‘เวียดนาม’ เผยยอดค้าต่างประเทศ ทะลุ 500 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่าการส่งออกและการนำเข้าของเวียดนาม อยู่ที่ 523 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากข้อมูลตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเดือน ต.ค. พบว่า เวียดนามมีมูลค่าการส่งออก 272.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงราว 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 250.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้า 22.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ โทรศัพท์และชิ้นส่วนเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้มากที่สุด มีมูลค่า 41.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและอะไหล่ เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีการเติบโตมากที่สุดในกลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม เพิ่มขึ้น 75.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/viet-nam-s-foreign-trade-exceeds-us-500-bln-2206129.html

‘ปานปรีย์’ เตรียมเยือนเวียดนาม สัปดาห์นี้

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศของไทย ได้เตรียมเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 ต.ค.66 ตามคำเชิญของนายบุ่ย แทงห์ เซิน รมว.การต่างประเทศของเวียดนาม โดยการเยือนในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของนายปานปรีย์ พหิทธานุกร นับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศของไทยในเดือน ก.ย. ปีนี้

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายรักษาการแลกเปลี่ยนและการติดต่อระหว่างผู้นำระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ ประสานงานอย่างใกล้ชิด และสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ โดยเฉพาะกลไกอนุภูมิภาคอาเซียนและลุ่มน้ำโขง ซึ่งมีส่วนในการเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในอาเซียน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/thai-deputy-prime-minister-and-foreign-minister-to-visit-viet-nam-this-week-2206126.html

‘แบงก์ชาติเวียดนาม’ เผยหนี้เสียในระบบ พุ่ง 3.56%

จากข้อมูลของธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) เปิดเผยว่าอัตราส่วนหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์ เพิ่มขึ้นจาก 2% เมื่อต้นปีนี้ ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.56% หรือมากกว่า 440 ล้านล้านด่อง ณ สิ้นเดือนก.ค.66 รวมไปถึงหนี้เสียที่ธนาคารพาณิชย์ขายให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ (VAMC) และยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้เสียในระบบได้ ส่งผลให้อัตราหนี้เสียเพิ่มขึ้น 6.16% ทั้งนี้ นาง เหงียน ถิ ห่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเวียดนาม เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 21 ก.ย.66 พบว่ายอดสินเชื่อคงค้างในระบบ มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 12.62 พันล้านล้านด่อง เพิ่มขึ้น 5.91% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะหนี้เสียในภาคอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1605583/bad-debt-ratio-of-banking-system-surges-to-3-56-per-cent.html

‘อุตสาหกรรมเหล็กเวียดนาม’ จะกลับมาฟื้นตัวในปี 67

สมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) เปิดเผยว่าผลผลิตเหล็กในเดือนกันยายน จำนวนรวมทั้งสิ้น 2.34 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และลดลง 4.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การบริโภคเหล็ก ปริมาณ 2.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 9.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยผลผลิตเหล็กในเดือนดังกล่าวได้รับแรงกระตุ้นมาจากนโยบายของภาครัฐฯ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาคอขวดและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย. ตลอดจนเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินลงทุนสาธารณะ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมขนส่ง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/steel-industry-expected-to-recover-in-2024/270051.vnp

‘การค้าเวียดนาม-ยูเค’ พุ่ง 16.6%

จากข้อมูลของกระทรวงการค้าระหว่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าการค้าระหว่างเวียดนามและสหราชอาณาจักรมีการเติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจากข้อมูลทางสถิตืแสดงให้เห็นว่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศในชวงไตรมาสที่ 4 จนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 6.7 พันล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 8.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเวียดนามและสหราชอาณาจักรที่มีความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและความพยายามในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหราชอาณาจักร (UKVFTA) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 นอกจากนี้ การลงนามอย่างเป็นทางการล่าสุดของสหราชอาณาจักร คือ ข้อตกลงแบบครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าให้กับสมาชิกในกลุ่ม รวมถึงเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1605565/viet-nam-uk-trade-surges-16-6-per-cent-in-one-year.html

คาดการท่องเที่ยวสีเขียวจะกลายเป็นเทรนด์สำคัญของระบบเศรษฐกิจเวียดนาม

ท่ามกลางเทรนด์การท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) ที่เพิ่มขึ้น หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางการเวียดนามได้ออกนโยบายและกลยุทธ์ รวมถึงมาตรการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวสีเขียว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวของเวียดนามเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ที่เกิดขึ้นจากทั้งนักท่องเที่ยว ด้านผู้เชี่ยวชาญเสริมว่ารูปแบบการท่องเที่ยวของเวียดนามจำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งเน้นไปที่ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีอยู่เป็นหลัก โดยการพัฒนาการท่องเที่ยวสีเขียวและเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสังคม จึงเป็นหนทางเดียวสำหรับการผลักดันการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว เพื่อให้กลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศในอนาคต ด้านสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยว ภายใต้สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) ได้ทำการสำรวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อจะนำความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวนำมาพัฒนาภาคการท่องเที่ยวในประเทศ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/green-sustainable-tourism-becomes-major-trend-in-vietnam-2204088.html

IMF คงการคาดการณ์ GDP เวียดนามไว้ที่ 4.7% ในปีนี้

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังคงคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของเวียดนามไว้ที่ร้อยละ 4.7 สำหรับในปี 2023 สำหรับระยะกลาง IMF คาดการณ์การเติบโตของ GDP เวียดนามไว้ที่ร้อยละ 5.8 และ 6.9 ในปี 2024 และ ปี 2025 ตามลำดับ ตามรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจระดับภูมิภาคของ IMF ด้าน Shanaka Peiris หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ IMF กล่าวว่า มีสัญญาณมากมายของการฟื้นตัวในระบบเศรษฐกิจเวียดนาม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 แต่ยังคงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับการเติบโตในปีนี้ เนื่องด้วยเวียดนามกำลังเผชิญกับความยากลำบากสำหรับภาคการส่งออก อสังหาริมทรัพย์ และการเงิน ภายใต้การฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของ GDP เวียดนามในปี 2023 ไว้ที่ร้อยละ 5.8 จากการประมาณการครั้งก่อนที่ได้กำหนดไว้ที่ร้อยละ 6.5 ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ที่มา : https://english.news.cn/20231019/cc8d98e2736a436c8f33b4fa6793c4bc/c.html

‘เวียดนาม’ จ่อขยายเวลาหั่น VAT จนถึง มิ.ย. สูญเสียรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

รัฐบาลเวียดนาม ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่ามีแผนที่จะขยายเวลาการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการผลิตภายในประเทศ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงซบเซา ซึ่งการขยายเวลาการลดภาษีดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ภาษีมูลค่าเพิ่มลดลงจาก 10% เป็น 8% มีผลตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค. 2566 ทั้งนี้ การปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่มในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และยังส่งผลกระทบต่องบประมาณรายรับของรัฐบาลที่ลดลง 25 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 1.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Economy/Vietnam-to-extend-VAT-cut-until-June-despite-1bn-revenue-loss?fbclid=IwAR2dq0G_GS-qP1B38OS5ak2BUxtFDb7UwtX2504m-uyMciiFRuwtsHkNbzg

วิกฤตขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าในเวียดนาม ทรุดตัวต่อเนื่องจนถึงปี 2050

คณะกรรมการกำกับดูแลของสมัชชาแห่งชาติ รายงานว่าแหล่งทรัพยากรพลังงานปฐมภูมิที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติกำลังจะหมดไป เนื่องจากไฟฟ้าพลังน้ำถูกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว รวมไปถึงปริมาณน้ำมันและก๊าซจากแหล่งพลังงานหลักลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่จากรายงานของธนาคารโลก ประจำเดือน ส.ค. มีการประเมินความสูญเสียของเวียดนาม พบว่าเวียดนามสูญเสียรายได้จากวิกฤตพลังงานไฟฟ้าขาดแคลนประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 0.3% ของ GDP โดยผู้เชี่ยวชาญได้เตือนถึงการขาดแคลนไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในภาคเหนือของประเทศ ทำให้จะไม่มีการจัดตั้งโรงงานใหม่เกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจำเป็นที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และอาจทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าได้จนถึงปี 2050

ที่มา : https://www.retailnews.asia/power-shortage-in-vietnam-looms-until-2050/

‘เวียดนาม’ จ่อขยายเวลาหั่น VAT จนถึง มิ.ย. สูญเสียรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

รัฐบาลเวียดนาม ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่ามีแผนที่จะขยายเวลาการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการผลิตภายในประเทศ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงซบเซา ซึ่งการขยายเวลาการลดภาษีดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ภาษีมูลค่าเพิ่มลดลงจาก 10% เป็น 8% มีผลตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค. 2566

ทั้งนี้ การปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่มในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และยังส่งผลกระทบต่องบประมาณรายรับของรัฐบาลที่ลดลง 25 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 1.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Economy/Vietnam-to-extend-VAT-cut-until-June-despite-1bn-revenue-loss?fbclid=IwAR2dq0G_GS-qP1B38OS5ak2BUxtFDb7UwtX2504m-uyMciiFRuwtsHkNbzg