สระแก้วถือมีบทบาทสำคัญต่อภาคโลจิสจิสติกส์ระหว่างกัมพูชา เวียดนาม และจีน

นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เดินทางเยือนจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หวังหารือเกี่ยวกับความสำคัญของจังหวัดในด้านเครือข่ายการค้าชายแดนและโลจิสติกส์ของประเทศไทย โดยสามารถรองรับการจราจรและการค้าได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมีผู้คนข้ามแดนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี และมีมูลค่าการค้าชายแดนประมาณ 110,000 ล้านบาทต่อปี ด้านนายกฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความสามารถของจังหวัดสระแก้วในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าของไทยกับประเทศที่มีชายแดนติดกันกับไทย อย่าง กัมพูชา เวียดนาม และจีน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศคู่ค้ารายสำคัญของไทย อีกทั้งยังมีแนวนโยบายในการจัดทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ชาวสระแก้ว เพื่อให้สามารถข้ามชายแดนได้โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทาง ภายใต้การดำเนินงานของด่านผ่านแดนคลองลึก-ปอยเปต ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางในเขตพื้นที่ดังกล่าวหวังดันการค้าและการเดินทางเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501398538/sa-kaeo-plays-crucial-role-in-logistics-sector-commercial-relationships-with-cambodia-vietnam-and-china/

บริษัท Cellcard ออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ ในตลาด CSX

บริษัท CAGSM Plc (Cellcard) และตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) ร่วมจัดพิธีจดทะเบียนพันธบัตรอย่างเป็นทางการของ CAGSM Plc โดยมี Hean Sahib รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน และประธาน CSX เป็นประธานในพิธี โดยบริษัทได้ออกพันธบัตรในนาม “CAMGSM Sustainability Bond” ด้วยมูลค่าเสนอขายรวม 19.9 ล้านดอลลาร์ สำหรับอายุ 10 ปี และอัตราคูปอง SOFR บวกร้อยละ 3 หรือร้อยละ 5.5 ต่อปี (แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า) ซึ่งรายได้จากการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายด้านทุนและการรีไฟแนนซ์โครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยพันธบัตรดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน นอกเหนือจากการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501398160/cellcard-lists-20-million-sustainability-bond-on-csx/

ADB อนุมัติเงินกู้ 50 ล้านดอลลาร์ หนุนการปรับปรุงการจัดการทางด้านการเงินกัมพูชา

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) อนุมัติเงินกู้มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ สนับสนุนการปรับปรุงระบบการจัดการการเงินสาธารณะ (PFM) ของกัมพูชา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและสร้างความร่วมมือทางการเงินร่วมกันในระดับชาติและระดับภูมิภาค นับตั้งแต่ปี 2008 รวมถึงเสริมสร้างการตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกเพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้านการดำเนินนโยบายการเงิน ให้เป็นไปตามมาตรฐานในการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ส่งเสริมความรับผิดชอบทางการเงิน และเพิ่มการกำกับดูแลการใช้จ่ายสาธารณะ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501397705/adb-approves-50-mln-loan-to-improve-cambodias-financial-management/

นายกฯ ฮุน มาเน็ต ยันเศรษฐกิจกัมพูชาปีนี้โต 5.6%

นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ประกาศคงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชาไว้ที่ร้อยละ 5.6 ในปี 2023 และจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.6 ภายในปี 2024 โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและสินค้าเพื่อการเดินทาง ภาคการท่องเที่ยว ภาคเกษตรกรรม และอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงภาคการก่อสร้างที่เริ่มเห็นการเติบโต ขณะเดียวกันทางการกัมพูชามีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) เพื่อที่จะลดการพึ่งพาตลาดส่งออกหลักในปัจจุบันอย่างสหรัฐฯ และยุโรป นอกจากนี้กัมพูชายังเป็นสมาชิกข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน (CAFTA) และข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีกับจีน เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501397374/pm-hun-manet-reaffirms-cambodias-growth-for-this-year-is-at-5-6-percent/

กัมพูชาเร่งพัฒนาถนนแห่งชาติหมายเลข 5 อำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง

กัมพูชาเร่งพัฒนาทางหลวงสายสำคัญ 2 สาย ถือเป็นส่วนขยายของถนนแห่งชาติหมายเลข 5 ซึ่งเชื่อมไปยังกรุงพนมเปญและพระตะบอง โดยคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง การขนส่งสินค้า รวมถึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเชื่อมต่อในระดับภูมิภาค ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวมีความยาวอยู่ที่ 366 กิโลเมตร ภายใต้เงินกู้สัมปทานจำนวน 691 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านหน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ถือเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมเมืองหลวงจากพื้นที่เปรกดำไปยังจังหวัดบันเตียเมียนเจยที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย ขณะที่หลังจากทางการกัมพูชาได้เปิดให้บริการถนนแห่งชาติหมายเลข 5 อย่างเป็นทางการ โดยรัฐบาลกัมพูชาพร้อมที่จะดำเนินการส่งเสริมการลงทุนตามแนวถนนให้มากขึ้น เพื่อผลักดันให้จังหวัดต่างๆ เกิดการพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาของภาคประชาชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501396473/national-road-5-to-facilitate-goods-transport-and-enhance-connectivity/

ธนาคารโลกมอบเงินทุนสนับสนุนในการจัดหาน้ำและสุขาภิบาลในกัมพูชา

ธนาคารโลก (World Bank: WB) อนุมัติงบประมาณมูลค่า 163 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการการจัดหาน้ำประปาสะอาดและคุณภาพทางด้านสุขาภิบาล ใน 4 จังหวัดสำคัญของกัมพูชาอย่างจังหวัด พระตะบอง โพธิสัตว์ มณฑลคีรี และกันดาล ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่มากกว่า 175,000 คน แม้ปัจจุบันหลายพื้นที่ในกัมพูชามีการเข้าถึงแหล่งน้ำเพื่อการบริโภคและสุขาภิบาลที่ดีขึ้น แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของประเทศ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) 6 ของสหประชาชาติ (UN) ภายในปี 2030 โดยรัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการน้ำเสียและกากตะกอน ดังนั้น การสนับสนุนการลงทุนในระบบสุขาภิบาลภายใต้โครงการดังกล่าวจึงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับความยั่งยืนทางด้านสุขอนามัยของคนในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501396471/wb-approves-163m-for-safe-water-supply-and-sanitation-in-cambodia/

PBOC-NBC ลงนามบันทึกความเข้าใจ ดันความร่วมมือทางด้านการเงินระหว่าง จีน-กัมพูชา

ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) และธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) สองฉบับเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 พ.ย.) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการเงิน หลัง Pan Gongsheng ผู้ว่าการ PBOC และหัวหน้าฝ่ายบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของรัฐ พบกับ Chea Serey ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ณ กรุงปักกิ่ง ตามคำแถลงของ PBOC โดยทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินในระดับทวิภาคีและร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือในการจัดทำข้อตกลงการหักบัญชีเงินหยวนในกัมพูชา และเกี่ยวกับความร่วมมือด้านนวัตกรรมทางการเงินและระบบการชำระเงินในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501396098/pboc-national-bank-of-cambodia-sign-mous-on-cooperation/

RCEP ดันการเข้าถึงตลาดต่างประเทศของกัมพูชา

Sok Siphana รัฐมนตรีอาวุโสฝ่ายความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการส่งออกของกัมพูชา ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ในระหว่างการบรรยายเรื่อง ‘การวิเคราะห์แง่มุมทางกฎหมายของข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค’ ณ กระทรวงสารสนเทศ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 พ.ย.) ซึ่งสิทธิพิเศษทางการค้าของ RCEP นอกจากจะกระตุ้นทางด้านการค้าแล้ว ยังส่งผลต่อภาคการลงทุน และการไหลเวียนของภาคประชาชนข้ามพรมแดนมากขึ้น จากการเร่งบูรณาการทางเศรษฐกิจและการค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ RCEP มูลค่ารวม 5.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มูลค่า 4.7 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นกว่าสัดส่วนร้อยละ 33 ของการส่งออกรวมกัมพูชาที่มีมูลค่ารวม 17.59 พันล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วง 3 ไตรมาสของปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501395909/rcep-helps-international-market-access-to-cambodia/

คาดเงินเดือนที่แท้จริงภายในประเทศกัมพูชาโต 2.2% ภายในปี 2024

คาดเงินเดือนที่แท้จริง (Real Salaries) ในประเทศ ขยายตัวร้อยละ 2.2 ในปีหน้า ตามการรายงานแนวโน้มเงินเดือนล่าสุดที่เผยแพร่โดย ECA International องค์กรผู้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือน ที่พัก ภาษี กฎหมายแรงงาน ค่าครองชีพ ตลอดจนสวัสดิการ และคุณภาพชีวิต ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียมีอัตราเงินเดือนขยายตัวเช่นกันที่ร้อยละ 4.3 รองลงมาคือเวียดนามที่ร้อยละ 3.6, ไทยขยายตัวร้อยละ 3.4, มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ที่ร้อยละ 2.3 ซึ่งกัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 6 เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยอัตราการปรับขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นจากการคำนวณเข้ากับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน ขณะที่ค่าจ้างของพนักงานภาครัฐสูงกว่าภาคเอกชนถึงร้อยละ 18.8 สะท้อนสิ่งที่ภาคเอกชนควรจะต้องมีแผนในการปรับค่าแรงค่าจ้างให้เหมาะสมตามสถานการณ์ปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501395310/kingdoms-real-salaries-set-to-increase-2-2-percent-in-2024/

อินโดนีเซียตั้งเป้าดันการค้าระหว่างกัมพูชาติดอันดับ 5 ประเทศคู่ค้ารายสำคัญ

ปัจจุบันอินโดนีเซียถือเป็นคู่ค้ารายสำคัญอันดับที่ 6 ของกัมพูชา ซึ่งมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ ในปัจจุบัน เน้นหนักไปที่การส่งออกถ่านหินของกัมพูชา และการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ของอินโดนีเซียมายังกัมพูชา โดยอินโดนีเซียตั้งเป้าดันการค้าระหว่างกัมพูชาติดอันดับที่ 5 ภายในปีหน้า ซึ่ง ดร.Santo Darmosumarto เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำกัมพูชา ได้กล่าวไว้ในระหว่างการพูดคุยกับ Khmer Times สื่อประจำท้องถิ่น รวมถึงยังได้พูดคุยถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญต่อภาคการค้าระหว่างอินโดนีเซียและกัมพูชา โดยปัจจุบันความเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ภายในกัมพูชายังคงต้องปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่สูง ทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนามและไทย ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตยังได้กล่าวเสริมว่ากัมพูชายังมีศักยภาพอีกมากมาย สำหรับการพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น ภาคเกษตรกรรม รวมถึงศักยภาพของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งกำลังเร่งฟื้นตัวจากสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงก่อนหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501395286/indonesia-aims-to-achieve-top-five-status-as-cambodias-trade-partner/