เวียดนามคาดช้อปออนไลน์ทะลุกว่า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568

จากรายงานที่จัดทำโดย Facebook, Bain & Company เผยผลการศึกษา ‘Digital Consumers of Tomorrow, Here Today’ ชี้ว่าการใช้จ่ายออนไลน์ของคนเวียดนามจะเพิ่มขึ้น 3.7 เท่าในปีนี้ ด้วยมูลค่า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 โดยทำการสำรวจผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 17,000 รายใน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม เป็นการสำรวจในเรื่องการซื้อของออนไลน์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2561-2563 จำนวนผู้บริโภคยุคดิจิทัลในภูมิภาค เพิ่มขึ้นราว 60 ล้านคน เป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 12 ต่อปี และอีกร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรใน 6 ภูมิภาคดังกล่าว หรือประมาณ 443 ล้านคนที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคยุคดิจิทัล อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้บริโภคยุคดิจิทัลในเวียดนาม 49 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 65 ของจำนวนประชากรทั่วประเทศ เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnams-online-spending-forecast-at-us25-billion-by-2025-314409.html

ก.พาณิชย์ลั่นไทยไม่ใช่ถังขยะโลก ฝ่าฝืนเจอคุก 10 ปีปรับ 5 เท่า

กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ 428 รายการ แสดงจุดยืน ไทยไม่ใช่ถังขยะโลก ห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์มาทิ้งในประเทศ ผ่าผืนมีโทษคุก 10 ปี และปรับ 5 เท่า กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2563 โดยห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 428 รายการ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา  นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ภายในประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการใช้ทรัพยากรในประเทศอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังช่วยบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่อย่างถูกวิธีมากขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการของเสียในประเทศ

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/799144

‘พาณิชย์’ ระดมกูรูตลาดจีนเต็มเวทีเสวนาติดอาวุธผู้ส่งออกไทย เน้นการใช้ประโยชน์เอฟทีเออาเซียน-จีน

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดเสวนาติวเข้มผู้ประกอบการไทยบุกตลาดจีน เน้นการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเออาเซียน-จีน ขนกูรูตลาดจีนมาแนะนำการค้าขายกับจีนหลังโควิด-19 กลยุทธ์การบุกตลาดออนไลน์ ปลื้ม! ได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจเพียบ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการสัมมนา “1 ทศวรรษ เอฟทีเอ อาเซียน ? จีน ? ก้าวต่อไปของเอกชนไทยในแดนมังกร” ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศการจัดสัมมนาครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยทราบถึงโอกาสในการขยายการค้ากับจีน จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) อาเซียน-จีน ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2548 นอกจากนี้ กรมฯ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภาครัฐ นักวิชาการ และภาคเอกชน ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดจีนมาร่วมเสวนาในหลายประเด็น ซึ่งภายใต้ความตกลงการค้าเสรีฉบับดังกล่าว จีนได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าให้ไทยแล้วกว่า 95% ของรายการสินค้าทั้งหมดส่งผลให้การค้าสองฝ่ายเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยมูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีน นับตั้งแต่ก่อนมี FTA ในปี 2547 จนถึงปี 2562 ขยายตัวถึง 420%

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/beco/3163670

แบงก์ชาติเวียดนามปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 4 ในปี 63

ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 4 ในปีนี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. โดย SBV ปรับลดอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ลงจาก 4.5% ต่อปี สู่ระดับ 4% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอัตรารับซื้อช่วงลด (rediscount rate) ลงจาก 3% สู่ระดับ 2.5% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยของตลาดเงิน ลงจากร้อยละ 3% มาสู่ระดับ 2.5% ทั้งนี้ SBV สั่งให้ธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยให้กู้ยืมสูงสุดสำหรับเงินกู้ระยะสั้นเหลือ 4.5% จากเดิมไว้ที่ 5% โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและธุรกิจส่งออก เป็นต้น นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) ระบุว่าการเติบโตของสินเชื่อในประเทศ ณ วันที่ 22 ก.ย. อยู่ที่ 5.12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งไม่สามารถบรรลุที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ที่ 14% ในปีนี้

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-cbank-cuts-policy-rates-the-fourth-time-in-2020-314376.html

Fitch Solutions ปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามปี 63 เหลือ 2.6%

Fitch Solutions ได้ปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามเหลือร้อยละ 2.6 จากเดิมที่เคยประกาศไว้ที่ร้อยละ 3.0 สาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ GDP ของเวียดนามเติบโตร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าในไตรมาสที่ 2 ร้อยละ 0.4 จากการฟื้นตัวของภาคบริการ ทั้งนี้ ทาง Fitch Solutions คาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะกลับมาที่ร้อยละ 8.2 ในปี 2564 จากการตั้งสมมติฐานว่าจะมีการเปิดประเทศ ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้นและมาตรการในการคัดกรองคนจากภายนอกที่ประสบึวามสำเร็จในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดส่งออกสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ สหรัฐฯและสหภาพยุโรปที่มีความต้องการอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ตลาดต่างประเทศยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้อุปสงค์ลดน้อยลง

  ที่มา : http://hanoitimes.vn/fitch-solutions-cuts-vietnams-2020-growth-forecast-to-26-from-30-314377.html

ย่างกุ้งกู้เงิน ADB เพื่อปรับปรุงระบบประปา

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้ 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อพัฒนาและยกระดับระบบประปาในย่างกุ้ง ภายหลังจากคณะกรรมการพัฒนาเมืองย่างกุ้ง (YCDC) ได้ยื่นขอทุนภายใต้โครงการ Cities Development Initiative for Asia (CDIA) สำหรับโครงการ Yangon City Water Resilience CDIA ซึ่งเป็นกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจาก ADB เพื่อช่วยเหลือเมืองรองในเอเชียและแปซิฟิกในการเตรียมโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนและน่าลงทุน ADB ให้เงินกู้ 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างระบบส่งน้ำระยะทาง 34 กิโลเมตรซึ่งจะช่วยถ่ายเทน้ำ 818 ล้านลิตรต่อวันไปยังย่างกุ้งซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ของสุดในเมียนมา ซึ่งเศรษฐกิจย่างกุ้งคิดเป็น 23% ของ GDP ของเมียนมา ด้วยประชากร 5.2 ล้านคนคิดเป็น 10% ของประเทศ ตั้งแต่ปี 57 ถึง 62 มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.2% ต่อปีแต่มีน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของครัวเรือนทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงน้ำได้ โครงการนี้จะเสริมสร้างความสามารถของ YCDC ในการดำเนินงานและจัดการบริการน้ำและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดทำแผนงานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการจัดหาเงินทุนด้วยตนเองและตอบสนองความต้องการบริการน้ำที่เพิ่มขึ้น

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/yangon-receives-adb-loan-improve-water-supply-system.html

รัฐบาลการผ่อนคลายมาตรการป้องกัน COVID -19 เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ

การประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระเรื่อง “การผ่อนคลายมาตรการป้องกัน COVID -19 เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ”โดยรัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะอนุญาตให้ประเทศที่สามารถควบคุมการระบาด COVID -19ได้แล้วและมียอดผู้ติดเชื้อน้อยสามารถมาเยือนสปป.ลาวได้ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจของ COVID -19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด อย่างไรก็ตามภายใต้นโยบายดังกล่าวจะต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดเพื่อลดโอกาสการระบาดรอบ 2 ที่อาจกลับมาได้จากการเปิดประเทศครั้งนี้ นอกจากนี้ด้านการค้าจากการปิดด่านชายแดนในบางจุดที่ผ่านมารัฐบาลยังอนุญาตให้ขนส่งสินค้าได้ตามปกติแต่ยังคงไม่อนญาตให้มีการเดินทางเข้า-ออกได้ซึ่งการจะเข้ามาท่องเที่ยวนั้นจะต้องทำเรื่องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน รัฐบาลสปป.ลาวหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทสได้ แต่ก็มากับความท้าทายที่รัฐบาลต้องมีแผนรับมือที่ดีต่อโอกาสที่การระบาดจะกลับมาอีกรอบ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt192.php

รัฐบาลกัมพูชาขยายมาตรการช่วยเหลือภาคแรงงานต่อไปอีก 3 เดือน

รัฐบาลได้ขยายมาตรการสนับสนุนเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ การท่องเที่ยวและการบินจนถึงสิ้นปี 2020 โดยถือเป็นการออกมาตรการเป็นรอบที่ 6 ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยรัฐบาลจะจ่ายเงิน 40 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับคนงานที่ถูกปลดออกจากงานในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ รองเท้า กระเป๋าเดินทาง และการท่องเที่ยวไปอีกสามเดือนจนถึงสิ้นปี 2020 อย่างไรก็ตามเจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าจะต้องเพิ่มเงินอีก 30 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อเป็นการช่วยเหลือภาคแรงงาน และรัฐบาลยังคงยกเว้นการจ่ายภาษีรายเดือนในทุกประเภทสำหรับโรงแรม เกสต์เฮาส์ ร้านอาหารและตัวแทนการท่องเที่ยวที่จดทะเบียนกับแผนกจัดเก็บภาษีและดำเนินธุรกิจในกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่าแม้ว่าความพยายามในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จะมีความคืบหน้าไปมาก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าการระบาดจะสิ้นสุดลงเมื่อใดและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมมากเพียงใด เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ โดยกัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก โควิด-19 ทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามอย่างมากในการควบคุมการแพร่ระบาดและช่วยเหลือในหลายด้าน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50768727/govt-extends-support-measures-for-3-months/

เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) สร้างโซนนานาชาติภายใต้แนวคิด “วิน-วิน”

เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) กล่าวว่าจะยังคงเร่งโครงการภายใต้แนวคิด “วิน-วิน” เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการระหว่างประเทศเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษมากขึ้น สร้างการพัฒนาในท้องถิ่นและการพัฒนาสังคม ซึ่งได้มีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกันกับจีน ภายใต้แนวคิด “วิน-วิน” เพื่อปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก สนับสนุนการผลิต และการดำรงชีวิต เพิ่มขีดความสามารถในการบริการระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่สมบูรณ์แบบสำหรับองค์กรจากทั่วทุกมุมโลก โดยจากข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา (GDCE) ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2020 ซึ่งจำนวนการนำเข้าและส่งออกผ่าน SSEZ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 โดยปริมาณการนำเข้าและส่งออกรวมอยู่ที่ 951 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.13 จาก 754 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50768708/ssez-to-build-an-international-zone-with-win-win-concept/

INFOGRAPHIC : เวียดนามเผยตัวเลขนักท่องเที่ยว 9 เดือนแรกปี 63 ดิ่งลง 70.6%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ได้เปิดเผยว่าในเดือนก.ย. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนเวียดนามทั้งหมดอยู่ที่ราว 3.79 ล้านคน ลดลงร้อยละ 70.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่เดินทางโดยทางอากาศ 3.06 ล้านคน รองลงมาทางรถไฟ 0.59 ล้านคน และทางทะเลอีก 0.14 ล้านคน ตามลำดับ

หากจำแนกตามภูมิภาคของนักท่องเที่ยวต่างชาติในเวียดนาม ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า

  • เอเชีย (Asia) 2.77 ล้านคน (-72.7%YoY)
  • สหภาพยุโรป (Europe) 0.67 ล้านคน (-58.6%YoY)
  • สหรัฐอเมริกา (America) 0.24 ล้านคน (-68.1%YoY)
  • โอเชียเนีย (Oceania) 0.10 ล้านคน (-68.9%YoY)
  • แอฟริกา (Africa) 0.01 ล้านคน (-64.5%YoY)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/2020-first-9-months-foreign-tourists-to-vietnam-down-706/187877.vnp