‘อีคอมเมิร์ซเวียดนาม’ แข่งเดือด กระทบยอดสั่งซื้อออนไลน์ ดิ่ง 20%

จากรายงานตลาดอีคอมเมิร์ซของ Metric ประจำปี 2567 เปิดเผยว่ารายได้ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในเวียดนาม 5 อันดับแรก ได้แก่ Shopee, Lazada, TikTok Shop, Tiki และ Sendo มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 318.9 ล้านล้านด่อง เพิ่มขึ้น 37.36% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยตลาดอีคอมเมิร์ซของเวียดนามมีการเติบโตอย่างโดดเด่นมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงกำลังซื้อของคนเวียดนามเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ยอดคำสั่งซื้อของร้านค้าออนไลน์ กลับปรับตัวลดลง 20.25% แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้ผู้ค้าปลีกรายย่อยจำนวนมาก จำเป็นที่จะต้องออกจากตลาดออนไลน์ ทั้งนี้ จากตัวเลขจำนวนร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Shopee ในปี 2567 ลดลง 86,300 แห่ง ตามมาด้วย TikTok Shop 55,300 แห่ง Lazada 7,000 แห่ง Tiki 800 แห่ง และ Sendo 15,500 แห่ง

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-e-commerce-sector-20-of-online-shops-lose-customers-2369502.html

‘ศึกทุเรียน’ เวียดนาม-ไทย แข่งเดือดชิงตลาดส่งออกจีน

จีนยังคงเป็นผู้บริโภคทุเรียนรายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสัดส่วนสูงถึง 91% และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกหลายราย รวมถึงเวียดนาม ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย เข้ามาแข่งขันสูงขึ้นในการส่งออกทุเรียนไปยังจีน อย่างไรก็ดี ทุเรียนไทยที่เป็นผู้นำตลาดนี้ เผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนาม

ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติ พบว่าการส่งออกทุเรียนเวียดนามไปยังตลาดจีนในกลางปี 2565 เติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นผลมาจากการลงนามข้อตกลงระหว่างเวียดนาม-จีน ทำให้มูลค่าการส่งออกในปี 2565 อยู่ที่ 421 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นมาอยู่ที่ 2.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า ด้วยเหตุนี้ ส่วนแบ่งตลาดทุเรียนของเวียดนามในตลาดจีน เพิ่มขึ้นจาก 5% ในปี 2565 ขึ้นมาอยู่ที่ 35% ในปี 2566

นอกจากนี้ ทางการไทยได้เตือนว่าทุเรียนไทยเผชิญกับความท้าทายในอนาคต เนื่องจากการส่งออกทุเรียนเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดการณ์ว่าการส่งออกทุเรียนเวียดนาม มีแนวโน้วที่จะเท่ากับทุเรียนไทยในระยะเวลาไม่ถึง 1-2 ปีข้างหน้า

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-thailand-in-fierce-competition-exporting-durian-to-china-2369200.html

‘เงินเฟ้อ’ เมืองฮานอย ม.ค. เพิ่มขึ้น 3.09%

สำนักงานสถิติฮานอย เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเมืองฮานอยในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.51% จากเดือนก่อน โดยมีกลุ่มสินค้า 10 รายการจากทั้งหมด 11 รายการที่ปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าวัฒนธรรม บันเทิง และการท่องเที่ยว ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าสูงที่สุด อยู่ที่ 0.74% รองลงมากลุ่มขนส่ง เพิ่มขึ้น 0.73% และกลุ่มที่อยู่อาศัย ไฟฟ้า น้ำ เชื้อเพลิงและวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มบริการไปรษณีย์และโทรคมนาคมที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ 0.07%

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาดัชนี CPI ของเมืองฮานอย เพิ่มขึ้น 3.09% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) แสดงให้เห็นว่ากลุ่มยาและบริการด้านสุขภาพ เพิ่มขึ้นสูงที่สุด (19.91%) ตามมาด้วยกลุ่มที่อยู่อาศัย ไฟฟ้า น้ำ เชื้อเพลิงและวัสดุก่อสร้าง (6.37%) กลุ่มบริการอาหารและการรับประทานอาหาร (3.27%) และกลุ่มสินค้าวัฒนธรรม บันเทิง และการท่องเที่ยว (3.87%)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hanois-january-consumer-price-index-up-309-annually-post309381.vnp

ห้องปฏิบัติการมาตรฐานทองคำและเงินย่างกุ้ง จดทะเบียนกับ DICA

สมาคมผู้ประกอบการทองคำแห่งย่างกุ้ง (YGEA) ระบุว่าห้องปฏิบัติการมาตรฐานทองคำและเงินของย่างกุ้งได้รับการรับรองจากสำนักงานการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) ห้องปฏิบัติการมาตรฐานทองคำและเงินแห่งย่างกุ้ง จำกัด จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายบริษัทเมียนมาร์ 2017 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2025 ในฐานะบริษัทเอกชนจำกัด โดย สมาคมฯ จะรับประกันการดำเนินงานของห้องปฏิบัติการที่มีความสามารถและสม่ำเสมอตามมาตรฐานทองคำ และจะพยายามให้ห้องปฏิบัติการได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO-17025 ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับการทดสอบและการสอบเทียบได้ตามมาตรฐานสากล ด้านคณะกรรมการกำหนดราคาอ้างอิงแร่ (ทองคำ) กำหนดราคาอ้างอิงทองคำบริสุทธิ์ไว้ที่ 5.47 ล้านจ๊าดต่อ tical (16.329325 กรัม) โดยมีทองคำที่มีความหนาแน่น 19.25 กรัม (เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2567) อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงราคาที่เพิ่มขึ้น 120,000 จ๊าดต่อ tical ภายในสองสัปดาห์ นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้แจ้งให้เจ้าของร้านทองทราบถึงการขอใบอนุญาตการค้าอัญมณีภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 และหากไม่ได้รับใบอนุญาตจะถูกดำเนินคดี

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/yangon-gold-and-silver-lab-registered-with-dica/.

‘เวียดนาม’ มุ่งผลักดันเศรษฐกิจ 16 จังหวัด โตทะลุ 10%

รัฐบาลเวียดนามได้ออกมติที่ 25 เปิดเผยว่าเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศระดับภูมิภาค (GRDP) ในภูมิภาคต่างๆ โดยตั้งเป้า GRDP ของจังหวัดบั๊กซาง ไฮฟอง และกว๋างนิญ ขยายตัวเกินว่า 12% ในปี 2568 และตั้งเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม ขยายตัวอย่างน้อย 8% ในปีนี้ ในขณะที่ 16 จังหวัดและเมืองต่างๆ ในภูมิภาค ตั้งเป้าขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคที่ 2 หลัก ทั้งนี้ เป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ มุ่งเน้นไปที่การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนไว้ที่ 2 หลัก ในปี 2569-2573 ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเวียดนามมอบหมายให้หน่วยงานในท้องถิ่นและผู้ที่เกี่ยวข้อง ติดตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและดำเนินนโยบายอย่างมีประสิทธิผล

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-pushes-for-high-growth-16-provinces-set-to-achieve-10-grdp-2368893.html

ที่ดินปาล์มน้ำมัน 4,754 เอเคอร์ ในตะนาวศรี และเกาะสอง เตรียมถูกแปรรูป

กระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และชลประทานได้เรียกร้องให้มีการประมูลแบบเปิดสำหรับพลเมืองเมียนมาสำหรับการเช่าพื้นที่ปาล์มน้ำมัน 4,754 เอเคอร์ในพื้นที่ตะนินทายีและเกาะสอง อย่างไรก็ดี คณะกรรมการพิจารณาและประเมินการประมูลระบุว่า กองพืชยืนต้นของกรมเกษตรจะเช่าพื้นที่ปาล์มน้ำมัน 2,000 เอเคอร์ในตำบลตะนินทายีและ 2,753 เอเคอร์ในตำบลเกาะสอง โดยปฏิบัติตามกฎและระเบียบการประมูล แบบฟอร์มการประมูลสามารถนำไปรับได้ในวันที่ 3-14 กุมภาพันธ์ที่กรมเกษตร (สำนักงาน 43) ในเนปิดอว์ กำหนดส่งใบสมัครคือวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. บุคคลสามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ทางหมายเลขติดต่อของกรม 067 3410210 และ 067 341118

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/4754-oil-palm-acres-in-taninthayi-kawthoung-set-for-privatization/#article-title

เชิญชวนนักธุรกิจเมียนมาร่วมงาน Smart Farm Korea 2025 (SFKOREA 2025)

ตามข้อมูลขององค์กรส่งเสริมการค้าเมียนมา งาน Smart Farm Korea 2025 (SFKOREA 2025) กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2025 ที่ศูนย์การประชุมชางวอน จังหวัดคยองซังนัมโด และเปิดรับนักธุรกิจชาวเมียนมาที่สนใจซื้อเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ฟาร์มอัจฉริยะเข้าร่วมงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการพัฒนาภาคการเกษตรและปศุสัตว์ และสนับสนุนเกษตรกรที่จะเป็นผู้นำการพัฒนาภาคการเกษตรและปศุสัตว์ในอนาคตให้ใช้เทคโนโลยีฟาร์มอัจฉริยะที่ทันสมัย ซึ่ง​​คาดว่าจะมีบริษัทประมาณ 120 แห่งจัดแสดงเทคโนโลยีฟาร์มอัจฉริยะ โซลูชันอัจฉริยะ และผลิตภัณฑ์ของตน โดยมีบูธ 400 แห่ง และคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมได้ประมาณ 20,000 คน รายการที่นำมาจัดแสดงประกอบด้วยเกษตรกรรมในอนาคต (ระบบอัตโนมัติ) โรงงานอัจฉริยะและอุปกรณ์ (โดรนเกษตร) เกษตรในเมือง การกลับสู่การเกษตรและหมู่บ้านชนบท วัสดุและอุปกรณ์ทางการเกษตรและปศุสัตว์ โรงงานผลิตพืชเพื่อผลิตผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพสูงตลอดทั้งปี บรรจุภัณฑ์ การจัดจำหน่าย และระบบโลจิสติกส์และการศึกษาด้านการศึกษาไอซีที การปฏิบัติภาคสนามของฟาร์มอัจฉริยะ การจัดการโรคพืชและสัตว์ การศึกษาข้อมูลด้านการเกษตรและชนบท เป็นต้น

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/smart-farm-korea-2025-sfkorea-2025-invites-myanmar-businesspeople/

‘เวียดนาม’ ส่งออกไปตลาดยุโรป ปี 67 โตแรง มูลค่าแตะ 51.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่าในปี 2567 เวียดนามส่งออกไปยังสหภาพยุโรป มูลค่า 51.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.5% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) โดยกลุ่มสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ มีมูลค่าราว 10.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 66.9%YoY ตามมาด้วยโทรศัพท์และชิ้นส่วน ปรับตัวลดลง 13.4%YoY มูลค่าอยู่ที่ 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าสินค้าของเวียดนามกับสหภาพยุโรป มูลค่า  16.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12%YoY ทั้งนี้ ผลการการเติบโตที่แข็งแกร่งทางด้านการค้าระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป เนื่องมาจากได้รับอนิสงค์จากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 5 ของการบังคับใช้ นับตั้งแต่ FTA มีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม 2563

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1691572/viet-nam-s-exports-to-eu-see-impressive-recovery-in-2024.html

‘ดัชนี PMI’ ภาคการผลิตเวียดนาม ม.ค. หดตัว

เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนามในเดือน มกราคม 2568 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 48.9 จากเดือนธันวาคม 2567 ที่อยู่ระดับ 49.8 โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีฯ ในเดือนดังกล่าวปรับตัวลดลง คือ การลดลงของยอดคำสั่งซื้อใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของความต้องการจากลูกค้า อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของกลุ่มบริษัทหรือกิจการต่างๆ พบว่าภาคธุรกิจยังคงเผชิญกับอุปสรรคความล่าช้าในการจัดหาวัตถุดิบ โดยระยะเวลาในการจัดส่งของซัพพลายเออร์ล่าช้ามากขึ้น และนับเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ เมื่อสอบถามถึงแนวโน้มในปีหน้า พบว่าบริษัทต่างๆ ยังคงมองไปในทิศทางที่เป็นบวก และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 36% คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1691543/viet-nam-s-manufacturing-pmi-slips-into-contraction-in-january.html

‘โอกาสและความท้าทาย’ ผลักดันเงินดิจิทัลเวียดนาม

บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนของสหรัฐฯ ‘Chainalysis’ เปิดเผยการจัดอันดับประเทศโดยใช้ดัชนีประเทศที่มีการยอมรับคริปโทเคอร์เรนซี ปี 2567 (Global Crypto Adoption Inde) ในการพิจารณาและวิเคราะห์ พบว่าเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 5 ของดัชนีฯ ทั้งนี้ นายฟาน ดึ๊ก จุง (Phan Duc Trung) รองประธาน สมาคมบล็อกเชนแห่งเวียดนาม คาดการณ์ว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมที่แปลงเป็นโทเค็นจะสูงถึง 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 คิดเป็น 10% ของ GDP ทั่วโลก ในขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่เพียง 0.6% เท่านั้น ดังนั้นเวียดนามจึงไม่สามารถอยู่นอกกระแสนี้ได้ และด้วยประชากรที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 17 ล้านคนในปี 2567 ด้วยเหตุนี้ เวียดนามได้วางตำแหน่งประเทศให้เป็นผู้บุกเบิกระบบบล็อกเชน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/opportunities-and-challenges-in-vietnams-crypto-boom-post309178.vnp