เมียนมา ผลักดันบริษัทมากกว่า 600 แห่ง ยื่นจดทะเบียนกับ GACC เพื่อส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน

บริษัทและวิสาหกิจในเมียนมามากกว่า 600 แห่ง รวมถึงบริษัทส่งที่ออกข้าว ข้าวหัก ข้าวโพด และกล้วย กำลังพยายามยื่นนจดทะเบียนกับกรมศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เพื่อส่งออกสินค้ามากกว่า 1,600 รายการ โดยหน่วยงานของภาครัฐต่างๆ เช่น กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ กรมประมง และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กำลังยื่นมือเข้าช่วยเหลือบริษัท วิสาหกิจ องค์กร และนิติบุคคล ที่กำลังขึ้นทะเบียนกับ GACC สำหรับสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ข้าวหัก ข้าวโพด และกล้วย ซึ่งสินค้าเกษตรของเมียนมาที่มีข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล (G2G) นั้นมีส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งนี้บริษัทหรือวิสาหกิจที่จะทำการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวกับ น้ำมันเพื่อการบริโภค เมล็ดพืชน้ำมัน ขนมยัดไส้ รังนกและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ธัญพืชและมอลต์ ผักสดและแห้ง ถั่วแห้ง พันธุ์พืช ถั่วและเมล็ดพืช ผลไม้แห้ง กาแฟที่ยังไม่ได้คั่วและเมล็ดโกโก้ อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และอาหารสัตว์ จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตจาก GACC เพื่อวางขายสินค้าในตลาดจีน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/over-600-local-companies-eye-registering-with-gacc-to-export-agri-products/#article-title

กรมส่งเสริมการค้าเซี่ยงไฮ้ ตกลงร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ สปป.ลาว

กรมส่งเสริมการค้า ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมกับทางการเซี่ยงไฮ้ของจีนเกี่ยวกับความร่วมมือทางการค้าและทางเศรษฐกิจ โดยข้อตกลงดังกล่าวได้ลงนามระหว่างงาน China International Import Expo ตั้งแต่ในช่วงวันที่ 5-11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งบันทึกความเข้าใจดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยหวังว่าจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงมีส่วนในการพัฒนาและการเปิดประเทศของจีน ผ่านโครงการ One Belt, One Road ในฐานะคู่ค้าสำคัญของจีน ซึ่ง สปป.ลาว เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ปัจจุบันได้มีการเปิดเส้นทางรถไฟสายใหม่ ส่งผลทำให้ สปป.ลาว เชื่อมต่อกับประเทศคู่ค้าในภูมิภาคได้กว้างมากขึ้น โดยเฉพาะกับจีนที่มีประชากรรวมกว่า 1.4 พันล้านคน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten218_Trade.php

ฮุนเซน หนุนนักลงทุนเวียดนาม เข้าลงทุนในกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนพร้อมสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนชาวเวียดนาม ซึ่งทางการกัมพูชามีความพยายามเป็นอย่างมากในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมให้มีความทันสมัย ร่วมกับการแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมเบาภายในประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้กล่าวไว้ในระหว่างเยือนประเทศเวียดนามเพื่อเข้าร่วมประชุมการส่งเสริมการลงทุนและการค้ากัมพูชา-เวียดนาม ซึ่งมี Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนามเป็นประธานในการประชุม ด้านนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวเสริมว่าปัจจุบันกัมพูชามีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงมีกฎหมายส่งเสริมด้านการลงทุนฉบับใหม่ เพื่อเอื้อต่อการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ สอดคล้องกับข้อมูลของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ถึงสถานการณ์ด้านการลงทุนภาคเอกชนในช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2022 มูลค่าการลงทุนรวมปรับตัวกลับมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501181265/pm-hun-sen-encourages-more-vietnamese-investors-to-invest-in-cambodia/

กัมพูชาหวังเปิดตลาดจีนด้วยมะพร้าวหอมพันธุ์ไทย

กัมพูชาเริ่มการเจรจากับจีนเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร 7 รายการ โดยหนึ่งในนั้นมีมะพร้าวหอมรวมอยู่ด้วย ในขณะที่กัมพูชาได้เร่งสนับสนุนการปรับปรุงพันธุ์เพื่อส่งเสริมการส่งออกมะพร้าวในอนาคตไปยังประเทศจีน ซึ่งในบรรดาพันธุ์ต่างๆ มะพร้าวหอมของไทยค่อนข้างเป็นที่นิยมในตลาดและปัจจุบันมีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายในกัมพูชา ส่งผลทำให้ทางการกัมพูชาคาดว่าจะใช้มะพร้าวหอมพันธุ์ไทยเป็นสินค้าเกษตรชนิดแรกๆ ในการเปิดตลาดจีน โดยลักษณะของมะพร้าวหอมไทยจะมีขนาดเล็กกว่ามะพร้าวทั่วไป และยังมีรสชาติที่เข้มข้น รสชาติหวานปานกลางและมักจะมีราคาแพงกว่ามะพร้าวทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามผลผลิตมะพร้าวของกัมพูชาในแต่ละปีมีเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีความหลากหลายในส่วนของชนิดพันธุ์ ส่งผลทำให้ราคาโดยภาพรวมจึงยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501181326/cambodia-hopes-to-open-the-chinese-market-with-the-thai-fragrant-coconut-2/

‘จุรินทร์’ เดินหน้าขยายความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าไทย-จีน ในโอกาสเจ้าภาพจัดประชุม APEC 2022

“จุรินทร์” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ชี้คำกล่าว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จากประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ครั้งที่ 20 ที่ผ่านมา โดยประกาศขยายความร่วมมือกับนานาประเทศ จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกหลังโควิด-19 คลี่คลาย ขณะที่ไทยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพในดารจัดประชุม APEC 2022 พร้อมผนึกกำลังจีน เดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ การค้า และรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ จากนโยบายเปิดกว้างสู่ภายนอกของจีน โดยผลักดันความร่วมมือภายใต้โครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” การเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับนานาประเทศตามรูปแบบการพัฒนาของจีน และส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง ทำให้ทั่วโลกได้ตระหนักว่าจีนมีขีดความสามารถและศักยภาพที่จะดำเนินความร่วมมือกับทั่วโลก เพื่อเพื่อเสริมสร้างประโยชน์ระหว่างกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง

ที่มา : https://www.naewna.com/relation/691045

‘นายกฯ’ เตรียมเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่กัมพูชา 10-13 พ.ย.นี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเยือนกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2565 โดยนายกรัฐมนตรีของไทยมุ่งมั่นที่จะผลักดันความร่วมมือใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ ความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางสาธารณสุข ความร่วมมือเพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความร่วมมือเพื่อพัฒนาดิจิทัลในภูมิภาค

ที่มา : https://www.thebangkokinsight.com/news/politics-general/politics/982961/

‘เวียดนาม’ ชงแผนสร้างทางรถไฟความเร็วสูง

กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) และกระทรวงคมนาคม ยื่นขอเสนอพิจารณาสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายเหนือและสายใต้กับทางรัฐบาลเพื่อรับทราบ รวมถึงชี้แจงความเป็นไปได้ของโครงการ รถไฟทางคู่จะอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ เนื่องจากทางรถไฟในปัจจุบันสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียง 6% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด และ 1.4% ของปริมาณขนส่งสินค้า

ทั้งนี้ เมื่อก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว รถไฟความเร็วสูงดังกล่าวจะรองรับสินค้าได้จำนวนมากและยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนท้องถิ่นตามเส้นทางรถไฟและทั่วประเทศ โดยจะมีการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสาร 50 แห่ง และสถานีขนส่งสินค้า 20 แห่งตลอดเส้นทาง

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-considers-high-speed-rail-line-2078259.html

‘ผู้ว่าแบงก์ชาติเวียดนาม’ เชื่อมั่นสภาพคล่องในระบบการเงินที่ดี

นาง เหงียน ถิ ห่ง (Nguyen Thi Hong) ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเวียดนาม (SBV) กล่าวว่าสภาพคล่องของระบบสถาบันการเงินยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังมีแนวโน้มที่จะจัดหาสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะในช่วงสิ้นปีจากความต้องการเงินทุนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าในเดือนตุลาคม ตลาดได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางจิตวิทยาและความซับซ้อนทางเศรษฐกิจโลก ทำให้ธนาคารกลางเวียดนามจึงต้องเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับกับระบบสถาบันการเงิน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางเวียดนามได้ประชุมฉุกเฉินกับสถาบันสินเชื่อ เพื่อหารือเกี่ยวกับสภาพคล่องของระบบธนาคาร โดยสถาบันสินเชื่อส่วนใหญ่เห็นด้วยกับสถานการณ์ในปัจจุบันและจำเป็นที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อความปลอดภัยของทั้งระบบธนาคาร

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1352583/liquidity-of-whole-banking-system-remains-good-sbv-s-governor.html

‘ไทย-ลาว’ ร่วมมือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่ววมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและเทคโนโลยีดิจิทัล กับกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 8 ปี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่าความร่ววมือดังกล่าวจะกระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศทั้งด้านการส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาทางเทคนิคและการขยายตลาด ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านบริการไปรษณีย์ โทรคมนาคมและดิจิทัลแพลตฟอร์ม

ทั้งนี้  นายบอเวียงคำ วงดารา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่าการลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกระทรวงต่างๆ เพื่อประโยชน์ของคนไทยและชาวลาวในอนาคต

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/2432310/thailand-laos-ink-mou-covering-post-digital-tech

ADB อนุมัติเงินกู้ 70 ล้านดอลลาร์ สนับสนุนกัมพูชาพัฒนาภาคการศึกษา

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) อนุมัติเงินกู้มูลค่า 70 ล้านดอลลาร์ ให้แก่กัมพูชาเพื่อสนับสนุนภาครัฐบาลในการปฏิรูปโครงสร้างด้านการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทั้งทางด้านเทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) ทั่วประเทศ หวังพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนาคตให้แก่กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขา STEM เนื่องจากประเทศมีความต้องการที่จะเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน ให้เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งโครงการนี้จะเน้นไปที่การปรับปรุงและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในเครือข่าย 14 แห่ง และโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายโดยทั่วไป 103 แห่ง ด้วยการเสริมห้องเรียน 3 ห้อง ให้กับแต่ละโรงเรียน ประกอบไปด้วยห้องเรียนวิทยาศาสตร์ 2 ห้อง และห้องสมุดพร้อมอุปกรณ์ สื่อการสอน หนังสือ อุปกรณ์ตกแต่ง และเทคโนโลยีการศึกษาที่จำเป็น เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501181091/adb-approves-70-mln-loan-to-cambodia-for-education-reforms/