เวียดนามเผยครึ่งแรกของปี GDP ขยายตัว 5.8%

กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม คาดว่าจะขยายตัว 5.8% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ซึ่งต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้ง สำนักงาน MPI คาดการณ์ว่าภาคเกษตร ป่าไม้และประมง ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนแรก แต่คงเผชิญกับปัญหาทางด้านการบริโภค และคาดว่าจะเติบโตประมาณ 3% ในครึ่งแรก ในขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง คาดว่าจะเติบโต 7.85% ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 0.71% สาเหตุจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึงแม้ว่าจะพยายามฟื้นฟูมาหลายครั้งแล้วก็ตาม ส่วนภาคบริการ คาดว่าจะเติบโตราว 5% นอกจากนี้ สำนักงาน คาดว่าการบริโภคจะยังคงดีดตัวกลับมา ยอดค้าปลีกสินค้าและบริการโดยรวม คาดว่าจะเติบโตราว 7.1% อย่างไรก็ตาม ภาคบริการ (การท่องเที่ยว การคมนาคมและการขนส่ง) จะยังคงประสบปัญหา เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/first-half-gdp-growth-for-vietnam-projected-at-58-865765.vov

ข้าวเวียดนาม เผชิญการแข่งขันจากอินเดียและฟิลิปปินส์

ตามรายงานของสำนักงานส่งเสริมแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ชี้ให้เห็นว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอดการส่งออกข้าวของเวียดนาม อยู่ที่ 2.7 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าราว 1.48 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11.3% ในด้านปริมาณ และ 5% ในด้านมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ ราคาข้าวของเวียดนามนั้น สูงกว่าราคาข้าวของอินเดียและไทยค่อนข้างมาก ข้าวเวียดนาม 1 ตัน สูงกว่าข้าวไทย 20 เหรียญสหรัฐ และสูงกว่าข้าวอินเดีย 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน หากเฉลี่ยราคาข้าวของเวียดนามในช่วง 4 เดือยแรกของปีนี้ แตะ 543 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 15.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆนี้ ฟิลิปปินส์ประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าแก่กลุ่มประเทศในอาเซียนและนอกอาเซียน ตลอดจนประเทศที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง (MFN) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการนำเข้าข้าวราคาถูกจากอินเดียและปากีสถาน อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังคงเป็นผู้จัดหาข้าวรายใหญ่ที่สุดให้แก่ฟิลิปปินส์ แต่ว่าฟิลิปปินส์ยังรับซื้อข้าวจากไทยและอินเดีย รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/vietnamese-rice-faces-competition-from-india-in-philippines-4293486.html

ราคามะเขือเทศพุ่ง 10,000 จัต ในปีนี้

มะเขือเทศที่เก็บเกี่ยวกำลังเข้าสู่ตลาดขายส่งอาหารสด Thiri Marlar ราคามะเขือเทศเพิ่มขึ้นในปีนี้ ในปีนี้ราคาเพิ่มขึ้น 10,000 จัตจากปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ราคาของมะเขือเทศเหล่านั้นอยู่ระหว่าง 23,000 ถึง 25,000 จัตต่อกล่อง (บรรจุ 18 visses) อย่างไรก็ตามในปีนี้ราคาอยู่ที่ 33,000 หรือ 35,000 จัตต่อกล่อง มะเขือเทศส่วนใหญ่จากอินเลย์ การเพิ่มขึ้นของราคาอาจเกิดจากการค่าขนส่ง นอกจากนี้ ผักสดอื่นๆ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และแครอท ก็ได้ราคาดีจนเป็นที่น่าพอใจให้กับเกษตกร

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/tomato-price-rises-by-over-k-10000-this-year/

ราคาส่งออกข้าวคุณภาพต่ำ ตรึงอยู่ที่ 23,000 จัตต่อถุง เนื่องจากธนาคาร จำกัดการทำธุรกรรมการเงิน

ราคาส่งออกข้าวคุณภาพต่ำยังไม่กระเตื้องขึ้น และถูกตรึงไว้ที่ 23,000 จัตต่อถุง 108 ปอนด์ เนื่องจากไม่สามารถถอนเงินจากธนาคารได้ ดังนั้นผู้ค้าข้าวกำลังเผชิญกับการซื้อขายที่จำกัดและไม่สามารถชำระเงินสดสำหรับการซื้อขายได้ แม้จะมีความพยายามเชื่อมต่อกับ Myanmar Economic Bank และธนาคารเอกชนอื่นๆ แต่ก็ไม่สามารถเบิกเงินสดได้ นอกจากนี้ยังมีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถซื้อข้าวได้และยังมีบริษัทที่ซื้อข้าวส่งออกไปยังบังกลาเทศอีกด้วย ดังนั้นราคาข้าวส่งออกจึงไม่สามารถแข่งขันได้มากนัก ก่อนหน้านี้การซื้อขายข้าวและข้าวหักประมาณ 80,000 ถุงทุกวันที่ศูนย์ค้าส่งข้าวบุเรงนอง แต่ปัจุบันเหลือประมาณ 30,000 ถุง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/price-of-exported-low-quality-rice-stands-at-k23000-per-108-pound-bag-due-to-bank-withdrawal-limit/

‘กรมเจรจาฯ’ เตรียมจัดระดมความคิดเห็นออนไลน์ การจัดทำ FTA อาเซียน-แคนาดา

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเตรียมจัดสัมนาเรื่อง “การจัดทำ FTA อาเซียน-แคนาดา” เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนทั้ง แสดงความคิดเห็นก่อนใช้ประกอบในผลการศึกษาข้อดีข้อเสียและใช้เป็นท่าทีประกอบการตัดสินใจในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-แคนาดา ในเดือน ก.ย. นี้ แคนาดาเป็นประเทศที่ยังไม่มี FTA กับไทยมาก่อน จึงมีบางประเด็นที่ไทยต้องใช้ความรอบคอบในการเจรจาร่วมกับอาเซียน เช่น การเปิดตลาดสินค้าสุกรที่มีสารเร่งเนื้อแดง การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการเข้าถึงยาและการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ ซึ่งเป็นทั้งโอกาศที่ดีและน่ากังวลของผู้ส่งออกไทยหากมีการจัดทำ FTA

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/beco/3230284

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม เผยยอดขายรถยนต์ พ.ค. ลดลง 15%

จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม เผยว่าในเดือนพฤษภาคม ตัวเลขยอดขายรถยนต์ ลดลง 15% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน มาอยู่ที่ 15,585 คัน เนื่องจากได้รับผลกระทบของโควิด-19 และการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ หรือสารกึ่งตัวนำที่ใช้ในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม สมาชิกของสมาคมดังกล่าว มียอดขายรถยนต์เพียง 126,894 คัน เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์เชิงพาณิชย์และรถยนต์เฉพาะกิจ เพิ่มขึ้น 51%, 56% และ 59% ตามลำดับ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม มองว่าสภาวะโควิด-19 ระบาด จะส่งผลกระทบต่อปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/auto-sales-down-15-pct-in-may-vama/202847.vnp

ICAEW คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนาม โต 7.6% ปีนี้

ตามรายงานของสมาคมผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศอังกฤษ (ICAEW) เปิดเผยว่าถึงแม้จะได้รับผลกระทบทางลบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) คาดว่าจะขยายตัว 7.6% ในปีนี้ ถือเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ สิ่งที่โดดเด่นที่สุด คือ เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่มีการเติบโตไปในทิศทางที่ดีในปี 2563 เนื่องจากประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับอนิสงค์จากการทำกิจกรรมทางธุรกิจระดับโลก พร้อมกับการลงทุนจากต่างชาติ และยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออก

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/icaew-vietnams-gdp-likely-to-expand-76-in-2021-864890.vov

ราคาข้าวในประเทศพุ่ง 2,000 จัตต่อถุง

ราคาข้าในประเทศเพิ่มขึ้น 2,000 วอนต่อถุง ปัจจุบันราคาข้าวมีมูลค่า 32,000-35,000 จัตต่อถุซึ่งงเป็นที่ต้องการของตลาดมาก คาดราคาข้าวดีดตัวก่อนเทศกาลติงจัน (เทศกาลปีใหม่เมียนมาในเดือนเมษายน) หลังจากนั้นไม่นาน ราคามักจะสูงขึ้น ในช่วงต้นมรสุม มักพบสต๊อกข้าวอยู่ในโรงสีแทนที่จะเป็นชาวนา ดังนั้น การขึ้นราคาจึงเกิดขึ้นท่ในช่วงที่อุปทานต่ำ ราคาข้าวมักจะพุ่งสู่จุดสูงสุดในเทศกาลติงจันและทาซวงแดง (ต.ค.-พ.ย.) แต่เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวราคาก็จะตกต่ำลง ราคาอาจยังคงสูงอยู่ในขณะนี้ แต่ความต้องการในตลาดค้าปลีกนั้นไม่ค่อยดีนัก การส่งออกยังไม่แข็งแกร่งเช่นกัน ส่งผลให้ราคาไม่ดีดตัวขึ้นท่ามกลางอุปสงค์ที่ยังต่ำอยู่ ก่อนหน้านี้มีการซื้อขายข้าวและข้าวหักประมาณ 80,000 ถุงต่อวันที่ศูนย์ค้าส่งข้าวบุเรงนอง ในทางตรงกันข้ามปัจจุบันมีความต้องการลดลงเหลือประมาณ 30,000 ถุง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/domestic-rice-prices-up-by-k2000-per-bag/#article-title

เงินทุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ลาวบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนร้อยละ 50

ธนาคารโลกมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือสปป.ลาวในการป้องกันการแพร่กระจายของ Covid-19 ร่วมถึงด้านการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมโดยเร็วที่สุดตามข้อตกลงระหว่างธนาคารโลกและรัฐบาลสปป.ลาว หลังจากได้รับการอนุมัติโครงการรับมือโควิด-19 เบื้องต้นมูลค่า 18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2563 รัฐบาลสปป.ลาวได้ขอทรัพยากรเพิ่มเติมในปีนี้เพื่อขยายประสิทธิภาพในการวัคซีน เงินทุนนี้จะนำไปใช้เพื่อจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้เพียงพอเพื่อให้สปป.ลาวฉีดวัคซีนได้ร้อยละ 50 ของประชากรทั้งหมด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Additional112.php

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาวางแผนเปิดตลาดอีคอมเมิร์ซ

กระทรวงพาณิชย์วางแผนเปิดตัวแอป “Cambodia Trade” ซึ่งถือเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีเป้าหมายเพื่อให้บริการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนผ่านช่องทางออนไลน์ให้กับลูกค้าที่มีศักยภาพในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ โดยกระทรวงเรียกร้องให้ผู้ที่ต้องการขายสินค้าในตลาดอีคอมเมิร์ซทำการลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อให้มีสิทธิ์ในการใช้แอปที่ www.CambodiaTrade.com ซึ่ง SMEs จะต้องเป็นบริษัทหรือองค์กรที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งแพลตฟอร์มได้รับการพัฒนาโดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Enhanced Integrated Framework ภายใต้โครงการ Go4eCAM โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการตระหนักถึงประโยชน์ของอีคอมเมิร์ซสำหรับ SMEs

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50871464/ministry-of-commerce-to-launch-e-commerce-marketplace/