25-26 ต.ค.65 ราคาหัวหอมในเมียนมา พุ่งสูงสุด เป็นประวัติการณ์

ราคาหัวหอมสูงตั้งแต่วันที่ 25 – 26 ตุลาคม 2565 สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการของตลาดชายแดนที่เพิ่มมากขึ้น โดยในตลาดค้าส่งราคาหัวหอมพุ่งแตะสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 4,300 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) สาเหตุเกิดจากผลผลิตหัวหอมที่ลดลงในหลายภูมิภาคส่งผลให้ราคาในตลาดค้าส่งถีบตัวสูงขึ้น ในทำนองเดียวกัน ราคาหัวหอมจากจีนก็เพิ่มขึ้นจาก 1,800  จัตต่อ viss ในวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 2,200 จัตต่อ viss ในวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ทำให้หัวหอมจากจีนเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพราะมีราคาถูกกว่าหัวหอมที่ปลูกในประเทศ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/onion-price-heads-for-two-day-high/#article-title

นายกฯ ไทย-สปป.ลาว เตรียมวางศิลาฤกษ์สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2022 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเดินทางเป็นประธานร่วมกับนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ด้านโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า พิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 นี้ เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันในช่วงที่นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เยือนไทยเมื่อวันที่ 1-2 มิถุนายน 2022 โดยสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 นี้ มีความยาว 1.35 กิโลเมตร แบ่งเป็นฝั่งไทย 0.815 กิโลเมตร และฝั่ง สปป.ลาว 0.535 กิโลเมตร สะพานแห่งนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการคมนาคมขนส่งระหว่างไทยกับ สปป.ลาว และส่งเสริมความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคระหว่าง ไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม บนเส้นทางหมายเลข 8 (R8) เชื่อมต่อกับมณฑลกว่างสีของจีนได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งคาดว่าสะพานแห่งนี้จะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2024

ที่มา : https://www.nationthailand.com/thailand/economy/40021391

พื้นที่เพาะปลูกมะม่วงหิมพานต์ในกัมพูชาลดลงต่อเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

เนื่องจากราคาเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ลดลงอย่างมาก รวมถึงผลผลิต และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลทำให้พื้นที่เพาะปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ในกัมพูชาลดลง จากพื้นที่ประมาณกว่า 800,000 เฮกตาร์ ในปี 2021 ลดลงเหลือ 700,000 เฮกตาร์ ในปี 2022 ตามรายงานของสมาคมเม็ดมะม่วงหิมพานต์แห่งกัมพูชา ซึ่งตามสถิติการเกษตร ตั้งแต่ปี 2009 พื้นที่ปลูกมะม่วงหิมพานต์เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 66,513 เฮกตาร์ ในปี 2009 เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 เฮกตาร์ ในปี 2021 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 12 เท่า ด้วยสถานการณ์ข้างต้นส่งผลทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการลดลงของผลผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จากคำกล่าวของ Uon Silot ประธานสมาคมเม็ดมะม่วงหิมพานต์แห่งกัมพูชา โดยในเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2022 กัมพูชาส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ปริมาณกว่า 660,000 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ แต่ในปริมาณข้างต้นกลับเป็นการลดลงกว่าร้อยละ 34.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501174931/cashew-nut-plantation-area-falls-due-to-climate-change/

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในภาคการก่อสร้างของกัมพูชาขยายตัวต่อเนื่อง

กัมพูชายังคงได้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งในรายงาน Asean Investment Report 2022 แสดงให้เห็นว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้นจาก 260 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 เพิ่มขึ้นเป็น 334 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 โดยภาคการก่อสร้างในกัมพูชาคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 6.3 ในปี 2022 และจะขยายตัวกว่าร้อยละ 9.4 ในระหว่างปี 2023-2026 รายงานโดย Bussineswire’s Cambodia Construction Industry Report 2022 ในขณะเดียวกัน Aun Pornmoniroth รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง คาดการณ์ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศจะขยายตัวร้อยละ 4.8 ในปี 2022 เช่นเดียวกันกับการเติบโตของ FDI ซึ่งแรงผลักดันส่วนใหญ่มาจากความต้องการที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานที่มีอยู่ภายในประเทศ โดยภาคการก่อสร้างถือเป็นหนึ่งใน 4 เสาหลักทางเศรษฐกิจของกัมพูชา จากข้อมูลของ กระทรวงการจัดการที่ดิน การวางผังเมืองและการก่อสร้าง (MLMUPC) ซึ่งในระหว่างปี 2000-2022 กัมพูชาได้ออกใบอนุญาตสำหรับโครงการก่อสร้างกว่า 57,590 โครงการทั่วประเทศ ด้วยเงินลงทุนรวม 66.2 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501174759/fdi-in-cambodias-construction-sector-touches-334m/

การท่องเที่ยวเอเชียฟื้นตัวสูงสุดในโลก!! ฝ่ายวิเคราะห์คาดดัน GDP พุ่งได้ถึง 35% ช่วง 2-3 ปี

จากรายงาน “Travel & Tourism Economic Impact” พบว่าในปี 2020 ที่โลกกำลังต่อสู้กับ COVID-19 รายได้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเอเชียหายไปกว่า 59% สำหรับในปัจจุบันเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชีย โดยจากรายงานพบว่าการเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียเติบโตขึ้นถึง 71% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากมาตรการต่าง ๆ ได้เริ่มผ่อนคลายทำให้ออกนอกประเทศได้ ซึ่งประเทศที่เริ่มผ่อนคลายก่อนใครเป็นอันต้นๆก็คือ อินเดียและออสเตรเลีย ตามด้วยมาเลเซียและไทย รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน อย่างไรก็ดีสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวในภูมิภาคในปี 2023-2024 จะขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปี 2025 ที่การท่องเที่ยวจะทำให้ GDP ของภูมิภาคเอเชียเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 35% เรียกได้ว่าเป็นการเติบโตที่มากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งนี้ ยังมีรายงานคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของเศรษฐกิจโลกจะอยู่ที่ 2.7% ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2032 ซึ่งในส่วนของการท่องเที่ยวที่มีต่อเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะเติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปี 5.8% และสำหรับในภูมิภาคเอเชียการท่องเที่ยวทำให้ GDP คาดว่าจะเติบโตที่อัตราเฉลี่ยต่อปีที่ 8.5% ฉะนั้นแล้วเมื่อการท่องเที่ยวครึกครื้นเศรษฐกิจโลกคึกคัก ความต้องการของ “แรงงาน” ก็จำเป็นจะต้องเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.thebusinessplus.com/travelasia/

ค้าชายแดนหนองคายคืนสภาพ ส่ง‘ผ่านแดน’ เข้าลาวโตพรวด 3 เท่า

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย โดยน.ส.จิราภรณ์ ศิริประเสริฐ พาณิชย์จังหวัด เผยแพร่สถานการณ์การค้าชายแดนด้านจังหวัดหนองคาย ผ่านศูนย์บริการประชาชนด้านการพาณิชย์ว่า การค้าชายแดนด้านจังหวัดหนองคาย ประจำเดือนส.ค. 2565 นี้ มีมูลค่าการค้าชายแดน รวม 9,007.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า (ก.ค. 2565) จำนวน 1,4331.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.90% เกือบเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้แล้วตัวเลขมูลค่าการค้าผ่านแดนไทย-สปป.ลาว เดือนส.ค.65 ผ่านด่านศุลการกรจังหวัดหนองคาย มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 24,147.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า (ก.ค. 2565) จำนวน 13,118.94 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 118.95% เป็นสินค้าแดนขาออกจากประเทศที่สามไปประเทศ สปป.ลาว ผ่านแดนจากไทยจำนวน 18,446.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 13,985.65 ล้านบาท หรือโต 300.06% และเป็นสินค้าผ่านแดนขาเข้าจากประเทศ สปป.ลาว ผ่านแดนไทย ไปยังประเทศที่สาม จำนวน 5,501.21 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนหน้า (ก.ค. 2565) จำนวน 866.71 ล้านบาท หรือลดลง 13.61%

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/trade-agriculture/544868

ผลสำรวจชี้ “ผู้บริโภคเวียดนามยุคดิจิทัล” ใช้โซลูชั่นการเงิน

จากรายงาน SYNC Southeast Asia ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าประชากรชาวเวียดนามทั่วประเทศกว่า 80% เป็นผู้บริโภคดิจิทัล และเวียดนามเป็นตลาดชั้นนำที่มีการนำเทคโนโลยีใหม่มาปรับใช้ โดยกลุ่มผู้บริโภคดิจิทัลส่วนใหญ่ 58% มีการใช้บริการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงบริการแอปพลิเคชั่นที่ช่วยในการโอนเงินและธนาคารดิจิทัล ทั้งนี้ ส่วนแบ่งเฉลี่ยของอีคอมเมิร์ซและธุรกิจการค้าปลีกโดยรวมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 15% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอินเดียและจีน 10% และ 4% ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/nearly-60-of-digital-consumers-in-vietnam-use-fintech-solutions/240652.vnp

แบงก์ชาติเวียดนาม ปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% ในวันที่ 25 ต.ค.

ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 25 ตุลาคม ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยรับช่วงซื้อลด 4.5% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมข้ามคืนระหว่างธนาคาร 7% ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากขั้นสูงสุดแบบไม่มีระยะเวลาที่กำหนดและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 เดือน จำกัดไว้ที่ 1% ต่อปี ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นนั้น สถาบันสินเชื่อเตรียมเงินทุนเพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านภาคเศรษฐกิจ 5.5%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/central-bank-revises-up-interest-rates-by-1-from-october-25/240638.vnp

เดือนก.ย.65 เมียนมาส่งออกสินค้าไปบังคลาเทศ โกยรายได้กว่า 2.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา เมียนมาส่งออกสินค้าไปบังคลาเทศคิดเป็นมูลค่า 2.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านด่านชายแดนชเวมิงกันของเมืองซิตเวย์มูลค่า 1.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และด่านชายแดนกันยินชวงของเมืองหม่องตอมูลค่า 0.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยชายแดนหม่องตอได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนและปัญหาคมนาคมที่แออัด ดังนั้นการค้าผ่านชายซิตเวย์จึงเพิ่มขึ้น และที่ผ่านมาเมียนมาได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด โดยมีสินค้าประมงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ ทั้งนี้ ในการส่งออกสินค้าไปบังคลาเทศ ประกอบไปด้วย ปลาจะละเม็ดขาว ปลากะตัก ปลาแห้ง ถั่ว มะพร้าว ลูกเนียง ไม้กวาด เห็ด ขิง หัวหอม ถั่วชิกพี พลัมแห้ง เมล็ดมะขาม รองเท้า ชุดลองยี (ชุดประจำชาติของเมียนมา)  ทานาคา กาแฟสำเร็จรูป เมล็ดทานตะวัน และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในขณะเดียวกัน สินค้านำเข้า คือเครื่องนุ่งห่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ท่อพีวีซี ถังเก็บน้ำพลาสติก และปั๊มน้ำแบบโยก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-earns-2-11-mln-from-exports-to-bangladesh-in-sept/

รัฐบาลคาดเศรษฐกิจสปป.ลาว ปี 65 โต 4.4%

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการลงทุน กระทรวงวางแผนและการลงทุน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เปิดเผยว่ารัฐบาลได้คาดการณ์ตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจ ขยายตัว 4.4% ในปี 2565 ถึงแม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมอยู่ที่ 4.5% โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ขยายตัว 4.5% และชะลอตัวเหลือ 4.2% ในไตรมาสที่สอง และ 3.8% ในไตรมาสที่สาม ทั้งนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจได้รับแรงหนุนมาจากภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้แล้วเป็นบางส่วน หลังจากยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางที่บังคับใช้ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรค นอกจากนี้ ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการส่งออกผลิตภัณฑ์จากเหมืองแร่และพลังงานมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สปป.ลาว ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก รวมถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน การแพร่ระบาดของโควิดและภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten208_Economy.php