คาด GDP กัมพูชาปีนี้พุ่งแตะ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์

คาด GDP กัมพูชาปีนี้ อาจเพิ่มขึ้นไปแตะมูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ รายงานโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน (MEF) นอกจากนี้คาดว่า GDP ต่อหัวจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,071 ดอลลาร์ ภายในปี 2024 เทียบกับมูลค่า 1,917 ดอลลาร์ ในปี 2023 ขณะที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 6.6 ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.1 ในปีนี้ อันเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ขยายวงกว้าง ด้าน Phan Phalla รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเสริมว่า ภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มในระบบเศรษฐกิจกำลังเติบโตได้ดี รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น ขณะที่การเพิ่มขึ้นของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน นำมาโดยนักลงทุนจากประเทศจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501443985/cambodias-gdp-likely-to-touch-35b-this-year-ministry-says/

ธนาคารโลกประเมิน ‘การท่องเที่ยวของลาวสามารถเติบโตและผลักดัน GDP ได้ถึง 10%’

ธนาคารโลกประเมินว่าการท่องเที่ยวของลาว สามารถเติบโตและมีส่วนผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศได้ถึง 10% ด้วยการลงทุนและการปฏิรูปที่เหมาะสม ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเริ่มต้นแคมเปญการท่องเที่ยวของลาวปี 2567 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนอย่างน้อย 4.6 ล้านคน ทั้งนักท่องเที่ยวชาวลาวและจากประเทศอื่นๆ “นี่แสดงให้เห็นถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยปัจจุบันการท่องเที่ยวมีสัดส่วนประมาณ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของลาว” ธนาคารโลกระบุว่า “การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกของประเทศลาว รัฐบาลกำลังดำเนินการตามแผนงานการฟื้นฟูการท่องเที่ยวลาว พ.ศ. 2564-2568 แผนงานนี้เป็นแนวทางที่สำคัญเกี่ยวกับการดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมในช่วงฟื้นตัวหลังโควิด (กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว, 2021)”

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_16_Laotourism_y24.php

‘สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด’ คาด GDP เวียดนาม ปี 67 โต 6.7%

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม ในปี 2567 อยู่ที่ 6.7% (6.2% และ 6.9% ในช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังของปี ตามลำดับ) ในขณะที่นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประจำประเทศไทยและเวียดนาม มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามยังคงอยู่อยู่ในระยะกลาง พร้อมกับคงรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/standard-chartered-forecasts-vietnams-2024-gdp-growth-at-67/276076.vnp

‘เวียดนาม’ เผยสัดส่วนหนี้สาธารณะ ปี 66 แตะ 37% ต่อ GDP

กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าหนี้สาธารณะของเวียดนามในปี 2566 มีมูลค่า 3.8 พันล้านล้านด่อง หรือคิดเป็น 37% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งตัวเลขหนี้สาธารณะดังกล่าวอยู่ในระดับไม่เกินเพดาน 60% ตามที่รัฐสภากำหนดไว้ และยังต่ำกว่าประมาณการณ์ของกระทรวงฯ

ทั้งนี้ นายโฮ ดึก ฟอก  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าถึงแม้เวียดนามจะเผชิญกับความท้าทายของเศรษฐกิจโลก แต่นโยบายการคลังของเวียดนามในปีที่แล้ว สามารถบรรลุความสำเร็จมาได้ อย่างไรก็ดี เมื่อประเมินปี 2567 กระทรวงการคลังประมาณการณ์ถึงปัจจัยและความท้าทายต่างๆ และมองว่าการจัดเก็บงบประมาณของรัฐ คาดว่าจะอยู่ที่ 1.7 พันล้านล้านด่อง ในขณะที่การใช้จ่ายงบประมาณที่ 2.1 พันล้านล้านด่อง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-2023-public-debt-at-37-of-gdp-post1069195.vov

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิจิทัลโต 25% ปี 68

จากการประชุมเชิงปฏิบัติการการตัวชี้วัดและวิธีการวัดผลของมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจดิจิทัลในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และผลิตภัณฑ์มวลรวมภูมิภาค (GRDP) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. โดยคุณเหวียน ธิ ถู เฮือง จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) กล่าวว่าสัดส่วนมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจดิจิทัลต่อจีดีพี ตั้งแต่ปี 2563-2565 อยู่ที่ 12.75% และ 12.67% ในปี 2565

ทั้งนี้ หากพิจารณาแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจ พบว่าภาคบริการเวียดนามมีส่วนผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุด 6.59% ในปี 2563-2565 ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง 6.11% และภาคเกษตรกรรมมีตัวเลขต่ำที่สุด 0.05% ของ GDP อย่างไรก็ดี ขนาดของเศรษฐกิจดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2563-2565 แสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมของรัฐบาลที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล อีกทั้ง เศรษฐกิจดิจิทัลคาดว่าจะมีสัดส่วน 25% ของ GDP เวียดนามในปี 2568 และเพิ่มขึ้น 30% ในปี 2573 ตามมติของคณะกรรมการที่ 52 (52/HQ-TW)

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-projects-high-proportion-of-digital-economy-in-gdp-2223887.html

‘ADB’ คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามปี 67 โต 6%

จากรายงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชีย (ADO) ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปี 2567 ขยายตัว 6% ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารฯ มองว่าจากอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอเกินกว่าที่คาดไว้ ยังคงเป็นอุปสรรคต่อภาคอุตสาหกรรมและบริการ ตลอดจนส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายการเงินเชิงรุกและมีความรอบคอบ เพื่อที่จะควบคุมราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า อาหาร การดูแลสุขภาพ การศึกษา ล้วนมีผลทำให้เกิดเงินเฟ้อ ด้วยเหตุนี้ เงินเฟ้อของเวียดนามคาดว่าจะอยู่ที่ 3.8% ในปีนี้ ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้น 4% ในปีหน้า

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/adb-projects-6-gdp-growth-for-vietnam-next-year-post1065201.vov

World Bank วิเคราะห์เศรษฐกิจ สปป.ลาว ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

World Bank หรือธนาคารโลก คาดการณ์เศรษฐกิจ สปป.ลาว จะเติบโตที่ร้อยละ 4.1 ในปี 2567 แต่ความท้าทายจะยังคงมีอยู่ จากผลของอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น หนี้ต่างประเทศที่สูง และขาดแคลนแรงงาน การขยายตัวทางเศรษฐกิจ สปป.ลาว ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว บริการขนส่งและโลจิสติกส์ และการลงทุนจากต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น แต่อัตราการเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า ตามข้อมูลของธนาคารโลกแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทำให้ต้นทุนการบริโภคและธุรกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การใช้จ่ายของครัวเรือนในด้านอาหาร การศึกษา และสุขภาพลดลง อัตราเงินเฟ้อยังทำให้เงินออมลดลง ส่งผลให้หลายครอบครัวเสี่ยงต่อการตกอยู่ในความยากจน “แม้ว่าราคาสินค้านำเข้าบางชนิดในตลาดโลกจะลดลง แต่อัตราเงินเฟ้อของลาวยังคงอยู่ในระดับสูง โดยสูงถึงร้อยละ 26 ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยอัตราเงินเฟ้อของราคาอาหารอยู่ที่ร้อยละ 29 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อครัวเรือนที่ยากจน” นอกจากนี้ ค่าเงินของประเทศที่อ่อนค่าลงเป็นสาเหตุหลัก โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าเงินกีบที่ลดลงร้อยละ 1 จะทำให้ราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงจนกว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ เงินกีบอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2566 โดยมีมูลค่าลดลงร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับเงินบาท และร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจนถึงเดือนตุลาคม ความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของเงินตราต่างประเทศและการไหลเข้าของรายได้จากการส่งออกที่จำกัด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจลาว

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_235Laossees_23.php

‘เศรษฐีหญิงชาวเวียดนาม’ ถูกแจ้งข้อหาความผิดฐานฉ้อโกง เงินกว่า 6% ของ GDP เวียดนาม

เจือง หมี ลาน (Nguyen Thi Phuong Thao) เศรษฐีหญิงชาวเวียดนามที่ร่ำรวยที่สุดในเวียดนาม และยังเป็นประธานกลุ่มบริษัท Wan Sheng Huat ซึ่งเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นในชื่อ “เจ้าสัวอสังหาริมทรัพย์” ได้ถูกรัฐบาลเวียดนามจับกุมเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ในข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์ ติดสินบน และการยักยอกทรัพย์สินของบริษัท ทั้งนี้ จากการสอบสวนครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นว่ามหาเศรษฐีหญิงชาวจีน Zhang Meilan ถูกสงสัยว่าจะบ่อนทำลายธนาคาร Saigon Commercial Bank (SCB) และยักยอกเงินของลูกค้าจำนวน 304 ล้านล้านดอง หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 6% ของ GDP เวียดนามในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้

ที่มา : https://www.world-today-news.com/vietnams-richest-woman-arrested-for-fraud-the-amount-actually-accounts-for-6-of-vietnams-gdp/

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้า GDP ปี 67 โต 6-6.5%

สมัชชาแห่งชาติเวียดนาม (NA) ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม อยู่ที่กรอบ 6-6.5% และรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 4,700-4,7300 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 แต่ว่ารัฐบาลเวียดนามจำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อผลักดันให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ทั้งนี้ นาย หวู ฮ่ง ทานห์ ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจของสมัชชาแห่งชาติ กล่าวระหว่างการประชุมว่าสมาชิกสภาผู้แทนมีความกังวลถึงเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่ตั้งเป้า 6.0-6.5% ซึ่งอยู่ในระดับสูง และยังได้แนะนำให้ลดเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5-6%

นอกจากนี้ Shanaka Peiris หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ IMF กล่าวว่าเวียดนามเผชิญกับความยากลำบากจากภาวะการส่งออก อสังหาริมทรัพย์ และการเงิน อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจเวียดนามอยู่ในช่วงฟื้นตัวดีขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1636547/2024-gdp-target-of-6-6-5-per-cent-feasible-experts.html

‘Fitch Ratings’ มองเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตเชิงบวก

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ‘ฟิทช์ เรทติ้งส์’ (Fitch Ratings) คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามปี 2567 ขยายตัวที่ 6.3% และ 7.0% ในปี 2568 ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจเวียดนามในระยะกลางยังคงอยู่ในระดับที่ดีและคงรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากตัวเลขสถิติของสถาบันจัดอันดับ พบว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ชะลอตัวลง 4.3% ท่ามกลางอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอ รวมถึงปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังยืดเยื้อ นอกจากนี้ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ และยังส่งผลให้ธนาคารกลางหลายแห่งดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ที่มา : https://dtinews.dantri.com.vn/en/news/017/86307/fitch-ratings-remains-optimistic-about-vietnam-s-economic-growth.html