เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหัก 250,000 ตัน มูลค่า 133 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม

ตามข้อมูลของสมาพันธ์ข้าวเมียนมา รายงานว่า ในช่วงเดือนมีนาคมของปีนี้ จากบริษัท 55 แห่งของเมียนมามีการส่งออกข้าว 147,041 ตัน และการส่งออกข้าวหัก 109,996 ตัน คิดเป็นยอดรวม 257,037 ตัน สร้างรายได้จากการส่งออกทั้งหมดกว่า 133 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจากยอดรวมดังกล่าวเป็นการค้าต่างประเทศอยู่ที่ 252,993 ตัน และการค้าชายแดนอยู่ที่ 4,077 ตัน ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในการส่งออกข้าวของเมียนมาโดยมีการส่งออกไป 41,000 ตัน, แคเมอรูน 28,645 ตัน, โกตดิวัวร์ 24,000 ตัน, เบลเยียม 9,000 ตัน, สเปน 8,380 ตัน และประเทศอื่นๆ 36,016 ตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ในตลาดส่งออกข้าวหักเมียนมา ส่งออกไปยังเบลเยียม 45,022 ตัน, จีน 33,299 ตัน, สเปน 10,000 ตัน, ฟิลิปปินส์ 4160 ตัน, อินโดนีเซีย 4160 ตัน และประเทศอื่นๆ 133,55 ตันตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-exports-250000-tonnes-of-rice-and-broken-rice-worth-us-133-mln-in-march/

รองผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งเมียนมา เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอาเซียนครั้งที่ 20

ดร. ลิน ออง รองผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งเมียนมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอาเซียน (ACDM) ครั้งที่ 20 และการประชุมเจ้าหน้าที่การเงินและธนาคารกลางอาเซียน (AFCDM) เมื่อวานนี้ โดยรองผู้ว่าการธนาคารกลางลาว กล่าวถึง การจัดหาเงินทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดย่อม ขนาดเล็ก และขนาดกลาง (MSMEs) ในภูมิภาคในปี พ.ศ. 2567 จากนั้น ผู้เข้าร่วมได้ให้ข้อมูลเชิงลึกแก่คณะทำงานต่างๆ รวมถึง การเปิดเสรีบัญชีทุน, กรอบบูรณาการการธนาคารของอาเซียน, การรวมกลุ่มทางการเงิน, ระบบการชำระเงินและการชำระบัญชี, การเปิดเสรีบริการทางการเงิน รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ Swap ของอาเซียน และความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ของอาเซียนและแพลตฟอร์มการแบ่งปันข้อมูล อย่างไรก็ดี สำนักงานเลขาธิการอาเซียนได้นำเสนอเกี่ยวกับสถานะของความร่วมมือทางเศรษฐกิจอาเซียน พิมพ์เขียว AEC พ.ศ. 2568 วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน พ.ศ. 2588 และรายงานการติดตามบูรณาการทางการเงินของอาเซียน พ.ศ. 2567 ในระหว่างการประชุม AFCDM หลังจากนั้น คณะทำงานต่างๆ ได้ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับความคืบหน้าของคณะกรรมการระดับอาวุโสด้านการบูรณาการทางการเงินของอาเซียน และสรุปภารกิจสำหรับปีงบประมาณ 2024-2568

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/cbm-deputy-governor-attends-20th-asean-central-bank-deputies-meeting-virtually/

รัฐบาลให้ความสำคัญกับเสถียรภาพชายแดนและแผ่นดินใหญ่ผ่านการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์

พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย และนายเติ้ง ซีจุน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หารือเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพของรัฐบาลกับองค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์ เพื่อประกันสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งประเทศ รวมถึงบริเวณชายแดน อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความช่วยเหลือของจีนในกระบวนการสันติภาพ ความร่วมมือในการกำจัดยาเสพติด ความร่วมมือทวิภาคีในการขจัดการพนันออนไลน์และการหลอกลวงออนไลน์ กระบวนการการค้าชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ และความก้าวหน้าทางการเมืองในเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/govt-prioritizes-border-and-mainland-stability-through-peace-talks-with-eaos/

การลงทุนในภูมิภาคพะโคพุ่งสูงขึ้น สร้างโอกาสในการทำงาน

จากข้อมูลของคณะกรรมการการลงทุนเขตพะโค เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการลงทุนในท้องถิ่นเกิน 5,000 ล้านจ๊าด และสร้างโอกาสในการทำงานถึง 56 ตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้ บริษัท Ayar Yoma Agriculture and Trading Co Ltd ลงทุน 5,654.736 ล้านจ๊าดสหรัฐในการสีและจำหน่ายข้าว อย่างไรก็ดี ด้านมุขมนตรีเขตพะโค ประกาศว่า เขตพะโคกำลังมองหาการลงทุนสำหรับโรงสีข้าวนึ่ง โรงงานน้ำมัน ห้องเย็นสำหรับเนื้อสัตว์และปลา โรงงานแผงโซลาร์เซลล์ และโรงงานปุ๋ย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/investments-surge-in-bago-region-creating-job-opportunities/

ท่าเรือย่างกุ้งคาดการณ์ว่าจะมีเรือคอนเทนเนอร์ 50 ลำเทียบท่าในเดือนเมษายน

การท่าเรือเมียนมาได้ประกาศว่ามีเรือคอนเทนเนอร์จำนวน 50 ลำที่จะเข้าสู่ท่าเรือย่างกุ้งในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย เรือคอนเทนเนอร์ 7 ลำที่ดำเนินการโดย Maersk A/S Line, 6 ลำที่ดำเนินการโดย Samudera Shipping Line, 5 ลำที่ดำเนินการโดย Cosco Shipping Line, สายละ 4 ลำที่ดำเนินการโดย CMA CGM Line, MSC Line, SITC Shipping Line และ Ti2 Container Line, สายละ 3 ลำที่ดำเนินการโดย BLPL Shipping Line, Evergreen Lineและสาย RCL, สายละ 2 ลำที่ดำเนินการโดย ONE Line และ PIL และสายละ 1 ลำที่ดำเนินการโดย Bay Line และ IAL Shipping Line และLand and Sea ซึ่งมีกำหนดจะเรียกที่ท่าเรือย่างกุ้งในเดือนเมษายน อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้การท่าเรือเมียนมาระบุว่ามีเรือคอนเทรนเนอร์เข้าเทียบท่า 49 ลำในเดือนมกราคม 53 ลำในเดือนกุมภาพันธ์ และ 55 ลำในเดือนมีนาคม ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/yangon-port-expects-50-container-vessels-in-april/

สินเชื่อสำหรับ MSMEs ที่ผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม

ตามการระบุของหน่วยงานพัฒนา MSME ในระดับภูมิภาคของเมียนมา ธุรกิจ MSME ทั้งหมด 8 ประเภท ซึ่งรวมถึง บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค รัฐ และเขตสภาเนปิดอว์ จะได้รับเงินกู้ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 20 (ค) ของกฎหมายการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รัฐบาลได้จัดสรรเงินกู้ผ่านกองทุนพัฒนา MSME ทำให้ธุรกิจ MSME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยจำนวนเงินกู้สูงสุดสำหรับธุรกิจถูกกำหนดไว้ที่ 10 ล้านจ๊าด สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก, 50 ล้านจ๊าด สำหรับธุรกิจขนาดย่อม และ 100 ล้านจ๊าด สำหรับธุรกิจขนาดกลาง อย่างไรก็ดี Myanma Economic Bank จะเริ่มให้กู้ยืมเพื่อความสะดวกของผู้ขอสินเชื่อ โดยมีการเตรียมการให้ธนาคารเอกชนอื่นๆ เข้าร่วมในกระบวนการให้กู้ยืม

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/loans-to-be-provided-for-msmes-manufacturing-value-added-products/#article-title

คณะผู้แทนเมียนมาเข้าร่วมการประชุม XIII International Forum ATOMEXPO 2024

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม คณะผู้แทนเมียนมา นำโดยดร.เมียว เต็ง จ่อ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสหภาพ พร้อมด้วยอู ธิต ลิน โอห์น เอกอัครราชทูตเมียนมาร์ประจำสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมนานาชาติครั้งที่ 13 ATOMEXPO 2024 ที่เมืองโซชี สหพันธรัฐรัสเซีย โดยรัฐมนตรีและพรรคสหภาพแรงงานเข้าร่วมการเสวนาโต๊ะกลมเรื่อง Advanced Training for Generation IV NPP Personnel: Driver for Sustainable Development ในเช้าวันเดียวกัน จากนั้น ได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์การฝึกอบรมและการทดลองหุ่นยนต์ Sirius ของ Proryv และสังเกตหุ่นยนต์คุณภาพสูง หุ่นยนต์หลายบทบาทและหุ่นยนต์ขนส่ง และอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับการผลิตแบบไร้คนขับ พร้อมโมดูลที่เปลี่ยนได้ซึ่งเครื่องจักรสามารถให้บริการได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายรัฐมนตรีสหภาพแรงงานร่วมเสวนาในหัวข้อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์: ตัวขับเคลื่อนโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของพลังงานนิวเคลียร์ในฐานะทรัพยากรที่สำคัญสำหรับพลังงานที่มีแนวโน้ม สะอาด และยั่งยืนในการกำหนดอนาคต การใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติซึ่งสามารถรับประกันการส่งเสริมชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับสาธารณะในระยะยาว ข้อผูกพันระยะยาวสำหรับโครงการปรมาณูที่ปลอดภัยและยั่งยืน การสนับสนุนหน่วยงานในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ในเมียนมา ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม และนิวเคลียร์ของรัฐบาลกลาง และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของเมียนมาในอาเซียน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-delegation-attends-2nd-day-of-xiii-international-forum-atomexpo-2024/

อุปสงค์จากต่างประเทศที่ซบเซาส่งผลให้ราคาข้าวโพดลดลง

ตามข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดเมียนมา รายงานว่า เนื่องจากความต้องการในตลาดข้าวโพดลดลง ราคาข้าวโพดจึงขยับลงไปที่ประมาณ 1,000 จ๊าดต่อviss ในช่วงปลายเดือนมีนาคม หลังจากที่แตะ 1,200 จ๊าดต่อviss ในต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 โดยเมียนมาส่งออกข้าวโพดไปยังจีนและไทยผ่านทางชายแดน และส่งออกผ่านช่องทางเดินเรือ ไปยัง จีน อินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ดี ประเทศไทยที่ถือเป็นผู้นำเข้าข้าวโพดชั้นนำของเมียนมา อนุญาตให้นำเข้าข้าวโพดภายใต้อัตราภาษีเป็นศูนย์ (พร้อมแบบฟอร์ม D) ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 สิงหาคม โดยที่ประเทศไทยกำหนดอัตราภาษีสูงสุดที่ร้อยละ 73 สำหรับการนำเข้าข้าวโพด เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ปลูกหากข้าวโพดนำเข้าในช่วงฤดูข้าวโพดของประเทศไทย นอกจากนี้ จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ระบุว่า เมียนมาส่งออกข้าวโพดไปทั่วโลกจำนวน 934,883 ตัน ในปีงบประมาณปัจจุบันปี 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยมีมูลค่ารวม 279.042 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน้อยลงมากหากเทียบกับฤดูข้าวโพดปี 2565-2566 ที่เมียนมาส่งออกข้าวโพดมากกว่า 2 ล้านตันไปยังคู่ค้าต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/sluggish-foreign-demand-drives-corn-prices-down/

ราคาทองคำในประเทศเมียนมาเกิน 4.3 ล้านจ๊าดต่อ tical

หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 2,170 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์ และค่าเงินจ๊าดในตลาดอ่อนค่าลงประมาณ 3,740 จ๊าดเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 ราคาทองคำในประเทศแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 4.31 ล้านจ๊าดต่อ tical (1 tical = 0.578 ออนซ์ หรือ 0.016 กิโลกรัม) ในขณะเดียวกัน สมาคมผู้ประกอบการทองคำย่างกุ้ง (YGEA) กำหนดราคาอ้างอิงที่ 3.7989 ล้านจ๊าดต่อ tical ซึ่งแสดงถึงช่องว่างระหว่างราคาที่แท้จริงในตลาดกับราคาอ้างอิงกว่า 500,000 จ๊าดต่อ tical อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบสาเหตุของความผันผวนของราคา และกำลังดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ YGEA จึงขอให้ตัวแทนจำหน่ายทำธุรกรรมทองคำให้ต่ำกว่าราคาอ้างอิงที่ตั้งไว้ และหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข่าวเท็จและการบิดเบือนราคา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/domestic-gold-price-exceeds-k4-3-mln-per-tical/#article-title

การส่งออกสินค้าประมงทะลุ 675 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 15 มีนาคม

อู ยุนท์ วิน ผู้อำนวยการกรมประมง (เนปิดอ) กล่าวว่า เมียนมาส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงมากกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีมูลค่า 675.958 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปยัง 45 ประเทศ ณ วันที่ 15 มีนาคม ในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ สินค้าประมงจะถูกจัดส่งไปยังคู่ค้าต่างประเทศผ่านช่องทางการค้าทางทะเล และทางชายแดน โดยการส่งออกทางทะเลเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 หากเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า อย่างไรก็ดี การส่งออกกุ้งในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก และกุ้งเลี้ยงจากตะนาวศรีเป็นสินค้าซื้อขายที่มีมูลค่ามากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีปลามากกว่า 20 ชนิด รวมถึงฮิลซา ปลากะพง ปลาโรหู ปลาดุกแม่น้ำ และปลาบาร์บัส โดยที่คู่ค้าหลักที่เมียนมาส่งออกไป ได้แก่ ญี่ปุ่น ประเทศในตะวันออกกลาง ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป มาเลเซีย จีนไทเป และออสเตรเลีย นอกจากนี้ สหพันธ์ประมงเมียนมาและกรมประมงกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนการส่งออกประมงในฐานะความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในขณะที่การส่งออกอาหารทะเลไปยังประเทศต่างๆ เช่น จีน มีการตรวจสอบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในห่วงโซ่อุปทานกำลังพยายามปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัดเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกประมง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/fishery-exports-cross-us675-mln-as-of-15-march/#article-title