BCEL ร่วมมือ Swift Pass เปิดใช้งานการชำระเงินผ่าน WeChat Pay และ AliPay

BCEL ร่วมมือกับ Swift Pass เพื่อเปิดใช้งานการชำระเงินผ่าน WeChat Pay และ AliPay เพื่อให้ร้านค้าสปป.ลาวและธุรกิจอื่น ๆ ดึงดูดลูกค้าชาวจีนมากขึ้น  ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของธนาคารในรูปแบบใหม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ร้านค้าในสปป.ลาวสามารถรับการชำระเงินผ่าน WeChat Pay โดยใช้รหัส QR กับ WeChat Pay และ AliPay ในรหัส QR เดียวกัน นี่เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งของ BCEL ที่จะแนะนำระบบการชำระเงินใหม่โดยใช้ QR Code ผ่านความร่วมมือกับ Swift Pass และ NTT DATA โดยจะช่วยให้ลูกค้าของ BCEL ชำระค่าสินค้าและบริการแบบดิจิทัล นอกจากนี้ยังให้ความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางชาวจีน มีผู้ใช้อย่างน้อย 900 ล้านหมายเลขทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่ใช้แอพยอดนิยมนี้ 

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/bcel-swift-pass-partner-payments-through-wechat-pay-and-alipay-106312

โครงการสร้าง “อุทยานวัฒนธรรมกัมพูชา-จีน” ในเสียมราฐ

สภาเพื่อการพัฒนาประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ดูแลการลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้อนุมัติโครงการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ในเสียมเรียบ ที่ชื่อว่า “อุทยานวัฒนธรรมกัมพูชา-จีน” โดยโครงการนี้จะได้รับการพัฒนาโดย บริษัท Angkor International Culture Investment & Development (Cambodia) Co., Ltd. ด้วยทุนกว่า 27.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโครงการจะได้รับการพัฒนาในชุมชน Sla Kram ในเสียมราฐซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานโบราณคดีอังกอร์ โดยจำนวนตั๋วที่ขายที่อุทยานโบราณคดีอังกอร์ซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของกัมพูชานั้นลดลง 8% จากเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อบัตรผ่านอยู่ที่ 1.2 ล้านคน โดยประเทศจีนยังคงเป็นประเทศที่ติดอันดับยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในเสียมราฐตามด้วยเกาหลีและสหรัฐฯ ซึ่งกว่า 540,000 คนเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50651322/siem-reap-to-welcome-27mln-cambodia-china-cultural-park/

กัมพูชาส่งเสริมการค้าทวิภาคีกับเวียดนามโดยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน

รัฐบาลกัมพูชามีความพยายามที่จะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศรวมถึงการแก้ไขและดำเนินการตามแผนเพื่อผลักดันโครงการทางด่วน พนมเปญ-เบเวต ซึ่งคาดว่าจะเป็นการกระตุ้นธุรกิจการลงทุนและการค้ากับเวียดนาม โดยนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาสั่งให้สถาบันที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในกัมพูชาทบทวนการศึกษาความเป็นไปได้และกำหนดแผนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านธุรกิจและการขนส่งที่ชายแดนกับเวียดนาม ซึ่งเชื่อว่าจะมีการขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากเวียดนามไปยังกัมพูชาโดยตรง โดยการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการดำเนินการโดยหน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งจะมีมูลค่าของโครงการอยู่ที่ 3.8 พันล้านเหรียญ โดยมีความยาวอยู่ที่ 160 กิโลเมตรที่เชื่อมต่อพนมเปญและบาเวต ซึ่งการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเวียดนามมีมูลค่าสูงถึง 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 2560 และเติบโตอย่างรวดเร็วที่ระดับ 2.72 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงหกเดือนแรกของปี 2562 และคาดว่าจะสูงถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50651252/cambodia-boosts-bilateral-trade-with-vietnam-by-improving-infrastructure/

อุตสาหกรรมสิ่งทอเวียดนามได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

จากรายงานของกระทรวงการลงทุนและวางแผนเวียดนาม เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอเวียดนามประสบภาวะเดือดร้อนอย่างหนักจากสงครามการค้า ทั้งจากการส่งออกและการผลิตที่ลดลง เนื่องมาจากความรุนแรงของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามการค้า ทำให้ยอดคำสั่งซื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม (VINATEXT) ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสงครามการค้า โดยอุตสาหกรรมเส้นด้ายทั่วโลกนั้น มีแนวโน้มลดลง เป็นผลมาจากสงครามการค้า และการแข่งขันจากคู่แข่งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน ไทย และเวียดนาม นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติการค้าระหว่างประเทศของสำนักงานศุลกากร ระบุว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มูลค่าการส่งออกสิ่งทอของเวียดนามอยู่ที่ 29.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/textile-industry-hit-by-ongoing-trade-war/162084.vnp

เวียดนามเผยภาคเกษตรกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.02% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากคำแถลงการณ์ของรัฐมนตรีกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) ณ กรุงฮานอย วันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่าภาคเกษตรกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.02 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโรคไข้หวัดหมูแอฟริกา โดยยอดการส่งออกแตะระดับ 30.02 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ ดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ 6.86 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน ผลผลิตเนื้อหมูลดลงร้อยละ 8 เนื่องมาจากผลกระทบของโรคดังกล่าวเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผลผลิตของสินค้าทางการเกษตรอื่นๆต่างเพิ่มขึ้น ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อควาย เนื้อสัตว์ปีก ไข่ และนม เป็นต้น นอกจากนี้ ภาคการประมงได้ตระหนักถึงข้อเสนอแนะจากสหภาพยุโรป ในการพัฒนาเพาะพันธุ์สัตว์น้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้ส่งทีมงานไปยังแหล่งท้องถิ่น เพื่อทำการตรวจสอบผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมาย และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/536915/agriculture-sector-expands-by-202-in-nine-months.html#ksgoB5ZZRiwTDJwf.97

เส้นทางบินใหม่เชื่อมชายแดนยูนนาน – เมียนมา

ปลายเดือนตุลาคมนี้เที่ยวบินตรงใหม่เชื่อมโยงเมืองข้อนเมืองชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลยูนนานของจีนกับย่างกุ้งซึ่งเป็นเมืองหลวงของเมียนมา โดยจะเริ่มวันที่ 27 ตุลาคม กับเที่ยวบิน DR5039 / DR5040 ดำเนินการโดยสายการบิน Ruili Airlines กับเครื่องบินโบอิ้ง 737NG ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ เที่ยวบินออกจากเมืองซ้อน เวลา 9:25 น. (เวลาท้องถิ่น) และกลับจากย่างกุ้งเวลา 10:30 น. (เวลาท้องถิ่น) เส้นทางนี้คาดว่าจะอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ Ruili Airlines ให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ 61 เส้นทางและเส้นทางระหว่างประเทศ 10 เส้นทาง โดยให้บริการเที่ยวบิน 108 เที่ยวบินต่อวันครอบคลุม 39 เมืองในจีน เวียดนาม กัมพูชา ไทย และเมียนมา

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2019-10/15/c_138473455.htm

ค้าชายแดนเมียนมามูลค่าเกือบ 40 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ 61-62

การค้าชายแดนของผู้ค้าชายแดนประเภทบุคคล (ITCs) มีมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านจัต (39.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปีงบประมาณ 61-62 ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ค้าชายแดนประเภทบุคคล (ITCs) 163 แห่งได้รับอนุญาตจากกระทรวงและมีมูลค่ากว่า 9.38 พันล้านจัต (6.25 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 49.6 พันล้านจัต (33.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 61 ถึงวันที่ 30 กันยายน 62 ประตูชายแดนเมียวดีมีการจดทะเบียนการค้าสูงสุดด้วยเงินทุน 32,000 จัต (21.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตั้งแต่ปีงบประมาณ 55-56 กระทรวงได้ออกใบอนุญาตผู้ค้าชายแดนประเภทบุคคลไปแล้ว 1,687 มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 169.2 พันล้านจัต (112.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยทำการค้าชายแดนกับจีน ไทย บังคลาเทศ และอินเดีย ส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์สัตว์ การประมง แร่ธาตุ และผลิตภัณฑ์จากป่าไปยังต่างประเทศ ในขณะที่สินค้าทุนสินค้าขั้นกลางและสินค้าอุปโภคบริโภคจะเป็นการนำเข้าซะส่วนใหญ่

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-10/15/c_138473812.htm

ผู้เชี่ยวชาญสปป.ลาวเน้นความสำคัญของนวัตกรรมเทคโนโลยี

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล นักวิจัย นักเรียนและบุคคลจากภาคเอกชนรวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาในยุคอุตสาหกรรม 4.0 การสัมมนาหัวข้อ“Science, Technology and Innovation in the I.R 4.0” การบรรยายครั้งนี้จัดขึ้นในการประชุมเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์แห่งชาติครั้งที่ 3 และนิทรรศการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสปป.ลาว – ​​จีน จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู้เข้าร่วมมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทความสำคัญและการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมในยุคอุตสาหกรรม 4.0 และการสนับสนุนนักวิจัยเพื่อให้แน่ใจคุณภาพงานและการให้บริการ นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่จะต้องให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและเพื่อขยายความร่วมมือกับรัฐบาลภาคเอกชนและองค์กรในสปป.ลาวและประเทศอื่น ๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสร้างความตระหนักของสาธารณชนถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Experts.php

สปป.ลาว-จีน ร่วมมือในการควบคุมคุณภาพของการส่งออกสินค้าเกษตร

บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกได้ลงนาม โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ และ the Chairman of Yunnan Yuzhan Agriculture Development Co., Ltd ทั้งสองฝ่ายจะสร้างห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการทดสอบสุขอนามัยพืชและสัตว์และศูนย์ฝึกอบรมแบบบูรณาการรวมทั้งจัดนิทรรศการสินค้าเกษตร เจ้าหน้าที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในการตรวจสอบพืช สัตว์และผลิตภัณฑ์จากพืช รวมถึงมาตรฐานด้านสุขอนามัยของผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมาย โครงการดังกล่าวจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสปป.ลาวและจีนและอำนวยความสะดวกในการส่งออกพืช สัตว์และผลิตภัณฑ์พืชไปยังจีน นอกจากนี้ยังจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจการเกษตรของทั้ง 2 ประเทศรวมถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมและส่งผลให้คนในท้องถิ่นมีรายได้มากขึ้น ซึ่งความร่วมมือนี้จะยกระดับมาตรฐานการเกษตรในประเทศสปป.ลาวและสร้างความมั่นใจว่าสินค้าเกษตรมีคุณภาพดีขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos228.php

ปริมาณการขนส่งสินค้าในกัมพูชาเพิ่มขึ้น 18% ที่ PAS

ปริมาณการขนส่งสินค้าที่ Sihanoukville Autonomous Port (PAS) ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของประเทศเพิ่มขึ้น 18% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยประธานสมาคมผู้ขนส่งสินค้ากัมพูชา (CAMFFA) กล่าวว่าการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยสิ่งทอและสินค้าเกษตร ซึ่งสังเกตว่าการเติบโตในภาคการขนส่งเป็นผลมาจากประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของกัมพูชา โดยการนำเข้าและส่งออกของกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 70% ได้ทำการส่งผ่านท่าเรือและกำลังทำการก่อสร้างพื้นที่แห่งใหม่ด้วยการลงทุนประมาณ 203 ล้านเหรียญสหรัฐที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2566 จะช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ของท่าเรือเป็น 900,000 TEUs ต่อปี ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านสัญญาเงินกู้ช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) โดยลงนามกับรัฐบาลกัมพูชาไว้ในปี 2560 ซึ่งในปี 2561 มีจำนวน 541,288 TEUs ผ่าน PAS ซึ่งเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในปี 2563 คาดว่าปริมาณของตู้สินค้าที่ผ่านท่าเรือจะเกินกว่า 700,000 TEUs

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50651165/cargo-traffic-up-18-pct-at-pas-ceo/