ส่งออกข้าวเวียดนามปีนี้ ส่งสัญญาณดี

ตามข้อมูลของกรมศุลกากร เปิดเผยว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกข้าว 974,556 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 469.26 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 48.6% และ 30.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนตลาดส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คือตลาดฟิลิปปินส์ ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 110% ในขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้น 82% รองลงมาจีน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวและแนวโน้มการบริโภคในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ และราคาส่งออกข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นอีก โดยเวียดนามจะเน้นคุณภาพข้าวมากขึ้นแทนที่จะมุ่งปริมาณ เพื่อเข้าถึงตลาดยุโรปจากผลประโยชน์ของข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันตลาดยุโรปมีสัดส่วนเล็กน้อยของการส่งออกข้าวทั้งหมดของเวียดนาม โดยมีปริมาณ 1% และมูลค่าการซื้อขาย 1.3%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-rice-exports-signal-a-favourable-year-in-2022/223755.vnp

 

ค้าชายแดนเมซู ดิ่งฮวบ !

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา ณ วันที่ 4 มี.ค.2565 มูลค่าการค้าชายแดนมูเซในปีงบประมาณย่อย มีมูลค่า 579.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน ที่มีมูลค่า 3.09 พันล้านดอลลาร์ ลดลงกว่า 1.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2564 ถึง 4 มี.ค.2565 การส่งออกของเมียนมาไปยังจีนผ่านชายแดนมูเซ มีมูลค่า 555.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 23.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากจีนปิดจุดตรวจทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับชายแดนมูเซจากการะบาดของ COVID-19 แต่เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2564 ที่ผ่านมา จุดตรวจผ่านแดน Kyinsankyawt ได้เริ่มเปิดให้ซื้อขายกันผ่านแดนในระยะทางไม่ไกลมากนัก โดยเมียนมาได้ส่งออก ถั่วและพัลส์, ลูกพลัมแห้ง แตงโม,  แตงไทย และสินค้าโภคภัณฑ์อาหารอื่นๆ ไปยังจีนทุกวัน ในขณะที่เมียนมาจะนำเข้าสินค้าอย่าง ยา อิเล็กทรอนิกส์ และวัสดุก่อสร้าง

ที่มา:  https://www.gnlm.com.mm/value-of-trade-via-muse-border-trade-zone-on-the-decline/#article-title

วงล้อเศรษฐกิจ – ซ้ำเติมผู้บริโภค

ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก (คิดเป็น 28.5% ของปริมาณการส่งออกขอโลก) ดันราคาข้าวสาลีพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี ได้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรโลกให้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จึงมีอิทธิพลต่อการปรับตัวของราคาข้าวสาลีในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อไทยในแง่ต้นทุนวัตถุดิบของอุตสาหกรรมปลายน้ำที่ใช้ข้าวสาลีเป็นส่วนประกอบอย่างอาหารคน และอาหารสัตว์ ทำให้มีราคาปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ในปี 2565 ทั้งต้นทุนราคาวัตถุดิบและต้นทุนโลจิสติกส์จะอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น ซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงที่สุดแล้ว จะส่งผลกระทบไปยังราคาอาหารปลายทางที่ต้องจ่ายสูงขึ้นด้วย เช่น เนื้อสัตว์ หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป/ขนมปัง ตามราคาข้าวสาลีและราคาธัญพืชทดแทนที่ปรับเพิ่มขึ้น เป็นต้น

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6951461

โควิดปี 2020 ทำให้ชาวอาเซียนกว่า 4.7 ล้านคน ‘ยากจนขั้นรุนเเรง’ ตกงาน-ไม่มีรายได้

การเเพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่เเล้ว มีส่วนทำให้ประชาชนในอาเซียนเข้าสู่ภาวะ ‘ยากจนขั้นรุนแรง’  (Extreme Poverty) เพิ่มขึ้นกว่า 4.7 ล้านคน เเละสูญเสียงานถึง 9.3 ล้านตำแหน่ง เมื่อเทียบกับสถานการณ์ก่อนโรคระบาด แม้ว่า ADB คาดว่าการเติบโต 5.1% ในปี 2022 จากอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น ทำให้เศรษฐกิจสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง แต่ก็เตือนว่าหากเกิดไวรัสกลายพันธุ์รูปแบบใหม่ ก็สามารถลดการเติบโตได้มากถึง 0.8% ทั้งนี้ ADB เรียกร้องให้รัฐบาลในอาเซียนจัดสรรเงินลงทุนเพิ่มเติมในระบบการดูแลสุขภาพ เพื่อปรับปรุงการเฝ้าระวังโรค และตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ในอนาคต การเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียน อาจเพิ่มขึ้นอีก 1.5% หากการใช้จ่ายด้านสุขภาพในภูมิภาคนี้มีมูลค่าเเตะ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ จากปี 2021 ซึ่งอยู่ที่ 3%

 

ที่มา : https://positioningmag.com/1377981

‘เวียดนาม-ไทย’ ถกหารือเชื่อมโยงทางคมนาคม

นายฟาน จี๊ ทัญ (Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ได้เข้าพบกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 โดยเอกอัครราชทูตฯ แจ้งกับทางการไทยให้ทราบถึงการเปิดประเทศของเวียดนามอย่างเต็มรูปแบบและจะสนับสนุนการฟื้นตัวทางด้านคมนาคมและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ หลังจากหยุดชะงักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ ทางถนนที่เชื่อมโยงระหว่างเวียดนาม สปป.ลาวและไทย จะช่วยให้ทั้งสามประเทศสามารถเข้าถึงตลาดใหญ่ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น นอกจากนี้ ในประเด็นเกี่ยวกับการบิน เอกอัครราชทูตฯ เสนอให้ทางการไทยยกเลิกข้อจำกัดเที่ยวบินพาณิชย์จากไทยไปเวียดนาม เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงทางอากาศของทั้งสองประเทศและส่งเสริมการค้าระดับทวิภาคี การลงทุนและการท่องเที่ยว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/thailand-interested-in-transport-cooperation-with-vietnam/223635.vnp

 

‘บริษัทญี่ปุ่น’ เล็งขยายการลงทุนอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ภาคการผลิตในเวียดนาม

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) เปิดเผยผลการสำรวจกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นในเวียดนาม 700 ราย พบว่าในภาพรวม บริษัทญี่ปุ่นเข้าไปขยายการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ภาคการผลิต (Non-manufacturing Industries) มากขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมการปลีก การศึกษา การดูแลสุขภาพ พลังงาน การเงินการประกันภัย การขนส่งและอสังหาริมทรัพย์ โดยยังพบว่าบริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในภาคการผลิตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ 51.7% วางแผนที่จะขยายธุรกิจในเวียดนามอีก 1-2 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันเมื่อสอบถามถึงกลุ่มบริษัทที่ไม่ใช่ภาคการผลิตส่วนใหญ่ 58.7% ต้องการทำเช่นเดียวกัน เพิ่มขึ้น 12.1% ทั้งนี้ นาย Hirai Shinji หัวหน้าตัวแทนของ JETRO สาขานครโฮจิมินห์ กล่าวว่าบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในเวียดนามดำเนินธุรกิจการผลิตอุตสาหกรรม แต่ในปัจจุบันเม็ดเงินทุนจากต่างชาติกำลังไหลเข้าไปยังอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค การค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1165354/japanese-firms-in-viet-nam-eye-non-manufacturing-industries.html

 

จีนระงับการนําเข้าสินค้า 7 รายการจากเมียนมาผ่านทางชายแดน

หอการค้าชายแดนมูเซ-น้ำคำ รายงานว่า หน่วยเฉพาะกิจป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ในเมืองรุ่ยลี่ ประเทศจีน แจ้งคณะทำงานของเชายแดนมูเซว่าจะมีการระงับการนำเข้าสินค้า 7 รายการ หนึ่งในนั้นรวมไปถึงข้าวจากเมียนมา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 โดยสินค้าที่ถูกระงับการนำเข้าทั้ง 7 รายการ ได้แก่ ข้าว, ข้าวหัก, พริกสด, สินค้าที่ขนส่งในระบบห่วงโซ่ความเย็น, สินค้าแช่แข็ง, สินค้าประมง และ สินค้าประเภทของใช้ประจำวัน รวมถึงสินค้าอาหารบรรจุหีบห่อ ณ ด่านตรวจว่านติง-มังมาน ณ วันที่ 4 มี.ค. 2565 ของงบประมาณย่อย (ต.ค. 2564- มี.ค. 2565) การปิดชายแดนมูเซทำให้มูลค่าการค้า  ลดลงเหลือ 579.48 ล้านดอลลารณ์สหรัฐฯ  ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมากจาก 2.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน โดยปกติเมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว ถั่วและข้าวโพด และผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปู กุ้ง เป็นต้น นอกจากนี้ การค้าผ่านชายแดนมูเซ-รุยลี เมียนมาส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังจีน ด้านการนำเข้าจะเป็นวัตถุดิบ CMP ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม, เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2563-2564 การค้าชายแดนมูเซ ระหว่างจีน-เมียนมา มีมูลค่า 4.057 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้ามูลค่า 1.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/china-to-temporarily-halt-imports-of-seven-items-including-rice/#article-title

 

อัตราเงินเฟ้อพุ่ง 7.3 % แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี

อัตราเงินเฟ้อปีเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.3 ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดที่นับแต่มีการบันทึกสถิติมา ราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นได้รับแรงหนุนจากต้นทุนเชื้อเพลิงและสินค้านำเข้าอื่นๆ ที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของ kip อย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น ด้านนักเศรษฐศาสตร์กังวลว่าราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากอุปสงค์และอุปทานไม่ตรงกัน รัฐบาลอาจเริ่มปรับราคาน้ำมันทุก 5-7 วัน แทนที่จะเป็นทุกสองสัปดาห์ หากราคาน้ำมันโลกยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อเพิ่มการผลิตเพื่อลดการนำเข้า และเพื่อควบคุมราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจและประชาชนทั่วไป รัฐบาลได้ตัดสินใจลดภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 7 ในปีนี้ และลดปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าราคาน้ำมันสำรองในปัจจุบันอยู่ที่ 0 กีบ/ลิตร ซึ่งจะช่วยบรรเทาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Inflation54.php

GMAC ร่วมมือกับ Euro Cham เร่งส่งออกเสื้อผ้ากัมพูชา

สมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในกัมพูชา (GMAC) และ Euro Cham ร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมภาคการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปของกัมพูชาไปยังตลาดสหภาพยุโรป (EU) โดยปัจจุบัน Euro Cham ถือเป็นตัวแทนของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำของสหภาพยุโรปที่มีฐานการผลิตอยู่ในกัมพูชา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าของกัมพูชาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในฝั่งของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในท้องถิ่น (SMEs) ซึ่งทาง Euro Cham จะเน้นการพัฒนาไปที่ห่วงโซ่อุปทานและการผลักดันกฎหมายแรงงานของสหภาพยุโรปมาปรับใช้ในกัมพูชาเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกของกัมพูชา โดยในปี 2021 การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหภาพยุโรปมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นการส่งออกเสื้อผ้ามูลค่า 2,207 ล้านดอลลาร์, รองเท้า 383 ล้านดอลลาร์ และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมูลค่า 93 ล้านดอลลาร์ รวมเป็นเงิน 2,683 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของปริมาณการค้าทั้งหมด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501042572/gmac-euro-cham-pact-set-to-boost-cambodian-garment-exports/

กัมพูชาส่งออกไปยังเกาหลีใต้ 64 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 2 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 64.5 ล้านดอลลาร์ ไปยังเกาหลีใต้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของสมาคมการค้าระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์กัมพูชานำเข้าสินค้าจกาเกาหลีใต้มูลค่าแตะ 130 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 หรือคิดเป็นมูลค่า 195.2 ล้านดอลลาร์ ผ่านข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-เกาหลี (CKFTA) ซึ่งจะมีผลบังคับในเร็วๆ นี้ โดย CKFTA คาดว่าจะครอบคลุมสินค้าของกัมพูชามากกว่า 10,000 รายการ ที่ได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501042577/cambodian-exports-to-south-korea-reach-64m-in-two-months/