“Deutsche Bank” เพิ่มการจัดสรรเงินทุนในเวียดนามเกือบ 2 เท่า กว่า 200 ล้านดอลล์

สำนักข่าว The Business Times รายงานว่า Deutsche Bank เพิ่มการจัดสรรเงินทุนในเวียดนามเกือบ 2 เท่า ทำให้เงินอัดฉีดรวมเป็นกว่า 200 ล้านดอลลาร์ Deutsche Bank กล่าวเมื่อวันจันทร์ (29 พ.ค.) ว่าการเพิ่มทุนจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธนาคารในเวียดนาม และช่วยให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้นสำหรับลูกค้า โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากรายได้ของสาขาเอเชียแปซิฟิกของธนาคารเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยเวียดนามเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญสำหรับภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ Alexander von zur Muehlen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Deutsche Bank กล่าวว่าการลงทุนในเวียดนามครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเราต่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วของตลาดนี้และเส้นทางการเติบโตในระยะยาว เวียดนามเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา การเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถรองรับแผนการขยายธุรกิจของลูกค้าในประเทศได้ดีขึ้น และเช่นเดียวกันกับเศรษฐกิจเวียดนามในวงกว้าง

อีกทั้งการพัฒนาของเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก รวมถึง Adani Group ซึ่งมีรายงานว่ากำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการลงทุนมูลค่าสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการท่าเรือและพลังงานหมุนเวียนในประเทศ

ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/2023/41265/

เงินเฟ้อ ‘เวียดนาม’ เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.01%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของเวียดนาม (CPI) เดือนพฤษภาคม ปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากราคาอาหาร ค่าไฟฟ้าและน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานฯ ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อตั้งแต่ต้นปีนี้มีทิศทางที่ชะลอตัวลง โดยในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 4.89%, เดือน ก.พ. 4.31%, เดือน มี.ค. 3.35%, เดือน เม.ย. 2.81% และเดือนพ.ค. 2.43%

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนพฤษภาคม ปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.83% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของดัชนีราคาผู้บริโภค 3.55%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/cpi-increases-by-001-in-may/253788.vnp

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปี 66 ยอดผู้โดยสารเข้าประเทศ พุ่ง 45.5 ล้านคน

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณผู้โดยสาร รวม 45.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจากตัวเลขข้างต้น มีชาวต่างชาติ 12 ล้านคน และคนในประเทศ 33.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 679.6% และ 33.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. สายการบินเวียดนามให้บริการผู้โดยสาร รวมทั้งสิ้น 22.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดนั้น มีผู้โดยสารในประเทศ 16.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีผู้โดยสารชาวต่างชาติ 5.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5,525.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังมีการจำกัดการเดินทางที่ยาวนานกว่า 2 ปี อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการสายการบินดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1544347/air-passenger-volume-soars-during-first-five-months.html

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปี 66 ดึงดูดเม็ดเงินทุน FDI แตะ 10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ (FIA) เปิดเผยข้อมูลเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามายังเวียดนามตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวันที่ 20 พ.ค.66 รวมถึงการลงทุนใหม่ การปรับเพิ่มเงินลงทุนและการซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ พบว่ามีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นราว 10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 10.6 จุดเมื่อเทียบกับตัวเลขในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้

ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่ามากกว่า 6.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาภาคการเงินธนาคาร อสังหาริมทรัพย์และวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี ในขณะที่สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ลงทุนไปกว่า 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยญี่ปุ่นและจีน อีกทั้ง ฮานอย (Hanoi) เป็นเมืองที่ได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด มีมูลค่ากว่า 1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 17.2% ของเงินลงทุนรวม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1544340/viet-nam-s-five-month-fdi-reached-nearly-us-10-86-billion.html

‘ผู้ส่งออกทุเรียนไทย’ เผชิญกับภัยคุกคามจากเวียดนาม ฟิลิปปินส์ในตลาดจีน

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดว่าเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนไทย จำเป็นต้องรักษาคุณภาพของผลไม้ให้อยู่ในระดับสูง เนื่องจากเผชิญกับภัยคุกคามจากคู่แข่งสำคัญ ได้แก่ เวียดนามและฟิลิปปินส์ในตลาดจีน ในขณะที่จากรายงานของสำนักส่งเสริมการค้า ณ นครหนานหนิง ระบุว่าราคาขายส่งทุเรียนในตลาดจีนปรับตัวลดลงในช่วงต้นเดือน พ.ค. สาเหตุสำคัญมาจากผลผลิตผลไม้ที่เพิ่มขึ้น หลังจากผู้ค้าส่งจีนมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากเวียดนามและฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ ราคาทุเรียนหมอนทองของไทยในเดือน พ.ค. ลดลงเหลือราว 36-48 หยวน หรือประมาณ 177-266 บาทต่อกิโลกรัม ขณะเดียวกันราคาทุเรียนหมอนทองจากเวียดนาม อยู่ที่ประมาณ 32-41 หยวนต่อกิโลกรัม ตามมาด้วยราคาทุเรียนพันธุ์ปูยัตจากฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 37-45 หยวนต่อกิโลกรัม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1541981/viet-nam-will-continue-to-be-prime-destination-for-fdi-vinacapital.html

EIU ชี้ ‘เวียดนาม’ พิสูจน์ให้เห็นถึงการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ

จากการจัดอันดับประจำปีของ Economist Intelligence Unit (EIU) ระบุว่าอันดับของเวียดนามเลื่อนขึ้น 12 อันดับจากการจัดอันดับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ วัดโดยใช้ตัวชี้วัด 91 ตัวชี้วัดที่สำคัญ รายงานดังกล่าวได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของประเทศเวียดนาม ไทยและอินเดียที่เป็นประเทศในเอเชียที่มีความก้าวหน้าในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ทั้งนี้ ประเทศไทยเลื่อนขึ้น 10 อันดับ และอินเดียเลื่อนขึ้น 6 อันดับ ในขณะที่สิงคโปร์อยู่ในอันดับต้นๆ ของการจัดอันดับในครั้งนี้ นอกจากนี้ หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FIA) เปิดเผยว่ามีจำนวน 750 โครงการใหม่ที่ได้รับใบอนุญาตการลงทุน เป็นมูลค่ากว่า 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 65.2% และ 11.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-shows-significant-improvement-in-business-environment-eiu/253531.vnp

VinaCapital มองเวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนจากต่างประเทศ

Michael Kokalari หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุน Vinacapital กล่าวว่าการกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไปยังเวียดนาม เนื่องจากความเป็นจริงที่ว่าแรงจูงใจทางด้านภาษีไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัจจัยในการดึงดูดให้มีการตั้งโรงงานในเวียดนาม ตามการวิเคราะห์บ่งชี้ให้เห็นว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยง 2 ประการที่อาจมีผลกระทบต่อการไหลเข้าของ FDI ในอนาคต ดังต่อไปนี้ ประการแรก เวียดนามอาจสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันในฐานะจุดหมายปลายทาง FDI เมื่อเทียบกับประเทศอินเดีย มาเลเซียและอินโดนีเซีย ประการที่สอง คือ อัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกฉบับใหม่ที่จะลดความน่าดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยจำกัดการจูงใจทางด้านภาษีแก่นักลงทุน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1541981/viet-nam-will-continue-to-be-prime-destination-for-fdi-vinacapital.html

‘เวียดนาม’ เป็น 1 ใน 6 ตลาดท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของไทย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่มาจากประเทศในเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดียและเวียดนาม เป็นต้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เพิ่มขึ้น จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยในปีนี้ ทั้งนี้ จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยถึง 5.3 ล้านคนในปีนี้ ตามมาด้วยชาวซาอุดีอาระเบีย 150,000 คน และชาวยุโรป 6 ล้านคน นอกจากนี้ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองว่าการททท. กล่าวในงาน “Amazing Thailand Festival 2023” ที่จัดขึ้น ณ นครโฮจิมินห์ ว่าเวียดนามเป็น 1 ใน 6 ตลาดท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย แสดงให้เห็นจากข้อมูลพบว่าไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.47 ล้านคน รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 84,221 คน และหากพิจารณาข้อมูลสะสมตั้งแต่ต้นปีนี้ ประเทศไทยทำรายได้จากการท่องเที่ยว อยู่ที่ราว 391 พันล้านบาท (11.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-among-six-largest-thai-tourism-markets-2146203.html

‘Apple’ มองเวียดนามขึ้นแท่นตลาดร้อนแรงในเอเชีย

บริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีสหรัฐฯ ‘แอปเปิล’ (Apple) ได้เปิดตัวร้านค้าออนไลน์ในเวียดนาม เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกของเวียดนามที่มีโอกาสซื้อผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลโดยตรง การเปิดตัวในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีการเปิดร้านค้าปลีกแห่งแรกในอินเดีย ทำให้บริษัทรับทราบถึงความต้องการของตลาดเกิดใหม่ โดยตลาดต่างๆ ได้แก่ เวียดนาม อินเดียและอินโดนีเซีย เป็นตลาดที่มีความสำคัญมากขึ้นแก่แอปเปิล เนื่องจากตลาดจีนชะลอตัวลง ทั้งนี้ คุณ Chiew Le Xuan นักวิเคราะห์ของ Canalys มองว่าการเปิดร้านค้าออนไลน์ของแอปเปิลในเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องการที่จะเชื่อมโยงกับตลาดเกิดใหม่มากขึ้น และยังมุ่งมั่นในการเข้ามาทำธุรกิจในภูมิภาคในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งการส่งเสริมการจัดจำหน่ายและเครือข่ายผู้ค้าปลีก โดยเฉพาะตลาดมาเลเซีย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-emerges-as-a-rising-market-for-apple-post1021861.vov

“เวียดนาม-ไทย” แสวงหาความร่วมมือในทุกมิติ

นายฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย พบปะหารือกับนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการลงทุน การค้า เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว วัฒนกรรมและการแลกเปลี่ยนบุคลากร ระหว่างส่วนท้องถิ่นของทั้งสองประเทศ ผู้ว่าฯ ได้ต้อนรับการมาเยือนของคณะผู้แทนเวียดนามในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ ครบรอบ 133 ปี พร้อมเสริมว่าอนุสรณ์สถานที่อุทิศให้กับผู้นำเวียดนามผู้ล่วงลับและหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนามในจังหวัดนครพนม อีกทั้ง เอกอัครราชทูตเวียดนามได้เน้นย้ำถึงผลความสำเร็จของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในภาคส่วนต่างๆ และยังกล่าวว่าจังหวัดนครพนมมีข้อได้เปรียบอย่างมากในด้านการร่ววมือกับท้องถิ่นเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-thai-localities-seek-multifaceted-cooperation/253399.vnp