รัฐบาลให้คำมั่นแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำมัน กีบอ่อน หนี้สินประเทศ

รัฐบาลให้คำมั่นที่จะดำเนินการที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงและหนี้ที่เป็นหนี้กับบริษัทเอกชนและต่างประเทศ คำมั่นสัญญานี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในการบรรลุเป้าหมายของสองวาระแห่งชาติ ซึ่งพยายามบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ และควบคุมกับการป้องกันค้ายาเสพติด ในการประชุมประจำเดือนของคณะรัฐมนตรีที่จัดขึ้นที่เวียงจันทน์เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นชอบที่จะจัดหาแหล่งการลงทุนระยะยาวเพิ่มเติมจากภาคเอกชนในประเทศลาวและประเทศอื่นๆ และผลักดันโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ให้ก้าวหน้าตามแผนที่วางไว้ การเคลื่อนไหวเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างงานมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ควบคุมการใช้จ่ายและรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราให้มีเสถียรภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten103_Govtvows.php

“ประยุทธ์” ร่วม Nikkei Forum ชู 3 ประเด็นอาเซียนเดินหน้าเศรษฐกิจ ลงทุนยั่งยืน

นายกฯ กล่าวปาฐกถาในการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27 ที่ญี่ปุ่น ชู 3 เรื่องสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ได้แก่ กระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ต้องสนับสนุนระบบพหุภาคีต่อไป การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจะต้องเกิดควบคู่ไปกับความยั่งยืน อีกทั้งแนะให้อาเซียนผลักดันบทบาทของอาเซียนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในรูปแบบพหุภาคี การรวมกลุ่มความร่วมมือและสร้างเศรษฐกิจยั่งยืน ทั้งนี้มองควรมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่นมาลงทุน EV  – ดาต้าเซนเตอร์ – BCG

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/1006559

‘อาเซียน’ เร่งขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจก้าวสู่ยุคดิจิทัล คาดปีหน้า GDP อาเซียนโตถึง 5.2%

รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ร่วมถกแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจภูมิภาค เน้นเทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งสานสัมพันธ์กับประเทศนอกกลุ่ม ย้ำจุดยืนการเป็นภูมิภาคที่เปิดกว้าง โปร่งใส ยึดมั่นในหลักเกณฑ์ การใช้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมหนุนศึกษาข้อริเริ่มที่ช่วยรับมือกับความมั่นคงทางอาหารและสาธารณสุข มั่นใจ ปีหน้า GDP อาเซียนจะขยายตัวเพิ่มถึง 5.2% ด้าน ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับกลไกในการขับเคลื่อนอาเซียนไปสู่อนาคต ควรให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน ที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ซึ่งเป็นหัวข้อหลักในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค (APEC) ของไทยในปีนี้ด้วย สำหรับในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค. 2565) การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 31,125.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 17.2% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกจากไทยไปอาเซียน มูลค่า 17,906.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 17% และการนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 13,218.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 17.4%

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/beco/3325478

‘ศก.เวียดนาม’ เผิชญกับความท้าทายใหม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนโลก

The Economic Information Daily ซึ่งเป็นสื่อในเครือของสำนักข่าวซินหัวที่เป็นสื่อของรัฐบาลจีน ได้ตีพิมพ์บทความระบุว่าเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ท่ามกลางสถานการณ์ทั่วโลกที่มีความผันผวน ตามรายละเอียดชี้ให้เห็นว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจท้องถิ่นได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ เศรษฐกิจของประเทศมีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะเมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 เวียดนามก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีการเติบโตของ GDP เป็นบวก นอกจากนี้ เศรษฐกิจเวียดนามกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการดำเนินใช้ชีวิตกำลังจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนเกิดโรคระบาด แต่ก็กำลังเผชิญกับอุปสรรคใหม่ อาทิ ปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกและปัจจัยดังกล่าวเริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามอีกด้วย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-economy-facing-new-challenges-amid-global-uncertainties-post946020.vov

เศรษฐกิจ สปป.ลาว ส่อผันผวน จากกระแสเงินทุนไหลออก

กระแสเงินทุนไหลออกของสกุลเงินต่างประเทศพุ่งสูงขึ้น นำหน้ากระแสเงินทุนไหลเข้าในปัจจุบัน ส่งผลทำให้สกุลเงินต่างประเทศขาดสภาพคล่อง กระทบภาคการนำเข้าเป็นสำคัญ โดย Vientiane Times รายงานว่า Sonexay Sithphaxay ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ สปป.ลาว รายงานว่ามีเพียงร้อยละ 33 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ สปป.ลาว ผ่านระบบธนาคารในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ซึ่งส่วนที่เหลือถูกนำไปฝากไว้ในต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน ประมาณร้อยละ 98 ของมูลค่านำเข้าทั้งหมดถูกโอนออกนอกประเทศผ่านระบบธนาคารในช่วงนี้ อีกทั้งการลงทุนจากต่างประเทศที่แท้จริง ไหลเข้าผ่านระบบต่ำกว่ามูลค่าการลงทุนที่ได้ตกลงกันไว้มาก ส่งผลทำให้เงินทุนไหลออกมากกว่าเงินทุนไหลเข้า กระทบอุปทานของสกุลเงินต่างประเทศที่ยังไม่เพียงพอ ถึงแม้ภาคการค้าจะเกินดุลในช่วง 3 เดือนแรกของปีก็ตาม โดยปัจจุบันเงินกีบอ่อนค่าลงเป็นอย่างมากอยู่ที่ร้อยละ 18.36 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และ ร้อยละ 9.4 เมื่อเทียบกับค่าเงินบาทในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://laotiantimes.com/2022/05/19/laos-economy-short-changed-by-foreign-currency-outflows/

รัฐบาลสปป.ลาว-เวียดนาม เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจลาว-เวียดนาม

Vuong Dinh Hue ประธานสมัชชาแห่งชาติของเวียดนาม เรียกร้องให้ภาคธุรกิจในสปป.ลาวและเวียดนามสร้างความก้าวหน้าในด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติสำหรับทั้งสองประเทศ การพัฒนาความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนให้อยู่ในระดับเดียวกับความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทูตระหว่างเวียดนามและสปป.ลาวเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลลาวและเวียดนามตกลงที่จะส่งเสริมการค้าแบบพหุภาคีเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เป็นร้ยละ 15 ในช่วงปี 2564 โดยสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน เพื่อกระตุ้นการแลกเปลี่ยนทางการค้า อย่างไรก็ตาม ผู้บัญญัติกฎหมายระดับสูงของเวียดนามกล่าวว่ามูลค่าการค้าสองทางยังคงอยู่ในระดับที่พอประมาณเมื่อเทียบกับศักยภาพและความได้เปรียบของทั้งสองประเทศ ดังนั้นทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเร่งรัดโครงการความร่วมมือ ด้านการลงทุนในปี 2564 ผู้ประกอบการเวียดนามได้ลงทุนในสปป.ลาวมากกว่า 417 โครงการ ตั้งแต่เกษตรกรรมไปจนถึงการขุด พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และบริการ ทั้งนี้รัฐบาลของทั้งสองประเทศตกลงที่จะแก้ไขข้อบกพร่องทั้งหมดที่ต้องเผชิญกับแผนสำหรับโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เหมือง และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้พวกเขาดำเนินการต่อไปตามที่คาดไว้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten93_Businesses_y22.php

‘พาณิชย์’ เตรียมจัดประชุมรัฐมนตรีการค้า APEC หารือการทำ FTA เอเชียแปซิฟิก 19-22 พ.ค. นี้

กระทรวงพาณิชย์นับถอยหลังเตรียมนำรัฐมนตรีการค้า APEC ระดมความเห็นประเด็นเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาค 19-22 พฤษภาคมนี้ เน้นหารือการทำ FTA เอเชียแปซิฟิก ผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า หนุนการประชุมรัฐมนตรี WTO ทำแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังโควิด

ทั้งนี้ APEC เป็นเวทีที่เน้นการเปิดเสรีทางการค้าและการลดอุปสรรคทางการค้า โดยในปีนี้ไทยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC อีกครั้งในรอบ 20 ปี ซึ่งผลลัพธ์ของการประชุม APEC จะช่วยวางแนวทางฟื้นฟูและกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยภายหลังยุคโควิดอย่างยั่งยืน และตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงทางการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันจะเป็นโอกาสในการแสดงความพร้อมของไทยในการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลกหลังสถานการณ์โควิด

ที่มา : https://thestandard.co/moc-prepare-apec-conference/

สหรัฐผนึกอาเซียน ฟื้นเศรษฐกิจ-พัฒนายั่งยืน

ท่ามกลางวิกฤติซ้ำวิกฤติที่ทุกประเทศเผชิญอยู่ทั้งโรคระบาดโควิด-19 และผลกระทบจากสงคราม ความร่วมมือกันระหว่างประเทศต่างๆ น่าจะเป็นทางออก หรือ บรรเทาผลจากวิกฤติต่างๆ ได้ โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน สหรัฐ ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. 2565 ตามคำเชิญของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 (ASEAN-U.S. Special Summit) ร่วมกับผู้นำอาเซียนชาติต่างๆ ด้าน ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การหารือกับผู้นำและผู้แทนระดับสูงของสหรัฐ เพื่อผลักดันความร่วมมือการขับเคลื่อนการฟื้นฟู และการเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาค รวมทั้งเป็นโอกาสให้พบกับภาคเอกชนสหรัฐเพื่อย้ำความพร้อมของไทยในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจและเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ย้ำความพร้อมของไทยในการเป็นห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็งกับสหรัฐ ด้านสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในด้านเศรษฐกิจ สหรัฐเป็นคู่ค้าสำคัญของประเทศไทย การเดินทางของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติ ได้ทราบถึงแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในอนาคต เพื่อการเป็น Regional Hub ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค รวมถึงโปรโมท โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพิ่มเติม

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/1003673

คาดเศรษฐกิจกัมพูชาปี 2022 โต 5.4%

Vongsey Vissoth รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงเศรษฐกิจการคลังกัมพูชา ได้รายงานถึงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาอยู่ที่ร้อยละ 5.2-5.4 ในปีนี้ ต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 5.6 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งรวมถึงการผลิต การค้า และการบริการ ในขณะที่จำนวนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนก็อยู่ในระดับที่สูง สอดคล้องกับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ที่ได้คาดการณ์ไว้ ณ เดือนเมษายนว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะสูงถึงร้อยละ 5.3 ในปี 2022 เนื่องจากการส่งออกสินค้าที่แข็งแกร่งและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น ในขณะที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.5 ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3 ในปีที่แล้ว และในระยะกลางคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมามีศักยภาพอีกครั้ง โดยอาจจะมีการเติบโตสูงถึงประมาณร้อยละ 6 ในระยะกลาง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501067848/cambodias-2022-economic-growth-estimates-revised-to-5-4-percent/

‘ADB’ คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ โต 6.5%

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชีย ประจำปี 2022 โดยระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปีนี้อยู่ที่ 6.5% และ 6.7% ในปี 2566 ตามอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูง ทั้งนี้ นาย แอนดรูว์ เจฟฟรีส์ ผู้อำนวยการธนาคารเอดีบี กล่าวว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานเวียดนาม การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2564 อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนที่อยู่ในรดับสูง ทำให้กิจกรรมการค้าขายกลับมาดีขึ้น นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเปิดได้อีกครั้งในช่วงกลางเดือนมีนาคมและประกาศยกเลิกการควบคุมเชื้อโรค โดยคาดว่าภาคท่องเที่ยวจะเคิบโตที่ 5.5%

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/adb-forecasts-vietnams-2022-gdp-growth-at-6-5/