การส่งออกข้าวของกัมพูชาพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 42 ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2563

การส่งออกข้าวของกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ตามรายงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกล่าวว่ากัมพูชาส่งออกข้าวสารจำนวน 397,660 ตัน นับจากเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.25 เมื่อเทียบกับจำนวน 281,538 ตัน ในปี 2562 ซึ่งกัมพูชาส่งออกข้าวสารไปยังกว่า 56 ประเทศทั่วโลก โดยการส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 45 จีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.20 ส่วนในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 47.7 และแหล่งอื่น ๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.26

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739927/rice-exports-surge-by-42-percent-in-the-first-six-months-of-2020/

บริษัทบำบัดน้ำในกัมพูชาคาดว่าจะมีรายรับเพิ่มขึ้นหลังจากขาดทุนในปีที่แล้ว

ยูทิลิตี้บริษัทที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ดำเนินการด้านการประปาของพนมเปญ (PWSA) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) โดยมีเป้าหมายที่จะรวบรวมรายได้ให้เพิ่มสูงขึ้นในปี 2563 หลังจากรายได้รวมลดลงอย่างมากในปีที่แล้ว ซึ่งในปี 2562 รายรับของ PWSA ลดลงมากกว่าร้อยละ 18 สู่ระดับ 52.79 ล้านดอลลาร์จาก 64.65 ล้านดอลลาร์ในปี 2561 ตามรายงานทางการเงินที่ยื่นต่อ CSX โดยรายงานแสดงให้เห็นว่ากำไรจากการดำเนินงานลดลงร้อยละ 45.22 มาอยู่ที่ 12.67 ล้านดอลลาร์ จากกว่า 23.13 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่กำไรสุทธิลดลงร้อยละ 54.77 สู่ 8.12 ล้านดอลลาร์ จาก 17.96 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 79.83 ล้านดอลลาร์ ในปี 2563 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิมากกว่า 24.60 ล้านดอลลาร์ โดยในปี 2562 บริษัท ได้ผลิตน้ำสะอาด 221,656,505 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือเป็นแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ตั้งเป้าหมายการให้บริการน้ำประปาให้ครอบคลุม 100% ในเขตใจกลางเมืองภายในปี 2568 จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมชาวกัมพูชา 4.9 ล้านคน เข้าถึงการเชื่อมต่อกับน้ำสะอาดแล้วคิดเป็นร้อยละ 80 ของครัวเรือนในเขตเมือง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739594/water-company-expects-big-revenue-rise-after-2019-loss/

บริษัทจากญี่ปุ่นเกือบ 90 แห่ง ในกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจาก Covid-19

ประธานสมาคมธุรกิจญี่ปุ่นแห่งกัมพูชา (JBAC) กล่าวว่าธุรกิจของญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจกรรมในกัมพูชาประมาณ 87 แห่ง กำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ได้ขอความช่วยเหลือและความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่าผลกระทบของ COVID-19 ส่งผลกระทบทั่วโลกไม่จำกัดเฉพาะประเทศกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ออกมาตรการและนโยบายอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวก ต่อด้านธุรกิจและสภาพแวดล้อมการลงทุนในประเทศกัมพูชา ซึ่งประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ (PPSEZ) กล่าวว่าในการเปิดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ว่าการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งทั้งในแง่ของผลกำไรและรายได้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยกล่าวว่าปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทาย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739617/nearly-90-japanese-firms-in-the-kingdom-hit-by-virus/

สหรัฐฯมอบเงินสนับสนุน 56 ล้านดอลลาร์แก่กัมพูชา

รัฐบาลสหรัฐฯได้มอบเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2563 จำนวน 56 ล้านดอลลาร์ รวมถึงเพื่อส่งเสริมภาคเกษตรกรรมในกัมพูชาอีก 18 ล้านดอลลาร์ ตามแถลงการณ์รัฐบาลกัมพูชาผ่านสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) และรัฐบาลสหรัฐฯผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) ได้ลงนามในข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อจัดหาโครงการด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม โดยรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชากล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือ ซึ่งความร่วมมือด้านการพัฒนาทวิภาคีอย่างต่อเนื่องนี้เป็นเสาหลักที่สำคัญในการส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ โดยในความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง USAID จะให้ทุนแก่โครงการต่างๆเพื่อช่วยลดจำนวนคนยากไร้ และเพิ่มการผลิตพืชผลที่สำคัญและปรับปรุงโภชนาการให้กับชุมชนในชนบท ซึ่งในภาคการศึกษากระทรวงศึกษาธิการเยาวชนและการกีฬาและโปรแกรม USAID จะสนับสนุนความพยายามในการปรับปรุงความเข้าใจในการอ่านในหมู่เด็กๆ เพื่อลดอัตราการออกกลางคันและจัดหาชาวกัมพูชาให้เข้ามาทำงาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738964/us-gives-56-mln-to-support-kingdom/

การเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษในกัมพูชากำลังเผชิญกับอุปสรรค

ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ (PPSEZ) แถลงในการเปิดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำหรับปี 2562 การเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งทั้งในแง่ของกำไรและรายได้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับบริษัท จากผลกระทบของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกบริษัททั่วโลก ซึ่งคาดว่าหลังจากการระบาดของ COVID-19 รวมถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนสายการผลิตย้ายมายังกัมพูชาเร็วขึ้น รายงานแสดงให้เห็นว่าปริมาณการส่งออกจาก PPSEZ เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.9 ในช่วง 4 ปีจากปี 2016 – 2019 รวม 316 ล้านดอลลาร์สู่ 518 ล้านดอลลาร์ บริษัท ซึ่ง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 สินทรัพย์รวมของ PPSP มากกว่า 94 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.14 ในขณะที่ส่วนทุนมีมากกว่า 59 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.60 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739183/after-massive-growth-special-economic-zone-will-face-hurdles/

การเปลี่ยนแปลงของกัมพูชาจากความไม่มั่นคงด้านอาหารสู่ประเทศผู้ส่งออกข้าว

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ากัมพูชากำลังส่งเสริมภาคเกษตรกรรมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการส่งออกข้าว ซึ่งนายกฯย้ำว่ากัมพูชาจะไม่ประสบกับความไม่มั่นคงด้านอาหารเหมือนในอดีตอีกต่อไป คำแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “โครงการเยียวยาสำหรับครอบครัวผู้ยากจนและผู้ด้อยโอกาสในช่วง Covid-19″ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 โดยจุดแข็งของกัมพูชาคือมีผลผลิตส่วนเกินถึง 6 ล้านตัน ซึ่งกัมพูชาส่งออกข้าวหลัก ๆ สามประเภท ได้แก่ ข้าวหอม ข้าวขาวและข้าวสวยไปยังจีน สหภาพยุโรป และ อาเซียน ตามรายงานของสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) โดยกัมพูชามีรายได้มากกว่า 240 ล้านดอลลาร์จากการส่งออกข้าวในช่วง 5 เดือนแรกในปี 2563 ซึ่งส่งออกข้าว 356,000 ตัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีการส่งออกเพียง 250,000 ตัน โดยตัวเลขการส่งออกในปี 2563 ถือเป็นการเติบโตที่สำคัญที่สุดในกัมพูชาซึ่งเป็นปริมาณการส่งออกที่สูงที่สุด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738817/cambodias-transformation-from-a-food-insecurity-to-a-rice-exporting-nation/

นักลงทุนจากประเทศจีนกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในกัมพูชา

Ruifeng Tianfu Investment บริษัท สัญชาติจีน และคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (SECC) กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ในอนาคต โดยข้อเสนอดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้วพร้อมกับการหารืออย่างจริงจังระหว่าง SECC และ Ruifeng Tianfu Investments จากประเทศจีน ภายใต้บันทึกความเข้าใจในการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกัน ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ 2 ประเภท คือสินค้าที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (เช่นทองคำ) สำหรับระยะเริ่มต้น และสินค้าที่ไม่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (เช่นสินค้าเกษตร) ในระยะต่อมา โดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าถือเป็นเป้าหมายของ SECC ที่ถือเป็นช่องทางใหม่สำหรับสินค้าเกษตรที่จะเข้าร่วมในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางให้กับสินค้าภายในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738847/ruifeng-tianfu-investments-from-china-to-conduct-feasibility-study-on-commodity-futures-trading-in-cambodia/

เดือน มิ.ย. จำนวนนักท่องเที่ยวในกัมพูชาสูงถึง 4.5 แสนคน แต่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 1 พันคน

ในช่วงสามสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนชาวกัมพูชากว่า 450,000 คน ได้เริ่มทยอยออกท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ คิดเป็นจำนวนทั้งหมดคือ 452,692 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.24 จากช่วงเวลาเดียวกันในเดือนพฤษภาคม หรือคิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวท้องถิ่นจำนวน 441,397 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.61 และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,295 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.34 โดยจังหวัด Khon ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศได้เกือบร้อยละ 50 ซึ่งเสียมเรียบยังคงแสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเนื่องจากธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม เกสต์เฮาส์ และร้านอาหารเพิ่งทำการเปิดใหม่อีกครั้ง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวได้เสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคเอกชนในการส่งเสริมมาตรการด้านความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวสำหรับภาคธุรกิจเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ซึ่งรวมถึงบริการที่พักร้านอาหาร การขนส่งทางบก การขนส่งทางน้ำ รีสอร์ทและชุมชนด้านการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738065/more-than-450000-tourists-on-the-move-over-first-three-weeks-of-june/

สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของกัมพูชามีความยืดหยุ่นมากขึ้นจากกรณีศึกษา

ดัชนีความยืดหยุ่นโลกในปี 2020 แสดงให้เห็นว่าอันดับของกัมพูชาขยับขึ้นจากปีที่แล้ว โดยในปีนี้กัมพูชาได้คะแนนรวม 28.9 คะแนน จาก 100 คะแนน โดยอยู่ในอันดับที่ 112 ของโลก ซึ่งปีที่แล้วกัมพูชาได้รับคะแนนอยู่ที่ 21.7 และติดอันดับ 114 จาก 130 ประเทศ จากการศึกษาในครั้งนี้ โดยการศึกษาดังกล่าวดำเนินการโดย FM Global บริษัท ประกันภัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา (US) ซึ่งการศึกษานี้วัดความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของประเทศโดยพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงและห่วงโซ่อุปทาน 12 ประการ โดยการศึกษานี้อาจเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่าเศรษฐกิจและธุรกิจของกัมพูชาจะผ่านวิกฤต COVID-19 ไปได้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Kevin Ingram รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ FM Global มองว่าความยืดหยุ่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้คน ประเทศและธุรกิจ การจัดอันดับประเทศในดัชนี 2020 Global Resilience Index เป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในแต่ละประเทศ แต่ละภาคธุรกิจจะเป็นอย่างไรและองค์กรมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วเพียงใดหลังจากที่เกิดการระเบิดทางเศรษฐกิจของ Covid-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50737968/business-environment-becoming-more-resilient-study/

การพัฒนาพลังงานสะอาดภายในประเทศกัมพูชากับความท้าทาย

โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์อีกร้อยละ 12 ภายในสิ้นปีนี้และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งกัมพูชากำลังเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนไปสู่การพัฒนาพลังงานสะอาดตามรายงานของกองทุนเพื่อการลงทุนด้านภูมิอากาศ (CIF) และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) จากรายงานเรื่อง “การเปลี่ยนผ่านสู่เส้นทางการพัฒนาพลังงานสะอาดของกัมพูชา” ออกมาในเดือนนี้ โดยวัตถุประสงค์ของรัฐบาลสอดคล้องกับคำแนะนำในด้านการสร้างแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้นตามคำแนะนำของ CIF และ ADB ซึ่งจากรายงานกล่าวถึงปัญหาในด้านของความโปร่งใส ความเสี่ยง ราคาและบทบาทของภาคเอกชน ที่ถือเป็นความท้าทายสำหรับการกำหนดสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ สำหรับภาคเอกชนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนต่างประเทศกัมพูชาได้นำเสนอตลาดพลังงานใหม่ โดยมีการจำกัดความสามารถในการดำเนินการประมูล ให้อยู่บนความโปร่งใสและเปิดกว้างในภูมิภาค ปัจจุบันสวนพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของกัมพูชาสามารถแข่งขันในด้านการประมูลราคาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 0.039 ดอลลาร์ / กิโลวัตต์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50737288/clean-energy-development-presents-challenges/