ปีงบฯ 65-66 ส่งออกเมียนมา พุ่งขึ้น 15%

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย การส่งออก ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 2 ธันวาคม ของปีงบประมาณ 2565-2566 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 11,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นมาจากจีนผ่อนปรนกฎและข้อบังคับในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น และปัจจุบันอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าแบบ CMP บูมขึ้นมาอีกครั้งหลังจากเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่แรงงงานในโรงงานมากขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร อยู่ที่ 2.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ปศุสัตว์ 18.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าประมง 491.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แร่ธาตุ 205 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ผลิตภัณฑ์จากป่า 97.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าเพื่อการผลิต 7.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสินค้าอื่นๆ 320.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ภาคการส่งออกของประเทศต้องพึ่งพาภาคเกษตรกรรมและการผลิตมากขึ้น ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงให้ความสำคัญกับการลดการขาดดุลการค้า โดยเร่งส่งเสริมการส่งออก เพื่อลดการนำเข้าลง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmars-exports-rise-15-per-cent-in-fy-2022-2023/

ปี 65 คาด นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือน สปป.ลาว ทะลุเกิน 1 ล้านคน

จากข้อมูลของฝ่ายการตลาดการท่องเที่ยว กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ 644,756 คนเดินทางเยือนสปป.ลาวตลอดเดือนกันยายน 65  และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 300,000 คนภายในปีนี้ นักท่องเที่ยวเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย (364,515 คน) ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยตื่นเต้นและนิยมที่จะได้เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงสปป.ลาว-จีน และท่องเที่ยวสถานที่ยอดนิยม เช่น หลวงพระบางและวังเวียง แม้ว่าชายแดนจีนจะยังคงปิดอยู่ แต่จีนก็รั้งอันดับ 2 โดยมีนักท่องเที่ยวจีน 18,902 คน ที่เข้ามาเที่ยวสปป.ลาว โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ พุ่งถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สหรัฐตลอดเดือนกันยายน 2565 และเมื่อเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ตัวเลขนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/12/overseas-visitors-to-laos-could-exceed-one-million-in-2022/

“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เข็น มอก.เอส ยานยนต์ไฟฟ้า

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ออกประกาศมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เอส หรือ มอก.เอส ซึ่งเป็น มอก.ที่มอบให้กับเอสเอ็มอีเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า จำนวน 2 มอก. ได้แก่ การบริการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า และการบริการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับมาตรฐานของเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน (โอทอป) เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสนใจเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และบางส่วนนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอยู่ไปดัดแปลงให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถไฟฟ้าคันใหม่

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2576168

‘นครโฮจิมินห์’ ตั้งเป้า ปี 65 ขยายตัว 7.5-8%

คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDPR) ปี 2566 อยู่ที่ 7.5-8% คุณ Phan Thi Than รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ กล่าวในที่ประชุมสภาประชนเทศบาลเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ว่านครโฮจิมินห์มีทั้งโอกาสและความท้าทายที่จะพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปีหน้า แต่คาดว่าจะเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายมากขึ้น และเมืองแห่งนี้จะคงมุ่งเน้นไปที่การปฏิรูปการบริหาร ยกระดับการบริการสาธารณะและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ นอกจากนี้ ทำการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานความรู้กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมไปถึงจำเป็นต้องขจัดปัญหาคอขวดต่างๆ และเร่งดำเนินโครงสร้างพื้นฐาน การจราจรและการพัฒนาเมือง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hcm-city-sets-2023-growth-target-of-758/245180.vnp

สื่อสหรัฐฯ ชี้ ศก.เวียดนามมีแนวโน้มสดใส

จากข้อมูลเว็บไซต์ของสหรัฐฯ “Seekingalpha” เปิดเผยว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของเวียดนามเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวก สาเหตุสำคัญมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของการบริโภคภายในประเทศ การได้รับเม็ดเงินทุนจากต่างชาติและการรักษาดุลการค้าเกินดุลกับต่างประเทศ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม คาดว่าจะขยายตัวสูงกว่า 8% ในปี 2565 ทั้งนี้ ค่าเงินดองและอัตราดอกเบี้ยของเวียดนามค่อนข้างไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงการส่งออกของเวียดนามที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ทำให้การเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวที่ 16.37% บ่งชี้ให้เห็นว่าสถานะทางด้านเศรษฐกิจของเวียดนามมีความแข็งแกร่ง และยังขจัดความยากจนให้กับประชาชนให้หลุดพ้นระดับความยากจนในประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/us-paper-macroeconomic-outlook-of-vietnam-bright-post989157.vov

ตลาดแตงโมและแตงกวาหวานแถบชายแดนเมียนมา-จีน เริ่มกลับมาคึกคัก

ผู้ค้าชายแดน ในเขตการค้า 105 ไมล์ของด่านมูเซ เผย ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ที่ได้มีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์แถบชายแดนมูเซของเมียนมา-จีน การค้าแตงโมและแตงกวาหวานฟื้นตัวกลับมาคึกคักอีกครั้ง ประกอบกับผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดเพราะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยราคาของแตงโมอยู่ที่ลูกละ 1.8 หยวน และแตงกวาหวานมีราคาอยู่ที่ 3 ถึง 4 หยวน ในผ่านมา การส่งออกเมล่อนและแตงกวาถูกจำกัดเนื่องจากการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีน ซึ่งในปีงบประมาณ 2651-2562 เมียนมาส่งออกแตงโมมากถึง 800,000 ตัน และแตงกวาหวาน 0.15 ล้านตัน ต่อมาในปีงบประมาณ 2562-2563 มีการส่งออกแตงโมมากถึง 600,000 ตันและแตงกวาหวาน 0.14 ล้านตัน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/watermelon-and-sweet-cucumber-markets-rebound-at-myanmar-china-border/

การขนส่งทางรถไฟ ดันส่งออกกล้วย สปป.ลาว ไปยังจีน

คาดเกษตรกรใช้เส้นทางรถไฟ สปป.ลาว-จีน ขนส่งกล้วยจาก สปป.ลาวไปยังจีน ซึ่งจะใช้เวลาอันสั้นเพื่อให้มั่นใจว่าผลไม้จะถึงปลายทางก่อนที่ผลผลิตจะสุกงอม โดยในอดีตการขนส่งผลิตผลทางการเกษตรประสบปัญหาเนื่องจากใช้เวลานาน จากการขนส่งโดยรถบรรทุกไปยังประเทศจีน ซึ่งสินค้าจำนวนมากเน่าเสียก่อนส่งมอบ โดยการเข้ามาของเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการภายในประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการขนส่งที่ลดลง ซึ่งปัจจุบันกระทรวงเกษตรและป่าไม้กำลังเร่งสนับสนุนการเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตรให้มากขึ้นเพื่อลดความต้องการนำเข้าผักและผลไม้จากต่างประเทศ รวมถึงเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง โดยเกษตรกรชาวลาวสามารถขายพืชผลทางการเกษตรให้กับจีนได้มากขึ้น นับตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลทั้งสองในปี 2012

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Railway238.php

ทางการกัมพูชารายงานการจัดเก็บภาษีเกินเป้าหมายกว่า 114%

กรมสรรพากร กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง รายงานการจัดเก็บภาษีมูลค่าแตะ 3.2 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเกินกว่าเป้ากรอบงบประมาณที่ได้กำหนดไว้กว่าร้อยละ 114 โดยคาดว่าในปี 2022 การจัดเก็บภาษีจะสูงกว่าเป้าหมายถึงร้อยละ 115 เมื่อเทียบกับแผนการจัดเก็บประจำปี 2022 ซึ่งปริมาณการจัดเก็บที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีและการบริหาร ตลอดจนมาตรการอื่นๆ ได้ส่งเสริมให้การจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501198406/taxation-revenue-collection-exceeds-114-of-budget-plan/

ธนาคารโลกชี้เศรษฐกิจกัมพูชาโต 4.8% ปีนี้

ธนาคารโลกรายงานถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของกัมพูชาที่กำลังกลับมาฟื้นตัวหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยธนาคารโลกคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาไว้ที่ร้อยละ 4.8 ในปี 2022 เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง รวมถึงภาคการส่งออกก็เริ่มกลับมาขยายตัว ซึ่งได้ระบุไว้ในรายงานเศรษฐกิจกัมพูชาของธนาคารโลกประจำเดือนธันวาคม โดยอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สินค้าเดินทาง และรองเท้าของกัมพูชาสามารถฟื้นตัวได้ดีในสถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะที่ภาคบริการซึ่งดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ “Living with COVID-19” ได้กระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแตะ 1.2 ล้านคน ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2023 จะเร่งขึ้นเป็นร้อยละ 5.2 จากภาคการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น สนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ ภายใต้อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501198797/world-bank-says-cambodias-economy-on-recovery-path-forecast-4-8-percent-gdp-growth-for-this-year/

บ.เสื้อผ้าญี่ปุ่นหนีจีนซบอาเซียนเหตุ ‘ค่าแรงพุ่ง-ซีโร่ โควิด’

บรรดาซัพพลายเออร์ที่ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นให้แบรนด์เสื้อผ้าดังของญี่ปุ่นจำนวนมากเริ่มย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพื่อไปตั้งฐานการผลิตในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนแทน โดยเฉพาะในเวียดนามและกัมพูชา เนื่องจากต้นทุนค่าแรงงานในจีนที่แพงขึ้นและนโยบายกำจัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของทางการปักกิ่งให้เป็นศูนย์ ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ การเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ของบรรดาผู้ผลิตเสื้อผ้าญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจท่ามกลางภาวะเงินเยนอ่อนค่าและต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้นมาก ขณะที่ความตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ที่มีผลบังคับไปเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ก็มีส่วนช่วยต่อลมหายใจให้แก่บริษัทเหล่านี้ได้มาก โดยข้อมูลขององค์การการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ระบุเสริมว่า ค่าจ้างแรงงานรายเดือนโดยเฉลี่ยของคนงานในโรงงานในกวางโจวของจีนอยู่ที่ประมาณ 670 ดอลลาร์ สูงกว่าค่าจ้างรายเดือนคนงานในโฮจิมินห์ ซิตี้ของเวียดนามซึ่งอยู่ที่ประมาณ 270 ดอลลาร์และในกรุงธาดา บังกลาเทศซึ่งอยู่ที่ 120 ดอลลาร์

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/world/1042066