กัมพูชาคาดโครงการรูปแบบ Mixed-Use จะเป็นตัวผลักดันการเติบโตภาคอสังหาฯ

ภาคการก่อสร้างคาดว่าจะเติบโตในปีนี้ตามการคาดการณ์ของทางการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาคารแบบผสมผสาน (Mixed-Use) โดยภาคการก่อสร้างหดตัวในปีที่แล้ว มีส่วนทำให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกัมพูชาหดตัวตามไปด้วย ซึ่งหดตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.3 ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา เนื่องจากภาคการก่อสร้างที่ถือเป็นเสาหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยกระทรวงฯ คาดว่าโครงการภาคอสังหารมทรัพย์ต่างๆจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2021 และมีส่วนช่วยในการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณร้อยละ 3.3 ในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50825395/mixed-use-buildings-forecast-to-drive-construction-growth/

5สัญญาณรัฐประหารทุบเศรษฐกิจเมียนมา

การรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของกองทัพเมียนมาเมื่อวันที่ 1ก.พ.ที่ทำให้ดินแดนนี้ตกอยู่ในสภาพวุ่นวาย มีการชุมนุมประท้วงทุกวันและมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและทหาร-ตำรวจแทบทุกวัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ที่สำคัญกว่านั้น การรัฐประหารที่เกิดขึ้นกำลังสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจของเมียนมา จากข้อมูลของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)บ่งชี้่ว่าเมียนมา ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาน้อยที่สุดของโลกแต่การที่เมียนมาค่อยๆปรับเปลี่ยนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยก็สร้างความหวังแก่โลกว่าในไม่ช้าเศรษฐกิจของเมียนมาจะเติบโตเหมือนเพื่อนบ้านในอาเซียน ขณะที่ ตั้งแต่สิงคโปร์ ประเทศที่เข้าไปลงทุนโดยตรงในเมียนมารายใหญ่สุด จนถึงญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ายังมองไม่เห็นอนาคตของเมียนมา เนื่องจากคนงานจำนวนมากในเมียนมา ถ้าไม่ผละงานออกไปร่วมชุมนุมประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐประหารก็หนีกลับบ้านเกิดในช่วงที่ทางการใช้กำลังเข้าปราบปราม สิ่งเหล่านี้ทำให้กิจกรรมทางธุรกิจสะดุ ทั้งนี้ 5 สัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของเมียนมาได้รับผลกระทบจากการทำรัฐประหารยึดอำนาจของกองทัพ 1) ดัชนีพีเอ็มไอร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 2) การจดทะเบียนธุรกิจใหม่ลดลง86% 3) การลงทุนหดหาย 4) ปริมาณการค้าหุ้นดิ่ง60% 5) ความสามารถในการตรวจโควิดลด90%

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/927525

“ภาคอิเล็กทรอนิกส์” ดันอุตสาหกรรมโดยรวมของเมืองโฮจิมินห์

การผลิตอิเล็กทรอนิกส์ในเมืองโฮจิมินห์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ สาเหตุหลักมาจากการรักษาเสถียรภาพของตลาดส่งออกและการส่งเสริมการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ นาง Nguyễn Thị Xuân Thủy รองผู้​อำนวยการศูนย์ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม กล่าวว่าภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จึงจำเป็นที่ต้องตัดเงินเดือนพนักงาน ดังนั้น ธุรกิจต้องเร่งหาตลาดใหม่และค้นหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ เพื่อรับมือกับปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเติบโตในอัตรา 32.4% ส่งผลในทิศทางที่ดีขึ้นต่อ 4 อุตสาหกรรมหลักในเมืองโฮจิมินห์ ถึง 7.8% และปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/903910/electronics-lead-hcm-city-industrial-revival.html

“Foxconn” เข้ามาลงทุนในเวียดนาม เพิ่มอีกกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ

“Foxconn” ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิปคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลก มีแผนที่จะลงทุนในเวียดนามเพิ่มอีกกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2550 ทางบริษัทได้เริ่มเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ส่วนใหญ่จะลงทุนในจังหวัดบั๊กนิญ, บั๊กซางและหวิญฟุก ในขณะที่ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว บริษัท Apple เข้ามาลงทุนในเวียดนามอยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ รายรับรวมของบริษัท Foxconn จากกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แตะถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 และ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว รวมถึงคาดว่าในปีนี้ จะมีมูลค่าที่ 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าเพิ่มพนักงานถึง 10,000 คนในปีนี้ นอกจากนี้ คาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทจะทำรายได้เพิ่มขึ้นในเวียดนามกว่า 40 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/903909/foxconn-to-invest-700-million-more-in-viet-nam.html

ญี่ปุ่นพิจารณาตอบโต้การรัฐประหารของเมียนมา

หัวหน้าคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นกล่าวว่ารัฐบาลกำลังติดตามสถานการณ์การรัฐประหารภายในเมียนมาและจะพิจารณาว่าจะตอบสนองต่อสถานการณ์ในเมียนมาอย่างไร ในแง่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและนโยบายโดยติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์พร้อมทั้งคำนึงถึงผลกระทบจากประเทศที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งคำกล่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากเกาหลีใต้กล่าวว่าจะระงับการแลกเปลี่ยนทางด้านกลาโหมกับเมียนมาและทำการห้ามส่งออกอาวุธเข้าประเทศหลังการรัฐประหารเมื่อเดือนที่แล้ว จากการกระทำของรัฐบาลเมียนมาในการจัดการผู้ประท้วงด้วยความรุนแรง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 138 คน ในเมียนมานับตั้งแต่การประท้วงเริ่มต้นขึ้น ตัวเลขผู้เสียชีวิตอ้างอิงจาก กลุ่มสิทธิมนุษยชน สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP)

ที่มา : https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/japan-says-considering-response-to-myanmars-military-coup

EDL-T เซ็นสัญญาสัมปทานกับรัฐบาล

Electricite du Laos Transmission Company Limited (EDL-T) ซึ่งเป็น บริษัท ร่วมทุนระหว่าง China Southern Power Grid (CSG) และ Electricite du Laos (EDL) ได้ทำสัญญาสัมปทานกับรัฐบาลซึ่งถือเป็นก้าวต่อไปในความร่วมมือด้านการส่งไฟฟ้าระหว่างจีนและสปป.ลาว ข้อตกลงดังกล่าวอนุญาตให้ EDL-T ภายใต้การดูแลของรัฐบาลสปป.ลาวทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติ เพื่อลงทุนสร้างและดำเนินการโครงข่ายไฟฟ้า 230kV ขึ้นไปในสปป.ลาว และดำเนินโครงการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างสปป.ลาวและประเทศเพื่อนบ้าน EDL-T จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสปป.ลาวและปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนด้วยการส่งไฟฟ้าที่ปลอดภัยมั่นคงและยั่งยืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_EDL_51.php

Visa กำหนดกลยุทธ์สนับสนุนภาคธุรกิจขนาดเล็กในกัมพูชา

ตามแนวคิดใหม่ Visa กำหนดกลยุทธ์สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กให้สามารถปรับตัวอยู่รอดจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้โดยเร็ว ซึ่งการปรับตัวที่สำคัญในอันดับต้นๆ คือการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การค้าในรูปแบบออนไลน์ ผ่านการชำระเงินในรูปแบบไร้สัมผัส เช่น ผ่านทางมือถือหรือในรูปแบบแตะบัตร โดยบริษัท Visa กล่าวว่าธุรกิจที่ใช้บริการของบริษัทสามารถขยายเครดิตได้สูงถึง 55 วัน โดยปลอดดอกเบี้ยเพื่อช่วยปรับปรุงกระแสเงินสดของธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งบริษัทได้ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเครื่องมือดิจิทัล เช่น G Suite และ Microsoft Office รวมถึงแพลตฟอร์มบัญชีระบบคลาวด์ เช่น Xero และ Sage ซึ่งมาพร้อมกับบัตร Visa ที่จะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนลดและข้อเสนอพิเศษบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopify, Boutir และ Big Commerce นอกจากนี้เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับการอบรมพัฒนาทักษะผ่านหลักสูตร LinkedIn Learning และ HBR Ascend รวมถึงแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ เช่น Google Ads เพื่อระบุและดึงดูดลูกค้าใหม่ทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50824887/visa-profiles-survival-strategies-of-small-businesses-during-pandemic/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นในเดือนมกราคมลดลง

การส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นลดลงในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลที่เปิดเผยโดยองค์การการค้าภายนอกของญี่ปุ่น (JETRO) ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นมูลค่ารวม 138 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมกราคมลดลงร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้าสินค้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่นในช่วงเดียวกันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 37 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 โดยการค้าทวิภาคีรวมอยู่ที่ 176 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2020 ซึ่งรองประธานหอการค้ากัมพูชากล่าวว่าแม้ปริมาณการค้าจะลดลง แต่เชื่อมั่นว่าหลังจากทั่วโลกได้มีการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ไประยะหนึ่งแล้วจะส่งผลให้กิจกรรมทางด้านการค้าระหว่างประเทศฟื้นตัวขึ้นโดยถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ สินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง กระดาษ เครื่องใช้สำนักงาน และเครื่องหนัง ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญของญี่ปุ่นไปยังกัมพูชา ได้แก่ เครื่องจักร รถยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า และพลาสติก เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50824888/cambodias-exports-to-japan-down-in-january/

ค้าชายแดน-ผ่านแดน ฟื้น ม.ค.เพิ่ม 21.90% คาดแนวโน้มโตต่อ

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย เดือนม.ค.2564 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 128,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.90% แบ่งเป็นการส่งออก 74,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.91% และการนำเข้า 54,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.02% ได้ดุลการค้า 19,801 ล้านบาท และหากแยกเฉพาะการค้าชายแดนชายแดน มีมูลค่า 72,224 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.81% และการค้าผ่านแดน มูลค่ารวม 56,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.69% ซึ่งเป็นการขยายตัวเป็นบวก 2 เดือดติดต่อกันนับจากธ.ค.2563 และยังสอดคล้องกับทิศทางการส่งออกที่ขยายตัวเป็นบวก 2 เดือนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ หากดูรายละเอียดการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา) ที่มีมูลค่า 72,224 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.81% พบว่ามาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้า 26,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.65%, สปป.ลาว มูลค่า 16,771 ล้านบาท ลดลง 8.13%, เมียนมา มูลค่า 13,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.90% และกัมพูชา มูลค่า 15,063 ล้านบาท ลดลง 3.90%

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/927263

Vietcombank คว้าแบงก์เวียดนามที่แข็งแกร่งที่สุด ตามงบการเงิน 6 ปีติดต่อกัน

ธนาคารพาณิชย์แห่งรัฐชั้นนำในเวียดนาม “VietcomBank: VCB” เป็นแบงก์ที่ดีที่สุดในเวียดนาม และอยู่ในอันดับที่ 55 ในเอเชียแปซิฟิก พิจารณาตามงบการเงินปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันที่คว้ารางวัลนี้ได้ นอกจากนี้ยังเป็น 1 ใน 9 ธนาคารใหญ่ที่สุดจากบรรดาธนาคารในภูมิภาค 500 แห่ง ทั้งนี้ นาย Le Hoang Tung หัวหน้าฝ่ายบัญชีของธนาคารข้างต้น กล่าวว่าท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานและช่วยเหลือผู้กู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสในปีก่อน ซึ่งพิจารณาจากงบการเงินและกลยุทธ์ขององค์กร อีกทั้ง ยังได้รับงบประมาณจากภาครัฐในปีที่แล้ว อยู่ที่ราว 389.08 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่สินทรัพย์ เงินฝากและเงินกู้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8%, 11% และ 14% ตามลำดับ

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/vietcombank-named-vietnams-strongest-bank-by-balance-sheet-for-six-consecutive-years-843012.vo