PPSEZ ส่งออกไปยังสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และอาเซียน เพิ่มขึ้นในปี 2020

การส่งออกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ (PPSEZ) ภายใต้ FTA อาเซียน – สหภาพยุโรป และโครงการ GSP / MFN (Generalized System of Preferences / Most-Favored Nation) ของสหรัฐฯ มีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ประมาณ 507 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเสื้อผ้า สิ่งทอ รองเท้า และสินค้าสำหรับการเดินทาง ไปยังสหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น คิดเป็นการส่งออกเสื้อผ้ารวม 20.34 ล้านดอลลาร์ สินค้าที่เกี่ยวกับการเดินทาง 4.637 ล้านดอลลาร์ และรองเท้าคิดเป็นมูลค่า 826,504 ดอลลาร์ ไปจนถึงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ คิดเป็น 481.68 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในปีนี้จะขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ COVID-19 นั้นจะอยู่ในทิศทางใด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50805264/ppsez-exports-to-us-eu-and-asean-up-substantially-in-2020/

พัฒนาการของไทย สู่ ‘ฮับ’ ยานยนต์ไฟฟ้าอาเซียน

ยานยนต์ไฟฟ้า ถูกหยิบยกมาพูดถึงกันอย่างจริงจังในประเทศไทยเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา ทั้งในฐานะ “อุตสาหกรรมใหม่” และในฐานะ “หนทางแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม” ของประเทศ หลายปีที่ผ่านมาดูเหมือนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนเช่นที่ผ่านมา ทั้งนี้ยานยนต์ไฟฟ้าในไทยไม่เฉพาะแต่เพียงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยานยนต์ไฟฟ้าในไทย แตกแขนงออกไปในหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นรถบัสโดยสาร รถตุ๊กตุ๊ก รถขนาดเล็ก 4 ที่นั่งสำหรับใช้งานในเมือง บริการเช่ารถไฟฟ้า แอพพลิเคชั่นสำหรับเช่ารถไฟฟ้า เรื่อยไปจนถึงเรือใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยว โดยทั้งหมดนั่นเริ่มต้นจากพื้นฐานของการเป็น “ฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 11 ของโลก และเป็นอันดับ 4 ในเอเชีย เป็นรองเพียงแค่จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เท่านั้น” ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ในเวลานี้ “โรดแม็ป” ของไทยในการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ตั้งเป้าหมายเอาไว้ที่ราวร้อยละ 30 ของรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในประเทศในปีหนึ่งๆ หรือราว 750,000 คัน ต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าภายในสิ้นทศวรรษนี้ จัดสรร “แรงจูงใจ” เชิงภาษีให้เพื่อดึงดูดบรรดาค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ให้เข้ามาร่วมอยู่ในโครงการนี้

ที่มา : https://www.matichonweekly.com/column/article_390875

Foxconn ย้ายฐานผลิตชิ้นส่วน iPad และ MacBook มา ‘เวียดนาม’ หวังเลี่ยงผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติใบอนุญาตให้หน่วยงานหนึ่งของบริษัท Foxconn Technology ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิปคอมพิวเตอร์ ตลอดจนชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนสัญชาติไต้หวัน ดำเนินการสร้างโรงงานผลิตแล็ปท็อปและแท็บเล็ตมูลค่า 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แถลงการณ์ของรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ระบุว่า โรงงานแห่งใหม่นี้จะอยู่ภายใต้การพัฒนาของ Fukang Technology ในสังกัด Foxconn และตั้งอยู่ในจังหวัดบั๊กซาง ทางตอนเหนือของประเทศ โดยโรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 8 ล้านเครื่องต่อปี ทั้งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา ทาง Foxconn ได้ย้ายโรงงานผลิตชิ้นส่วนของ iPad และ MacBook จากจีนมายังเวียดนาม ตามข้อเรียกร้องของ Apple Inc. ที่ต้องการกระจายโรงงานผลิตชิ้นส่วนของตน เพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

ที่มา : https://thestandard.co/vietnam-gives-foxconn-unit-licence-for-270-million-plant-to-produce-laptops-tablets/

ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจเวียดนามโตเร็วที่สุด

ธนาคารโลก (WB) เผยเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 เติบโต 4.5% ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.9% ต่อปี นับว่าเป็นประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ซึ่งอุตสาหกรรมการผลิตและค้าปลีก ยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ด้วยอัตราการเติบโตที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนระบาด ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคม 2563 เป็นอีกหนึ่งที่ผลการดำเนินงานอยู่ในทิศทางที่ดี สาเหตุมาจากอัตราการขยายตัวเป็นตัวเลขสองหลักของการนำเข้า (23.1%) และการส่งออก (17.8%) ในขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้าเวียดนามชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เรื่องการอนุมัติและการเปิดตัววัคซีนป้องกันโควิด-19 ในช่วงปลายปี 2563 ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลกดีขึ้นในปี 2564 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและสายการบิน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-one-of-fastest-growing-economies-wb/194979.vnp

ยอดขายรถยนต์เวียดนาม พุ่ง 45% ในเดือนสุดท้ายของปี 63

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) เผยว่า ยอดขายรถยนต์ของเวียดนามในเดือนธันวาคม 2563 พุ่ง 31.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และ 45% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จำนวน 47,865 คัน โดยมีการจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ในเดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว และนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ 50% ทำให้ลูกค้ารีบมาซื้อรถยนต์ก่อนที่จะถึงสิ้นปี ด้วยปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในเดือนธันวาคมสูงขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ในปี 2563 ลดลง 8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน ยอดขายรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ทางสมาคม VAMA ระบุว่าในปี 2564 ถือเป็นปีที่ยากลำบากอีกครั้งสำหรับตลาดรถยนต์เวียดนาม โดยเฉพาะเมื่อเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปยังทั่วโลกและธุรกิจต่างๆ หันมาเข็มงวดในการใช้จ่าย

ที่มา : http://hanoitimes.vn/car-sales-in-vietnam-surge-45-in-2020-final-month-315948.html

กระทรวงสาธารณสุขสปป.ลาวแนะประชาชนควรเฝ้าระวัง COVID -19 ต่อไปถึงแม้ยอดผู้ติดเชื้อจะต่ำ

กระทรวงสาธารณสุขของสปป.ลาวเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วประเทศปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาลต่อการป้องกันการแพร่ระบาด COVID -19 การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการควบคุม COVID -19 อย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการงานแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุม COVID -19 แนะนำให้ประชาชนอย่านิ่งนอนใจหลังจากผู้ป่วย COVID -19 รายสุดท้ายออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทุกคนควรปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมไวรัสต่อไป โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดนของสปป.ลาวที่ติดกับไทย เวียดนาม เมียนมาร์และจีน ซึ่งปัจจุบันการแพร่ระบาดยังอยู่ในระดับที่น่ากังวล ทำให้พื้นที่ชายแดนจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/01/19/low-numbers-but-laos-health-ministry-urges-continued-vigilance-against-covid-19

สนามบินนานาชาติในกัมพูชารายงานจำนวนผู้โดยสารขาเข้าประจำปี 2020

สนามบินนานาชาติสามแห่งของกัมพูชาให้การต้อนรับผู้โดยสารรวม 2.13 ล้านคน ในปี 2020 ซึ่งลดลงกว่าร้อยละ 79 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของ State Secretariat of Civil Aviation (SSCA) โดยสนามบินนานาชาติพนมเปญให้การต้อนรับผู้โดยสารประมาณ 1.30 ล้านคน ลดลงร้อยละ 76 เมื่อเทียบกับ 5.49 ล้านคนในปี 2019 สนามบินนานาชาติเสียมเรียบให้การต้อนรับผู้โดยสาร 618,663 คน ลดลงร้อยละ 83 จาก 3.57 ล้านคนในปี 2019 สนามบินนานาชาติสีหนุให้การต้อนรับผู้โดยสารจำนวน 214,969 คน ลดลงร้อยละ 86.3 จากจำนวนผู้โดยสาร 1.57 ล้านคน ในปี 2019 รวมถึงการขนส่งสินค้ารวม 49,983 ตัน ลดลงร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยการขนส่งสินค้าส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติพนมเปญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50804884/2020-international-airport-arrivals-down-dramatically/

รัฐบาลกัมพูชาเร่งศึกษาหาวิธีกระตุ้นการส่งออกภายใต้ข้อตกลงการค้าจีน

รัฐบาลกัมพูชาเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเกี่ยวกับการศึกษาและกำหนดแนวทางในการใช้ข้อตกลงทางการค้า ในการส่งเสริมการส่งออกให้เป็นประโยชน์ โดยกระทรวงพาณิชย์ประกาศว่าขณะนี้การวิจัยกำลังดำเนินการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จะนำเข้าและส่งออกภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา (CC-FTA) ซึ่งรัฐบาลได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษเมื่อปีที่แล้วเพื่อทำการวิจัย โดยใช้การวิเคราะห์ SWOT ว่าสินค้าชนิดใดจะมีศักยภาพในการส่งออกภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการส่งออก นอกจากนี้กระทรวงยังศึกษาอัตราภาษีนำเข้าที่เป็นประโยชน์ต่อกัมพูชาและมาตรการกีดกันที่ไม่ใช่ภาษีที่กำหนดโดยประเทศคู่ค้าหลักของกัมพูชาตามกลไกข้อตกลงการค้าพหุภาคี (MFN) ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีจีน-อาเซียน (ACFTA) ที่นับเป็นข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีฉบับแรกที่กัมพูชาลงนามและข้อตกลงการค้าเสรีฉบับแรกที่ลงนามระหว่างจีนและชาติสมาชิกอาเซียน นับตั้งแต่ CCFTA มีผลบังคับใช้ กัมพูชาได้จดทะเบียนสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มเติม 340 รายการเพื่อส่งออกไปยังจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50804912/ministry-studies-how-best-to-boost-exports-under-china-deal/

EU ระดมทุนช่วยแรงงานสิ่งทอในเมียนมา

สหภาพยุโรป (EU) จัดหาเงินทุนเพิ่มอีก 5 ล้านยูโรจากกองทุน Myan Ku เพื่อช่วยเหลือแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของเมียนมาที่ยังดิ้นรนจากการปิดโรงงานและการเลิกจ้างท่ามกลาง COVID-19 ขณะนี้อียูให้การสนับสนุนแรงงานหญิงข้ามชาติที่ตกงานเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านยูโร จากการจ่ายเงินครั้งแรกไปเมื่อปีที่แล้วมีแรงงงานประมาณ 60,000 คนได้รับความช่วยเหลือไปแล้ว โดยในเดือนพฤษภาคม 63 ที่ผ่านมาได้ให้เงินช่วยเหลือรวม 108,320 รายให้กับคนงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ากว่า 60,000 คนจากทั่วภูมิภาคของเมียนมา ทั้งนี้ผู้ได้รับผลประโยชน์มากกว่า 84% เป็นแรงงานผู้หญิง ซึ่งการจ่ายเงินสดเกือบทั้งหมดประสบความสำเร็จจากการใช้แพลตฟอร์มบนมือถือของ Wave Money ทั้งนี้ Myan Ku ตั้งขึ้นโดยสหภาพยุโรปในเดือนเมษายนปี 63 วัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองมาตรการอย่างทันท่วงทีเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด -19 ที่มีต่อแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่เป็นผู้หญิงในเมียนมา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/europe-raises-funding-myanmars-garment-workers.html

ศูนย์ค้าส่งมัณฑะเลย์พร้อมเปิดให้บริการอีกครั้ง

ศูนย์ค้าส่งมัณฑะเลย์ของ Brokers Traders & Millers Ma Har Ka Htain Taw Association พร้อมเปิดบริการอีกครั้งในวันที่ 21 มกราคม 63 นี้ ซึ่งเป็นไปตามกฎและข้อบังคับของ COVID-19 ในปัจจุบันของเมียนมาหลังจากถูกปิดตัวลงไปเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีเวลาปิด-เปิดตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 00.00 น. แต่ยังมีคำแนะนำให้ขยายเวลาทำการเพื่อลดการหนาแน่นของผู้คนและจะต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ เช่น การสแกนอุณหภูมิ การล้างมือ การสวมถุงมือ และสวมหน้ากาก หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกแจ้งเตือนสำหรับครั้งแรก หากละเมิดกฎเป็นครั้งที่สองจะห้ามไม่ให้เข้าเป็นเวลาเจ็ดวัน และจะเพิ่มเป็น 15 วันหากไม่ปฏิบัติตามเป็นครั้งที่สาม ซึ่งในการเปิดศูนย์ฯ ครั้งนี้ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คือเกษตรกรเนื่องจากตรงกับช่วงเวลาเก็บเกี่ยวในฤดูหนาว

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/mandalay-wholesale-centre-reopen.html