ตลาดอสังหาฯเวียดนาม ดึงดูดนักลงทุนเกาหลีใต้

คุณแอนดรูว์ ลี (Andrew Lee) ผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ “ซาวิลส์” ประจำประเทศเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามมีโครงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นจากนักลงทุนสาธารณรัฐเกาหลี (ROK) เมื่อเร็วๆนี้ เนื่องจากนักลงทุนดังกล่าวแสวงหาโอกาสที่จะขยายกิจการ ผลสำรวจล่าสุดโดย Savills Vietnam ระบุว่านอกเหนือภาคอุตสาหกรรม ตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนามดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จำนวนมากจากเกาหลีใต้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนการลงทุนของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 2 เท่าในปี 2561 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และตัวเลขการลงทุน ณ สิ้นปี 2564 เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2563 ทั้งนี้ กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ 3 อันดับแรกในเวียดนาม

ที่มา: https://en.vietnamplus.vn/vietnams-real-estate-market-attractive-to-rok-investors-consultancy-company/231159.vnp

“เอชเอสบีซี” ปรับอัตราเงินเฟ้อ ของเวียดนามลดลงเหลือ 3.5%

ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ระบุว่าได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามในปี 2565 อยู่ที่ 3.5% จากคาดการณ์ก่อนหน้าไว้ที่ 3.7% เนื่องจากราคาอาหารในประเทศมีเสถียรภาพ และธนาคารยังรายงานว่าความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อต้นปี ทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานและเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่โควิด-19 ระบาด อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ ไทยและฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น ในขณะที่เวียดนาม มาเลเซียและอินโดนีเซีย เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ทั้งนี้ เวียดนาม จะเผชิญกับราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน ราคาค่าขนส่งพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนราคาอาหารเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเงินเฟ้อทั่วไปของเวียดนาม ถึงแม้ว่าราคาพลังงานจะสูงขึ้น แต่เงินเฟ้อทางด้านอาหารยังคงอยู่ในระดับปานกลาง

ที่มา: https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-ranks-89th-in-cost-of-living-index-rankings-post950321.vov

ราคาถั่วลิสงพุ่งตามความต้อง จากในประเทศและต่างประเทศ

ศูนย์สินค้าโภคภัณฑ์ของเขตมะกเว มองว่า ราคาถั่วลิสงพุ่งสูงขึ้นภายหลังการขึ้นราคาน้ำมันประกอบอาหาร นอกจากนี้ ผู้ค้าชาวจีนและโรงสีในประเทศเร่งกำลังเสนอราคาที่แข่งขันได้ในปัจจุบัน แต่ในขณะที่ความต้องการถั่วลิสงค่อนข้างต่ำ โดยราคา ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2565 อยู่ที่ประมาณ 4,300-4,400 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปหันมาใช้น้ำมันถั่วลิสงเนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพและราคาน้ำมันที่นำเข้าจากต่างประเทศเริ่มสูงขึ้น ซึ่งเขตมะกเว ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตถั่วและพัลส์หลักรวมถึงพืชน้ำมันหลักของประเทศ จากสถิติของกรมศุลกากร เผย เมียนมาส่งออกถั่วลิสงส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีน โดยระหว่างวันที่ 1 เม.ย. ถึง 3 มิ.ย.2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 พบว่าเมียนมาส่งออกถั่วลิสงประมาณ 5,600 ตัน -มีมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/peanut-prices-moving-onwards-on-foreign-and-domestic-demand/#article-title

นายกฯ ผลักดันธุรกิจเกษตร ในเวียงจันทน์

นายทองลุน สีสุลิด เลขาธิการพรรคและประธานาธิบดีแห่งรัฐ เยี่ยมชมธุรกิจการเกษตรและธุรกิจอื่นๆ ในแขวงเวียงจันทน์เมื่อวันอังคาร เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชผลและการผลิตปศุสัตว์ในฐานะเสาหลักสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนของสปป.ลาว ฟาร์มที่เยี่ยมชมดังกล่าวเจ้าของได้ลงทุน 21 พันล้านกีบในฟาร์ม ซึ่งปัจจุบันมีวัว 288 ตัว และวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนเป็น 205 พันล้านกีบ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายพื้นที่ที่มีอยู่ 12 เฮกตาร์เป็น 120 เฮกตาร์ และเพิ่มขนาดของฝูงเป็น 2,700 การผลิตเนื้อวัวคุณภาพดีสามารถลดความจำเป็นในการนำเข้าเนื้อวัว ในขณะที่ควรมีการเพาะเลี้ยงฝูงสัตว์ที่แข็งแรงไม่น้อยกว่า 800 ตัวเพื่อให้พอต่อความต้องการในประเทศ ทั้งนี้คาดว่าภายใน 10 ปี ขนาดของฟาร์มจะมีโคเติบโตเป็น 29,428 ตัว มูลค่าประมาณ 700 พันล้านกีบ ประธานาธิบดีแนะนำให้เจ้าของฟาร์มมีส่วนร่วมกับคนในท้องถิ่นมากขึ้นโดยช่วยพวกเขาปลูกหญ้า ข้าวโพดหวาน และผักอินทรีย์ หากฟาร์มขยายตัวในอนาคต จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์จากเนื้อวัวในลักษณะที่เพิ่มมูลค่า อีกทั้งในระหว่างการพูดคุยกับเจ้าของธุรกิจ เขาได้เน้นถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างการผลิตภายในประเทศเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการบริโภคในท้องถิ่นและเพื่อผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตผลทางการเกษตร

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/
FreeConten2022_President114.php

กัมพูชาเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 หรือคิดเป็นมูลค่า 1,726 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาจัดเก็บภาษีได้กว่า 1,726 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือน มกราคม-พฤษภาคม ปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.95 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในแถลงการณ์ Kong Vibol อธิบดีกรมภาษีอากร กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้จากภาษีที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบรรลุเป้าหมายการจัดเก็บภาษีไปแล้วกว่าร้อยละ 61.25 ของเป้าการจัดเก็บประจำปี 2022 โดยในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว กรมภาษีอากร (GDT) จัดเก็บภาษีได้กว่า 255 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 7.98 ของเป้าหมายในปีนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งเป้ารายได้จากการจัดเก็บภาษีไว้ที่ 2,819.94 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงรายได้จากกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ซึ่งทำหน้าที่เก็บภาษีสำหรับสินค้าขาเข้าและขาออก

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501094545/tax-collection-surges-28-percent-to-1726-million/

หนี้สาธารณะกัมพูชา พุ่งแตะ 9.81 พันล้านดอลลาร์

รัฐบาลกัมพูชา (RGC) ประกาศตัวเลขหนี้สาธารณะ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 9.81 พันล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นร้อยละ 68 ของ Bilateral Developing Partners (DPs) และอีกร้อยละ 32 จาก Multilateral DPs ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2022 ด้าน RGC ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้สัมปทานฉบับใหม่กับ DPs เป็นจำนวนเงินรวม 317.24 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนโครงการลงทุนภาครัฐในภาคส่วนสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาวและเพิ่มผลผลิตทางเศรษฐกิจ โดยรายงานสถานการณ์หนี้สาธารณะของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังระบุว่า จีนถือเป็นเจ้าหนี้รายสำคัญในหมวดของหนี้จากต่างประเทศของกัมพูชา หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 40.72 ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันสถานะหนี้สาธารณะของกัมพูชายังคงสามารถจัดการได้ มีความยั่งยืนและมีความเสี่ยงต่ำ แม้ว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัจจัยภายนอกอื่นๆ ก็ตาม

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501094257/
cambodias-public-debt-at-9-81-billion-says-report/

รัฐบาลขอให้รัฐสภา ตั้งเป้าตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอีกครั้ง

รัฐบาลได้ขอให้รัฐสภาพิจารณาและอนุมัติเป้าหมายเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญบางส่วนซึ่งได้รับการแก้ไขในปี 2565 ท่ามกลางความกลัวว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำ นาย Sonexay Sitphaxay ผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป. ลาว นำเสนอรายงานในการประชุมสภาแห่งชาติที่กำลังดำเนินอยู่ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมายที่แก้ไขแล้วซึ่งรัฐบาลจะต้องดำเนินการให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ ภายใต้ข้อเสนอนี้ ความยืดหยุ่นของอัตราแลกเปลี่ยน kip/us dollar ซึ่งขณะนี้ได้รับอนุญาตให้ผันผวนภายในช่วงบวกหรือลบร้อยละ 5 ต่อปี จะได้รับการแก้ไขให้อยู่ในระดับที่ไม่สร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อให้กับรัฐบาล รัฐบาลยังได้ขอให้เพิ่มจำนวนเงินในระบบ จากร้อยละ 22 เป็นร้อยละ 28 อันเนื่องมาจากค่าเงิน kip ที่อ่อนค่า ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.5 ในปีนี้ แม้จะมีความไม่แน่นอนของปัจจัยภายในและภายนอก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten113_Govtasks.php

EIC ปรับขึ้นจีดีพีปี 65 ขยายตัว 2.9% ต่างชาติเที่ยวไทยหนุนปีนี้ 7.4 ล้านคน

นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2565 ขึ้นเป็น 2.9% จากเดิม 2.7% ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและภาคบริการ ผ่านการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทยและการผ่อนคลายมาตรการผ่านแดนในหลายประเทศทั่วโลก โดย EIC ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 7.4 ล้านคนในปีนี้ (เดิม 5.7 ล้านคน) อีกทั้ง กิจกรรมในภาคบริการในประเทศยังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการกลับออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ตามอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคของภาครัฐ

ที่มา : https://www.businesstoday.co/business/14/06/2022/84717/

คลังสหรัฐฯ รับทราบความคืบหน้าของทางการเวียดนามชี้ประเด็นค่าเงิน

ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยอมรับรายงานความคืบหน้าของทางการเวียดนามเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ โดยธนาคารกลาวเวียดนามยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อที่จะหารือถึงข้อกังวลของทั้งสองฝ่ายและประสานผลประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้ง ธนาคารกลางเวียดนามจะดำเนินนโยบายการเงินที่มุ่งรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ยังคงมุ่งรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจและเป้าหมายของนโยบายการเงิน อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังคงทบทวนบัญชีรายชื่อประเทศที่ละเมิดเกณฑ์ 3 ข้อของสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขเกินดุลการค้า, ตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัด และการแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยเวียดนามและไต้หวัน ยังคงจับตาและติดตามผลต่อไป

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1250395/us-treasury-department-recognises-viet-nams-progress-in-addressing-currency-related-concerns.html

“เวียดนาม” ดัชนีค่าครองชีพสูงอันดับ 89 ของโลก

“นัมเบโอ (Numbeo)” เว็บไซต์ฐานข้อมูลด้านค่าครองชีพระดับสากล เปิดเผยดัชนีค่าครองชีพ (Cost of Living Index) ทั่วโลก ปี 2565 พบว่าอันดับของเวียดนามขยับเพิ่มขึ้นมาเป็นอันดับ 89 มีคะแนน 37.48 คะแนน โดยคำนวณจากดัชนีค่าครองชีพของนครโฮจิมินห์อยู่ที่ 39.01 จุด ซึ่งมีค่าดัชนีสูงสุดของทั้งประเทศ ส่วนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คน ไม่รวมค่าเช่าบ้าน อยู่ที่ 40 ล้านดองต่อเดือน ขณะที่คนเดียวใช้จ่ายมากกว่า 11 ล้านดองต่อเดือน ในขณะที่แหล่งอื่นๆ ดัชนีค่าครองชีพในเมืองฮานอยอยู่ที่ 36.85 จุด ส่วนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คน ไม่รวมค่าเช่าบ้าน อยู่ที่ 36 ล้านดองต่อเดือน ขณะที่คนเดียวใช้จ่ายประมาณ 10 ล้านดองต่อเดือน

นอกจากนี้ ประเทศที่มีค่าครองชีพสูง 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 หมู่เกาะเบอร์มิวด้าในมหาสมุทรแอตแลนติก 146.04 คะแนน อันดับ 2 สวิตเซอร์แลนด์ 123.35 คะแนน อันดับ 3 นอร์เวย์ 100.90 คะแนน อันดับ 4 ไอซ์แลนด์ 94.86 คะแนน และอันดับ 5 บาร์เบโดส 92.37 คะแนน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-ranks-89th-in-cost-of-living-index-rankings-post950321.vov