ดัชนี CPI เวียดนาม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ก.ค.

จากรายงานเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน และร้อยละ 3.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสินค้าโภคภัณฑ์หลัก 9 จาก 11 รายการที่ราคาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.91 ขณะเดียวกัน ที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.47, วัฒนธรรม บันเทิงและการท่องเที่ยว (0.3%) และสินค้าและบริการอื่นๆ (0.17%) แต่ราคาในภาคร้านอาหารและงานบริการ รวมถึงไปรษณีย์และโทรคมนาคม ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.18 และ 0.02 ตามลำดับ ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น เกิดจากราคาน้ำมันเบนซิน ก๊าซ ไฟฟ้าและน้ำที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านด่ง (2,160 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตำลึง ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารสด พลังงาน บริการสุขภาพและการศึกษา) ในเดือนกรกฎาคมและช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.31 และ 2.74 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/770319/consumer-price-index-up-04-per-cent-in-july.html

เวียดนามเผยกลางเดือน ก.ค. ส่งออกพริกไทยสูงถึง 385 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่ากลางเดือนกรกฎาคม ปริมาณการส่งออกพริกไทยของเวียดนามอยู่ที่ 182,000 ตัน มูลค่าราว 385 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของไวรัส COVID-19 ไปทั่วโลก แต่การส่งออกพริกไทยของเวียดนามไปยังตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ อียิปต์และสหราชอาณาจักร ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ สมาคมพริกไทยเวียดนาม (VPA) แนะนำให้ผู้ส่งออกควรมุ่งเน้นการส่งออกไปยังตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งมีการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ได้แก่ จีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นต้น และส่งเสริมการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เผยว่าผลผลิตพริกไทยของเวียดนามมีสัดส่วนร้อยละ 95 เพื่อเตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ และอีกร้อยละ 5 เพื่อการบริโภคในประเทศ โดยทางกระทรวงฯ เน้นในการวางแผนเตรียมพื้นที่เพาะปลูกพริกไทย และส่งเสริมการผลิตผ่านวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี เพื่อได้มีมาตรฐานการทำฟาร์มและเชื่อมโยงการผลิตเกษตรเชิงอนุรักษ์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pepper-export-turnover-hits-385-million-usd-by-midjuly/179349.vnp

เวียดนามอาจส่งออกข้าวแซงไทย

เวียดนามอาจส่งออกข้าวแซงไทยในปีนี้ เนื่องจากราคาที่แข่งขันกันได้และการยกเลิกโควต้าส่งออกข้าว โดยข้อมูลทางสถิติจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่าปริมาณการส่งออกข้าวของไทยอยู่ที่ 2.57 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 54.2 พันล้านบาท (1.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 31.9 ในแง่ปริมาณ และร้อยละ 13.2 ในแง่มูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) ระบุว่าช่วงเวลาเดียวกันนั้น ปริมาณการส่งออกข้าวของเวียดนามอยู่ที่ราว 2.9 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.41 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 ในแง่ปริมาณ และร้อยละ 18.9 ในแง่มูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ทั้งนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยมองว่าในปีนี้ ปริมาณการส่งออกข้าวจะอยู่ที่ 6.5 ล้านตัน ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาและต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 7.5 ล้านตัน เป็นผลมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ความต้องการทั่วโลกที่หดตัวลงจากการระบาดของไวรัส เงินบาทแข็งค่าและผลผลิตที่อยู่ในระดับต่ำ จากภัยแล้งที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ เป็นต้น นอกจากนี้ ข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA คาดว่าจะช่วยให้เวียดนามสามารถกระจายตลาดการส่งออกข้าวให้หลากหลายมากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-may-surpass-thailand-in-rice-export/179355.vnp

INFOGRAPHIC : เวียดนามเผยช่วง 7 เดือนแรกปึนี้ ดึงดูดเม็ดเงิน FDI กว่า 18.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม เปิดเผยว่ายอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 18.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินลงทุนจากโครงการใหม่จำนวน 1,620 โครงการรวมมูลค่า 9.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, โครงการปรับเพิ่มเงินทุนจำนวน 619 โครงการรวมมูลค่า 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการซื้อหุ้นกิจการภายในประเทศจำนวน 4,459 โครงการรวมมูลค่า 4.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงดึงดูดความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ มูลค่า 8.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47.62 ของมูลค่าการลงทุนรวม รองลงมาไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำและระบบการปรับอากาศ มูลค่า 3.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (20.99%), อสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 2.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (14.98%), การค้าปลีกค้าส่งและซ่อมยานยนต์ มูลค่า 1.095 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.8%) และอื่นๆ ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/first-7-months-fdi-attraction-reaches-over-188-billion-usd/179310.vnp

การส่งออกไม้ของเวียดนามกลับมาฟื้นตัว ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่ามูลค่าส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ของเวียดนามอยู่ที่ 5.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยในเดือนมิ.ย. ยอดส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ของเวียดนามที่ 769 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่าเดือนมิ.ย. การส่งออกที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ชะลอตัวลงในบางตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน แคนาดาและออสเตรเลีย เป็นต้น และมีข้อสังเกตสำคัญชี้ให้เห็นว่าตลาดยุโรป มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายระดับภูมิภาค รวมถึงประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 แบบคลื่นลูกที่ 2 ส่งผลให้กระตุ้นอุปสงค์ของผู้บริโภคในยุโรปเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) จะมีผลบังคับใช้วันที่  1 สิ.ค. และบรรลุในการคุ้มครองการลงทุนทวิภาคี

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnamese-wood-exports-recover-during-the-first-half-of-the-year-22790.html

เวียดนามเผยม.ค.-ก.ค. ดึงดูดเม็ดเงิน FDI ลดลง 6.9% (18.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม เปิดเผยว่าเวียดนามดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มูลค่า 18.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ลดลงร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยมี 526 โครงการที่ได้รับอนุญาตใหม่ ยอดการลงทุนที่เป็นการลงทุนเพิ่มในโครงการที่มีอยู่ปัจจุบัน 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว มีนักลงทุนต่างชาติ 4,459 รายที่เข้ามาลงทุนและซื้อหุ้น มูลค่าราว 4.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปเกือบร้อยละ 55 ของยอดทั้งหมด ขณะที่ ร้อยละ 28.8 ก๊าซ น้ำและจำหน่ายไฟฟ้า นอกจากนี้ การลงทุน FDI ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม, ภาค FDI คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของยอดส่งออกทั้งประเทศ

ที่มา : https://e.nhipcaudautu.vn/economy/vietnams-jan-jul-pledged-fdi-drops-69-to-1882bln-3336300/

INFOGRAPHIC : ผู้ผลิตอุตสาหกรรมและแปรรูปเวียดนาม 80.6% เห็นว่าแนวโน้มธุรกิจไปในทิศทางที่ดีขึ้น

สถานการณ์ธุรกิจในประเทศ คาดว่าจะดีขึ้นหรือยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 แบ่งออกเป็นประเภทธุรกิจ ดังต่อไปนี้

คาดการณ์แนวโน้มการทำธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 3/2563 (% จากการคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจของผู้ประกอบการ)

  • ภาพรวมธุรกิจ : ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 80.6% มองว่าในอนาคตมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือทรงตัว และ 19.4% ทำธุรกิจได้ยากขึ้น
  • ธุรกิจ FDI : ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 75.9% มองว่าในอนาคตมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือทรงตัว และ 24.1% ทำธุรกิจได้ยากขึ้น
  • รัฐวิสาหกิจ : ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 79.7% มองว่าในอนาคตมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือทรงตัว และ 20.3% ทำธุรกิจได้ยากขึ้น
  • ธุรกิจเอกชน : ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 82.6% มองว่าในอนาคตมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือทรงตัว และ 17.4% ทำธุรกิจได้ยากขึ้น

คาดการณ์แนวโน้มการผลิตและยอดตำสั่งซื้อในช่วงไตรมาสที่ 3/2563 (% จากการคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจของผู้ประกอบการ)

  • ปริมาณการผลิต : ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 48.8% มองว่าปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น รองลงมา 33.1% ไม่เปลี่ยนแปลง และ 18.1% แย่ลง ตามลำดับ
  • ยอดคำสั่งซื้อ : ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 45.1% มองว่าได้รับยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น รองลงมา 36.6% ไม่เปลี่ยนแปลง และ 18.3% แย่ลง ตามลำดับ
  • ส่งออกคำสั่งซื้อ : ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 43.9% มองว่าได้รับยอดส่งออกคำสั่งซื้อไม่เปลี่ยนแปลง รองลงมา 34.2% เพิ่มขึ้น และ 21.9% แย่ลง ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/806-processing-manufacturing-firms-optimistic-about-business-outlook/179048.vnp

เวียดนาม-นิวซีแลนด์ เร่งส่งเสริมความร่วมมือทางการเงิน

กระทรวงการคลังเวียดนามและกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด่วยความร่วมมือด้านการเงิน ณ กรุงฮานอย วันที่ 23 ก.ค. เอกสารดังกล่าวได้รับการลงนามโดยคุณ Wendy Matthews เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำเวียดนาม พร้อมด้วยคุณ Tran Xuan Ha รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งการเซ็น MoU จะช่วยในการจัดระเบียบและความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมระหว่างกระทรวงการคลังเวียดนาม-นิวซีแลนด์ รวมถึงความร่วมมือทวีภาคีในมิติต่างๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงงบประมาณ, บริหารการเงินการคลังภาครัฐ, การจัดการหนี้, นโยบายภาษี, ความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและประเด็นทางการเงินอื่นๆ ทั้งนี้ นิวซีแลนด์มีความสามารถในการส่งเสริมเวียดนามหลายด้านด้วยกัน ได้แก่ การวิจัย การพัฒนาและการบังคับใช้นโยบาย เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-new-zealand-boost-financial-cooperation-ties-416435.vov

“สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด” คาดเศรษฐกิจเวียดนามปี 63 โต 3%

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามปี 2563 น่าจะเติบโตแบบชะลอตัวต่ำที่สุดในรอบหลายปีที่ร้อยละ 3 เนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอ ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวของธนาคารฯ สูงกว่าการคาดการณ์ของ IMF ไว้ที่ร้อยละ 2.7 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของ ADB ที่ร้อยละ 4.1 ทั้งนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะกลับมาฟื้นตัว อันจะเป็นแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเวียดนามยังคงค่อนข้างพึ่งพาเศรษฐกิจโลก รองจากสิงคโปร์ โดยมีอัตราการค้าเทียบกับจีดีพี อยู่ที่ร้อยละ 198 อันดับสูงสุดในเอเชีย ได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยเหตุนี้ จึงคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 63 โตร้อยละ 3 อีกทั้ง การส่งเสริมของนโยบายการเงินและการคลังจะเข้ามาผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของรัฐบาลไว้ที่ร้อยละ 4-5 นอกจากนี้ ยอดการลงทุน FDI จะลดลงในปีนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนและความเชื่อมั่นในการลงทุนทั่วโลกหดตัวลง คิดเป็นมูลค่ารวม 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnams-2020-growth-seen-at-3-stanchart-313393.html

INFOGRAPHIC : เวียดนาม-นิวซีแลนด์ ตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

ปี 2563 เป็นวันครบรอบ 45 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามและนิวซีแลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศพยายามกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธสาสตร์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-new-zealand-look-to-strategic-partnership/178978.vnp