พิษการเมืองกระทบหนักภาคการเกษตรเมียนมา

การยึดอำนาจของกองทัพในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 ส่งผลให้ภาคเกษตรกรรมของประเทศอย่างรุนแรง การส่งออกและโครงการที่วางแผนไว้ถูกระงับ นาย Daw Sandar Myo ประธานสมาคมผู้ประกอบการอะโวคาโดแห่งเมียนมา เผยหลังการหารือการจัดตั้งโรงงานคัดบรรจุอะโวคาโดที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐในรัฐฉานตอนใต้ได้ถูกโต้กลับจากสหรัฐด้วยเช่นกัน ความช่วยเหลือจากนานาชาติหยุดลง ซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือจากเดนมาร์ก ทั้งนี้โครงการที่มุ่งเน้นไปที่ MSMEหรือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย เช่น Responsible Business Fund จะหยุดลงหรือไม่ยังไม่มีความแน่ชัด องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ได้ระงับโครงการการค้าเกษตรอาเซียนและความร่วมมืออื่น ๆ กับเมียนมา การส่งออกผลไม้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันไม่ว่าจะเป็นอะโวคาโดและขิงไปที่ส่งออกไปสหราชอาณาจักรและแตงเมลอนไปยังสหภาพยุโรป แผนการส่งออกแตงโมไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังไม่เป็นที่ชัดเจนมากนัก สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกผลไม้ดอกไม้และผักแห่งเมียนมา มีแผนจะขายผลไม้เพื่อการส่งออกในตลาดท้องถิ่น แต่อาจเป็นไปได้ยากเนื่องจากมีผลผลิตจำนวนมาก

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/political-unrest-turns-myanmars-agriculture-sector-sour.html

รัฐบาลกัมพูชาร่วมกับหอการค้ายุโรป ส่งเสริม SME ผ่านเทคโนโลยีสีเขียว

กัมพูชาและสหภาพยุโรป (EU) มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันในการส่งเสริมการพัฒนา SME ผ่านเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมสีเขียวในกัมพูชา โดยคำมั่นสัญญาดังกล่าวถูกกล่าวขึ้นในการประชุมระหว่างรัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมกับประธานหอการค้ายุโรปในกัมพูชา (EuroCham) ซึ่งได้กำหนดขอบเขตความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนาเทคโนโลยีการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ด้วยเทคโนโลยีสีเขียว และการปรับปรุงทรัพยากรมนุษย์ ทั้งยังยืนยันการหารือก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับร่างกฎหมายการลงทุน ในการแก้ไขการทับซ้อนกันในการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ทรัพย์สินทางปัญญา และนวัตกรรม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50811281/cambodia-eurocham-to-boost-sme-technology-science-and-green-industry/

ผู้ประกอบการยุโรป มองสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในเวียดนามสดใส

การสำรวจดัชนีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของ EuroCham (BCI) ระบุว่าผู้ประกอบการยุโรปส่วนใหญ่มองสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของเวียดนาม อยู่ในแนวโน้มสดใส ซึ่งดัชนี BCI เพิ่มขึ้น 6 จุดในไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 แตะ 63.6% ตลอดทั้งปี ถือว่าเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ BCI เติบโตได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ เป็นผลมาจากความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และผลบังคับใช้ของข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) ที่มีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม โดยปัจจัยทั้งสองดังกล่าว ช่วยให้ความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นและกระตุ้นการทำธุรกิจ อีกทั้ง ตามการสำรวจของ EuroCham เผยว่าธุรกิจส่วนใหญ่ 57% เชื่อว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีเสถียรภาพและดีขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ นอกจากนั้น ประมาณ 70% ธุรกิจได้รับประโยชน์จาก EVFTA ที่มีผลบังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ธุรกิจราว 33% ชี้ว่าขั้นตอนการบริหารของทางราชการยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการเพิ่มความได้เปรียบจากข้อตกลงดังกล่าว

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/eu-firms-show-optimism-on-vietnams-business-climate-in-2021-28010.html

สหภาพยุโรป ร่วมกับ Khmer Enterprise กัมพูชา พัฒนาพลังงานสะอาด

Khmer Enterprise ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน (MEF) และ EnergyLab ซึ่งเป็นศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพด้านพลังงานแห่งเดียวของกัมพูชา ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการเริ่มต้นพลังงานสะอาดในภาคเกษตรกรรม การประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกัมพูชา ภายใต้การสนับสนุนทางด้านเงินทุนจากสหภาพยุโรป โดยความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการด้านพลังงานสะอาดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งปรับให้เข้ากับความต้องการด้านพลังงานของผู้ประกอบการประมงในภูมิภาค โดย EnergyLab จะคัดเลือกบริษัทสตาร์ทอัพด้านพลังงานสะอาดจำนวน 5-10 ราย ในแต่ละปีเพื่อเข้าร่วมในโครงการบ่มเพาะระยะเวลาโครงการ 1 ปี ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวแนะนำการเริ่มต้นธุรกิจด้วยการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น การให้คำปรึกษาและการฝึกสอนแบบตัวต่อตัวเพื่อนำไปสู่การสร้างพลังงานสะอาดภายในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50806857/eu-and-khmer-enterprise-fund-partnership-for-clean-energy-innovation-in-the-agri-fishery-sector/

PPSEZ ส่งออกไปยังสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และอาเซียน เพิ่มขึ้นในปี 2020

การส่งออกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ (PPSEZ) ภายใต้ FTA อาเซียน – สหภาพยุโรป และโครงการ GSP / MFN (Generalized System of Preferences / Most-Favored Nation) ของสหรัฐฯ มีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ประมาณ 507 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเสื้อผ้า สิ่งทอ รองเท้า และสินค้าสำหรับการเดินทาง ไปยังสหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น คิดเป็นการส่งออกเสื้อผ้ารวม 20.34 ล้านดอลลาร์ สินค้าที่เกี่ยวกับการเดินทาง 4.637 ล้านดอลลาร์ และรองเท้าคิดเป็นมูลค่า 826,504 ดอลลาร์ ไปจนถึงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ คิดเป็น 481.68 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในปีนี้จะขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ COVID-19 นั้นจะอยู่ในทิศทางใด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50805264/ppsez-exports-to-us-eu-and-asean-up-substantially-in-2020/

กัมพูชาเตรียมการเจรจาด้านการค้าและการลงทุนกับสหภาพยุโรป

กัมพูชาและสหภาพยุโรป (EU) ได้จัดให้มีการหารือเตรียมการสำหรับการประชุมกลุ่มย่อยด้านการค้าและการลงทุน ครั้งที่ 11 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26-27 พ.ย. โดยการเตรียมการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ระหว่างการประชุมทางวิดีโอ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาเป็นประธานร่วมที่กระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าฝ่ายการค้าและการลงทุนของคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย โดยทางกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาได้ทำการอัปเดตเกี่ยวกับปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและสหภาพยุโรป ไปจนถึงผลกระทบจากโควิด-19 ต่อการค้าและการลงทุนของกัมพูชา ซึ่งในที่ประชุมยังพิจารณาถึงการแก้ไขกฎหมายการค้าและการลงทุนของกัมพูชา การเจรจาภายใต้กรอบการค้าเสรีทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งความคืบหน้าของวาระการประชุมในองค์การการค้าโลก (WTO)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50784381/cambodia-eu-trade-and-investment-talk-set-for-next-week/

สัดส่วนการส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้าของกัมพูชาลดลง

ส่วนแบ่งการส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้าของกัมพูชาลดลงเนื่องจากผู้ผลิตภายในประเทศมีการกระจายสินค้าส่งออกให้เป็นไปตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม (IDP) ปี 2015-2025 ที่กำหนดไว้ให้มีการสร้างความหลากหลายในด้านการผลิตสิ่งทอภายในประเทศ ตามร่างรายงาน IDP ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีกล่าวว่าในช่วง 3 ปี ของการดำเนินนโยบายเป้าหมายหลักสามประการของนโยบายนี้ได้รับการดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยกระทรวง สถาบันและหน่วยงานย่อยระดับชาติที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกันอย่างสุดความสามารถ ซึ่ง IDP เปิดเผยว่าส่วนแบ่งของภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอต่อ GDP คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ร้อยละ 30 ภายในปี 2025 อย่างไรก็ตามส่วนแบ่งการส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้าลดลงอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 71.6 ของการส่งออกทั้งหมดในปี 2015 สู่ร้อยละ 69.2 ในปี 2018 จากการที่สหภาพยุโรป (EU) ได้ระงับสิทธิพิเศษทางการค้าในภาคส่วนเสื้อผ้าและสิ่งทอประจำปี มูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ ของกัมพูชาบางส่วน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50755470/cambodias-garment-and-footwear-exports-share-declines/