทุนเพื่อส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน

รัฐบาลได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาพลังงานหมุนเวียนท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการใช้ไฟฟ้า ในสปป.ลาว นายกรัฐมนตรี Thongloun Sisoulith ได้รับรองพระราชกฤษฎีกานายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนทางกฎหมายสำหรับการจัดตั้งและการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาพลังงานสปป.ลาว โดยกองทุนนี้บริหารงานโดยกระทรวงพลังงานและการเหมืองซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจาก 5 กระทรวงและธนาคารแห่งสปป. ลาวเป็นผู้กำหนดนโยบายจุดมุ่งหมายของโครงการนี้คือการให้เงินกู้เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เชื้อเพลิงชีวภาพและก๊าซ ซึ่งโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กจะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนทางการเงินผ่านกองทุนนี้ นอกจากนี้กองทุนจะจัดหาเงินทุนสำหรับการขยายการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ชนบทเพื่อการเกษตรและการส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เงินทุนบ้างส่วนยังนำไปใช้ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สร้างความตระหนักรู้ในด้านการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt196.php