DCTS ดันส่งออกกัมพูชาไปยังสหภาราชอาณาจักรโตกว่า 25%

กัมพูชาส่งออกไปยังสหราชอาณาจักร (UK) เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 25.1 คิดเป็นมูลค่ากว่า 136 ล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการ Developing Countries Trading Scheme (DCTS) ฉบับใหม่ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอนุญาตให้ส่งออกสินค้าปลอดภาษีสำหรับสินค้าเกือบทั้งหมด (ร้อยละ 99 ของสินค้าทั้งหมด) โดยเฉพาะสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาอย่างสินค้าสิ่งทอ สินค้าเพื่อการเดินทาง และสินค้าที่ทำจากเครื่องหนัง ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ Cambodia Development Centre ได้รายงานไว้ ถึงการที่กัมพูชายังคงได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับการส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรภายใต้ DCTS แม้ว่าจะพ้นจากสถานะประเทศด้อยพัฒนา (LDC) แล้วก็ตาม สำหรับโครงการพิเศษภายใต้ DCTS Enhanced Preferences สำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยและประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่มีระบบเศรษฐกิจเปราะบาง ซึ่งมีการกำหนดภาษีเป็นศูนย์สำหรับสินค้ามากกว่าร้อยละ 85 หรือ DCTS Standard Preferences สำหรับประเทศรายได้น้อยและประเทศรายได้น้อยถึงปานกลาง ที่มีการยกเลิกหรือลดภาษีศุลกากรบางส่วนหรือทั้งหมดสำหรับสินค้ามากกว่าร้อยละ 80 จากสหราชอาณาจักร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501462930/dcts-boosts-cambodias-exports-to-uk-by-25/

สหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย ร่วมส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนของ สปป.ลาว

คณะผู้แทนสหราชอาณาจักรประจำอาเซียนและสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศลาว จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ Lao Holding State Enterprise (LHSE) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่ดำเนินธุรกิจหลักในการจัดหาเงินทุนให้กับอุตสาหกรรมพลังงานในการดำเนินโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งปันความรู้ ให้คำปรึกษาทางการเงิน และสนับสนุน สปป.ลาว ที่มุ่งหวังการมีเศรษฐกิจสีเขียว ทั้งนี้ ภายในงาน รัฐบาลลาวและผู้ถือหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเทิน 2 ได้ลงนามข้อตกลงการพัฒนาโครงการสำหรับ น้ำเทิน 2-โซลาร์ โดยโครงการนี้กำหนดให้เป็นโครงการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในลาว โดยมีกำลังการผลิตสูงสุด 240 เมกะวัตต์ (MWp) ที่จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ผิว 3.2 ตารางกิโลเมตรของอ่างเก็บน้ำน้ำเทิน 2

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/12/13/uk-australia-boost-laos-green-energy-with-floating-solar-workshop/

‘เวียดนาม’ ส่งออกปลาทูน่าไปยังสหราชอาณาจักรลดฮวบ เหตุข้อบังคับที่เข็มงวด

สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลของเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าการส่งออกปลาทูน่าของเวียดนามไปยังตลาดสหราชอาณาจักร (UK) อยู่ในภาวะชะลอตัวในเดือน ก.ย. ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่คนวงในอุตฯ ระบุว่ายอดการนำเข้าที่ลดลง เป็นผลมาจากเงื่อนไขหรือข้อบังคับที่เข็มงวดในเรื่องการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของสหราชอาณาจักร ซึ่งเทียบเท่ากับเงื่อนไขของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม การส่งออกปลาทูน่าของเวียดนามไปยังตลาดในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่ามากกว่า 5.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/tuna-exports-to-uk-market-suffer-decline-on-strict-requirements-post1059542.vov

‘การค้าเวียดนาม-ยูเค’ พุ่ง 16.6%

จากข้อมูลของกระทรวงการค้าระหว่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าการค้าระหว่างเวียดนามและสหราชอาณาจักรมีการเติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจากข้อมูลทางสถิตืแสดงให้เห็นว่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศในชวงไตรมาสที่ 4 จนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 6.7 พันล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 8.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเวียดนามและสหราชอาณาจักรที่มีความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและความพยายามในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหราชอาณาจักร (UKVFTA) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 นอกจากนี้ การลงนามอย่างเป็นทางการล่าสุดของสหราชอาณาจักร คือ ข้อตกลงแบบครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าให้กับสมาชิกในกลุ่ม รวมถึงเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1605565/viet-nam-uk-trade-surges-16-6-per-cent-in-one-year.html

‘วงใน’ เผย ข้าวเวียดนาม รุกเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหราชอาณาจักร

นายเหงียน กั๋น เกื่อง ที่ปรึกษาการค้าของเวียดนาม ประจำสหราชอาณาจักร กล่าวว่าในปัจจุบัน โอกาศสำคัญของเวียดนามที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดข้าวเวียดนามในตลาดสหราชอาณาจักร (UK) หลังจากอินเดีย ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ธัญพืชรายใหญ่ที่สุดในตลาดแห่งนี้ มีคำสั่งห้ามส่งออกข้าว ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวเอเชียกว่า 5.5 ล้านคน และมีความพร้อมการข้าวสูง ในขณะที่ไม่มีการผลิตข้าวเลย โดยเมื่อปี 2565 ปริมาณการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปริมาณกว่า 678,000 ตัน อีกทั้ง การส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 3,400 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.5% และ 34% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnamese-rice-can-grow-larger-uk-market-share-insiders-post128237.html

‘สหราชอาณาจักร’ ยอมรับเวียดนามเป็นเศรษฐกิจระบบตลาด

สำนักงานกำกับดูแลด้านมาตรการการค้าของเวียดนาม (TRAV) ระบุว่าสหราชอาณาจักร (UK) พร้อมที่จะยอมรับว่าอุตสาหกรรมเวียดนามอยู่ในช่วงวางรากฐานของเศรษฐกิจระบบตลาด และจะไม่กำหนดกฎเกณฑ์ที่ทำให้เสียเปรียบ หากได้รับการตรวจสอบเป็นไปตามมาตรการป้องกันทางการค้า ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ส่งผลให้เวียดนามเชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศ จำนวน 71 ประเทศ รวมถึงคู่ค้าสำคัญที่ผ่านการลงนามข้อตกลงการค้า และเมื่อเวียดนามได้รับการยอมรับว่าเป็นเศรษฐกิจระบบตลาด ทำให้สินค้าของเวียดนามจะได้รับการปฎิบัติที่เป็นธรรมมากขึ้น และผู้ส่งออกจะสามารถเข้าถึงตลาดได้อีกจำนวนมาก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1551526/uk-to-recognise-viet-nam-as-market-economy.html

นายกฯ ฮุน เซน ประเมินการถอนสิทธิพิเศษ EBA ของ EU ไม่กระทบกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวว่า ภาคการผลิตของกัมพูชาจะไม่ได้รับผลกระทบจากการถอนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร Everything But Arms (EBA) ของสหภาพยุโรป (EU) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการประชุมกับแรงงานกว่า 16,000 คน ในจังหวัดกำปงสปือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 พ.ค.) ซึ่งก่อนหน้ากัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าวเนื่องจากประเทศถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDCs) แต่ด้วยกัมพูชามีโครงสร้างรายได้ของประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงด้วยเหตุผลที่ว่ากัมพูชาไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการเกี่ยวกับการเมือง และสิทธิมนุษยชน จึงทำให้ในอนาคตอันใกล้กัมพูชาจะต้องเสียภาษีสำหรับการส่งออกโดยปราศจากสิทธิพิเศษ EBA ไปยังตลาดสหภาพยุโรป โดยในปี 2020 สหภาพยุโรปได้ถอนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรที่ร้อยละ 20 จากกลุ่มสมาชิก 27 ประเทศ รวมถึงกัมพูชา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ข้อมูลการค้าที่เผยแพร่โดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตของกัมพูชา (GDCE) กล่าวเสริมว่าในปี 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่มรองเท้า เสื้อผ้า และสินค้าเผื่อการเดินทาง (GFT) ขยายตัวประมาณกว่าร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากมูลค่าการส่งออกรวม 10.99 พันล้านดอลลาร์ สู่มูลค่า 12.63 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าการสูญเสียสิทธิพิเศษ EBA ไม่ได้ส่งผลต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าว โดยชดเชยด้วยการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ อย่างสหรัฐฯ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501302667/eba-withdrawal-not-to-impact-cambodia-says-pm/

กัมพูชา-สหราชอาณาจักร ลงนาม MoU บนข้อตกลงการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ร่วมกับกระทรวงการค้าระหว่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักรได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ในการจัดตั้ง Joint Trade and Investment Forum (JTIF) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงส่งเสริมการส่งออกสินค้าของกัมพูชาไปยังตลาดสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม และจะเป็นการเพิ่มปริมาณการนำเข้า การลงทุนของอังกฤษไปยังกัมพูชามากขึ้น ซึ่งการลงนามดังกล่าวนำโดย Pan Sorasak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ Dominic Williams เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ณ กระทรวงพาณิชย์ จากข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา สหราชอาณาจักรถือเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ของกัมพูชา โดยมีปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศในปี 2022 สูงถึง 977.43 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 24.42 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501297887/cambodia-uk-sign-trade-and-investment-mou/

สหราชอาณาจักรพร้อมให้การสนับสนุนกัมพูชาในด้านต่างๆ

สหราชอาณาจักรให้คำมั่นต่อกัมพูชาว่าจะให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ต่อไป โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา การเงิน โครงสร้างพื้นฐาน พลังงานทดแทน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กล่าวโดย Dominic Williams เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกัมพูชาที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ ขณะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ซึ่งได้กล่าวชมทางการกัมพูชาถึงการนำพาสันติภาพและเสถียรภาพมาสู่ประเทศ รวมถึงการควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 จนสามารถเปิดประเทศได้อีกครั้ง เป็นผลทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้อีกครั้ง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ยังย้ำถึงความตั้งใจที่มีความประสงค์ในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยของอังกฤษภายในกัมพูชา รวมถึงพร้อมสนับสนุนการลงทุนของอังกฤษในกัมพูชาให้มากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501242497/uk-to-support-cambodia-in-various-domains/

“อีคอมเมิร์ซ” กุญแจสำคัญ เพิ่มโอกาสขยายการค้าเวียดนาม-สหราชอาณาจักร

ภาคธุรกิจของเวียดนามได้รับการกระตุ้นให้มาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อที่จะขยายการเข้าถึงตลาดสหราชอาณาจักร (UK) หลังจากข้อตกลงการค้าเสรีสหราชอาณาจักร-เวียดนาม (UKVFTA) มีผลบังคับใช้แล้ว โดยสหราชอาณาจักรเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อันดับที่ 4 ของโลกที่ทำรายได้กว่า 117.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 หากพิจารณาผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในตลาดอีคอมเมิร์ซของสหราชอาณาจักร คือเว็บไซต์ร้านค้า amazon.co.uk ทำรายได้ 17.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว รองลงมา tesco.com และ argos.co.uk คิดเป็นสัดส่วนทั้งสามร้านค้ารวมกัน 30% ของรายได้ออนไลน์ในสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมอิคอมเมิร์ซ เติบโตสูงถึง 53% ในปี 2564 ดังนั้น คุณ Bùi Thanh Hằng ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ ชี้ว่าข้อตกลง UKVFTA จะอนุญาติให้ใช้วิธีการใหม่ในการเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1312561/e-commerce-the-key-to-increase-bilateral-trade-between-viet-nam-and-the-uk.html