นักลงทุนเข้าลงทุนในกัมพูชาผ่าน Single Portal แตะ 8.33 พันล้านดอลลาร์

ธุรกิจมากกว่า 28,169 แห่ง เข้าจดทะเบียนในระบบธุรกิจออนไลน์ (Single Portal) ด้วยเงินลงทุนจดทะเบียนรวม 8.33 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งดำเนินการภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง ขณะที่ในแง่ของมูลค่าการลงทุนตามภาคส่วน ภาคการก่อสร้างมีการจดทะเบียนมากที่สุดด้วยมูลค่าการลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยอสังหาริมทรัพย์ที่ 941 ล้านดอลลาร์ หลังได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ไฟสแรกไปเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2020 และเฟสที่สองในวันที่ 15 ก.ย. 2021 โดยระยะที่สามเพิ่งเริ่มดำเนินการไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเน้นให้บริการออกใบอนุญาต ใบรับรอง ใบประกอบวิชาชีพ และเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จาก 12 กระทรวงและสถาบัน โดยการจัดตั้งระบบการจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์มีส่วนช่วยในการลดขั้นตอน เวลา และค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนธุรกิจ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการจัดตั้งธุรกิจให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501343475/single-portal-receives-8-33-billion-investment-capital/

‘จีน’ ตลาดส่งออกมันสำปะหลังอันดับ 1 ของเวียดนาม

ตามรายงานของกรมศุลกากร ระบุว่าถึงแม้การส่งออกมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ทำมาจากมันสำปะหลังในเดือน ก.ค. จะยังคงปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ว่าจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกมันสำปะหลังรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีสัดส่วนทางการตลาด 93.61% ของการส่งออกมันสำปะหลังเวียดนามไปยังต่างประเทศ โดยจากตัวเลขสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่าการส่งออกมันสำปะหลังของเวียดนาม มีมูลค่าอยู่ที่ 71.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือปริมาณ 145.23 พันตัน เพิ่มขึ้น 9.8% และ 2.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับเดือน ก.ค. ปี 2565 พบว่าทั้งมูลค่าและปริมาณการส่งออกมันสำปะหลัง ลดลง 24.2% และ 17.2% แสดงให้เห็นการหดตัวของการส่งออกที่ติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/china-remains-largest-export-market-for-vietnamese-cassava-post1039390.vov

‘เวียดนาม’ เผยยอดขายรถยนต์ เดือน ก.ค. โตเล็กน้อย

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่าในเดือน ก.ค. มียอดขายรถยนต์ 24,687 คัน เพิ่มขึ้น 4% จากเดือนที่แล้ว ในขณะเดียวกัน ยอดขายรถยนต์ในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 23,800 คัน เพิ่มขึ้น 15% จากเดือนก่อน โดยยอดขายรถยนต์ที่จำหน่ายในเดือนที่แล้ว พบว่ายอดขายรถยนต์นั่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 19,221 คัน เพิ่มขึ้น 11% ตามมาด้วยรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 5,318 คัน ลดลง 16% และรถยนต์เฉพาะกิจ 148 คัน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) อย่างไรก็ดี ยอดขายของสมาชิกสมาคมฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณการขายรถยนต์ทุกประเภท อยู่ที่ 162,014 คัน ลดลง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายรถยนต์นั่ง รถยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถยนต์เฉพาะกิจ ลดลง 34%, 13% และ 63% ตามลำดับ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-automobile-sales-slightly-grow-in-july-post1039353.vov

‘ค้าชายแดนจีน-เมียนมา’ ช่วง 4 เดือน ยอดพุ่งเติบโต 60%

จากข้อมูลสถิติของกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าตัวเลขการค้าชายแดนเมียนมา-จีน ในช่วง 4 เดือนของปีงบประมาณ 2566-2567 มีมูลค่าพุ่งสูงถึง 1.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 59.63% หรือราว 517.059 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ เมียนมามีความเชื่อมโยงกับจีนผ่านด่านชายแดนสำคัญ ได้แก่ ด่านเมืองมูเซะ (Muse), ลวยเจ (Lweje), ชีงชเวห่อ (Chin Shwe Haw), กัมปะติ (Kampaiti) และ เชียงตุง (Kengtung) โดยเฉพาะด่านชายแดนมูเซะที่มีมูลค่าการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาชายแดนของเมียนมา-จีน อยู่ที่ 884,997 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ การค้าระหว่างประเทศจีนและเมียนมาในปัจจุบันยังคงทำการค้าด้วยกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีรถบรรทุกขนส่งประมาณ 200 คันที่เข้าและออกจากเขตการค้ามูเซะ (Muse Trade Zone)

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/sino-myanmar-border-trade-surges-by-60-in-last-4-months/#article-title

กัมพูชา-สปป.ลาว ลงนาม MoU พัฒนาตลาดหลักทรัพย์

เจ้าหน้าที่กำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของกัมพูชา (SERC) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ สปป.ลาว (LSCO) เพื่อร่วมมือในการควบคุมและพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ในทั้งสองประเทศ ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูล และยกระดับความร่วมมือด้านกฎระเบียบในระดับทวิภาคี ผ่านการทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่และการพัฒนาตลาด ด้าน Sou Socheat ผู้อำนวยการทั่วไปของ SERC กล่าวว่า MoU จะช่วยให้ SERC ให้การสนับสนุนแก่นักลงทุนทั้งในกัมพูชาและ สปป.ลาว ในการลงทุนยังตลาดหลักทรัพย์ของทั้งสองประเทศ ในทำนองเดียวกันองค์กรทั้งสองประเทศพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในการจะช่วยเหลือหากมีบริษัทใดในกัมพูชาหรือ สปป.ลาว ต้องการที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ข้ามประเทศระหว่างกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนระหว่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501342653/cambodia-laos-ink-mou-for-securities-market-development/

ปักกิ่งทุ่มทุนพัฒนาเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงเชื่อม กัมพูชา ไทย สปป.ลาว และจีน

ปักกิ่งจะมอบเงินทุนสนับสนุน 300 ล้านหยวน หรือเท่ากับ 41.34 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่าง กัมพูชา ไทย สปป.ลาว และจีน กล่าวโดย Wang Yi รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีนระหว่างการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่งกัมพูชา Sun Chanthol ณ กรุงพนมเปญ ภายใต้กรอบของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลกัมพูชา-จีน ซึ่งมีนาย Hor Namhong เป็นประธาน และมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเข้าร่วม ซึ่งโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว ได้แก่ ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์, ทางด่วนพนมเปญ-บาเวต, ทางด่วนพนมเปญ-เสียมราฐ, โครงการรถไฟกัมพูชา และโครงการคลอง Funan Techo ที่กำลังดำเนินการโดยได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีน โดยประธานฯ ได้ชี้ให้เห็นว่าจีนได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชา รวมถึงการสร้างถนนยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งและปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศกัมพูชา ผ่านการสนับสนุนจากจีน ธนาคารโลก และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501342655/beijing-commits-300-million-yuan-to-develop-high-speed-rail-network/

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่ม GFT ในช่วง 7 เดือน แตะ 6.27 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเพื่อการเดินทาง (GFT) มูลค่ารวม 6.27 พันล้านดอลลาร์ ลดลงอย่างมากจากมูลค่า 7.89 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 20.44 ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ทำให้การส่งออกโดยรวมของกัมพูชาลดลงร้อยละ 1.8 ซึ่งได้รับผลกระทบจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การไม่ต่ออายุระบบสิทธิพิเศษทางภาษีทั่วไป (GSP) ของสหรัฐฯ และการลดสิทธิประโยชน์ของ Everything But Arms (EBA) ของสหภาพยุโรป (EU) ส่งผลทำให้การส่งออกโดยภาพรวมชะลอตัวลง จากข้อมูลของ GDCE รายงานเสริมว่าการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องแต่งกายแบบถักสร้างรายได้เข้าประเทศ 3.06 พันล้านดอลลาร์ ณ เดือน ก.ค. ลดลงร้อยละ 22.8 ขณะที่สินค้ากลุ่มเครื่องแต่งกายในรูปแบบไม่ถักสร้างรายได้เข้าประเทศ 1.40 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 14.7 สำหรับกลุ่มสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวสร้างรายได้สุทธิเข้าประเทศ 1 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 18.3 และการส่งออกรองเท้ามูลค่าในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 808.46 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 22.7

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501342930/cambodia-gft-exports-at-6-27-billion-in-7-months/

‘หอการค้าไทย’ แนะรบ.ใหม่เร่งกระตุ้นศก. ดูแลปากท้องประชาชน จี้ทบทวนแจกเงินดิจิทัล

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน หอการค้าไทยยังมีความมั่นใจว่าประเทศน่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ได้ในกรอบเดือน ส.ค.-ก.ย. 2566 โดยมองว่าไทยควรมีรัฐบาลชุดใหม่ให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาภาคเอกชนติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลอย่างใกล้ชิด และเห็นทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสามารถรวบรวมเสียงได้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ แต่สิ่งสำคัญ คือเสถียรภาพของรัฐบาลที่จะต้องมีเสียงเพียงพอและเข้มแข็ง เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเป็นไปอย่างราบรื่น และมีความต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีข้อเสนอแนะสำหรับรัฐบาลใหม่ในการดูแลเศรษฐกิจ โดยครอบคลุม 3 ระยะ ได้แก่ 1.ระยะเร่งด่วนโดยสิ่งที่รัฐบาลใหม่จำเป็นต้องดูแลทันที คือ การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และลดต้นทุนภาคเอกชน รวมถึงแก้ปัญหาภาคการส่งออกที่ชะลอตัว และเร่งส่งเสริมภาคท่องเที่ยว 2.ระยะกลาง ต้องวางแผนและป้องกันความเสี่ยงจากปัญหาภัยแล้งอย่างจริงจัง โดยรัฐบาลใหม่จำเป็นต้องเตรียมแผนบริหารจัดการทั้งพื้นที่ และการกักเก็บน้ำที่เหมาะสม รองรับความต้องการของภาคการเกษตร ภาคบริการ และภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนสานต่อข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ 3.ระยะยาว ต้องเริ่มปูพื้นฐานความรู้ความเข้าใจของทุกภาคส่วน ถึงประเด็นการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

ที่มา : https://www.thaipost.net/economy-news/431818/

‘ฮุน มาเนต’ หารือ ‘หวัง อี้’ ย้ำคำมั่นส่งเสริมสัมพันธ์ 2 ชาติ

พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกัมพูชา ได้พบปะหารือกับนายหวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านการต่างประเทศและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ซึ่งอยู่ระหว่างเดินสายเยือนหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ทั้งนี้ นายหวังเดินทางถึงกัมพูชาในวันที่ 12 สิงหาคม และถือเป็นผู้แทนต่างชาติคนแรกที่เดินทางเยือนกัมพูชา หลังพลเอกฮุน มาเนต ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี กัมพูชาภายใต้การนำของสมเด็จฯฮุน เซน เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา และได้รับเงินลงทุนจำนวนมหาศาลจากจีน

ที่มา : https://www.matichon.co.th/foreign/news_4128060

‘ธนาคารโลก’ ชี้เวียดนามวิกฤตขาดแคลนไฟฟ้า พ.ค.-มิ.ย. สูญเงินกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากรายงานล่าสุดของธนาคารโลก (WB) เปิดเผยว่าจากเหตุการณ์ปัญหาไฟฟ้าดับในจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม เดือน พ.ค.-มิ.ย. ได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก สูญเสียเงินกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 0.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม รวมถึงยังส่งผลกระทบไปในวงกว้างต่อกิจกรรมทางด้านพลังงานเกิดหยุดชะงัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ ของระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ภาคพลังงานของเวียดนามเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาและการเข้าถึงไฟฟ้าของคนในประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัญหาไฟฟ้าดับในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ได้เปิดเผยช่องโหว่ที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/may-june-power-shortages-cost-vietnam-us-1-4-billion-world-bank-2177190.html/