“เวียดนาม” จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ กระตุ้นการส่งออกไปยังตลาดสปป.ลาว ไทยและกัมพูชา

สำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนาม (Vietrade) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ผู้เข้าอบรมประกอบด้วยผู้ส่งออกที่สนใจทำตลาดในสปป.ลาวและไทย สำหรับการประชุมดังกล่าวใช้รูปแบบไฮบริคที่จัดขึ้นแบบเสมือนจริงผ่านทาง Zoom ในขณะที่มีอีกงานที่คล้ายคลึงกันที่จะจัดขึ้นในวันถัดไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเวียดนามที่ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังกัมพูชา ทั้งนี้ ตามข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามและสปป.ลาว มีมูลค่าการค้ารวมกันทั้งหมด 708.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ของเวียดนามไปยังตลาดสปป.ลาว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า, ยานยนต์และชิ้นส่วน, เครื่องจักร, ปุ๋ย, พลาสติกและผัก

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังอยู่ใน 10 ประเทศคู่ค้าสำคัญของเวียดนามมานับหลายปี โดยข้อมูลจากศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) ชี้ให้เห็นว่ามูลค่ารวมของประเทศไทยกับเวียดนาม เพิ่มขึ้น 7 เท่าจากในปี 2547 อยู่ที่ 2.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 16.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 ด้วยการเติบโตเฉลี่ยราว 11% ต่อปี

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/consultation-workshops-aim-to-boost-exports-to-laos-thailand-cambodia/231367.vnp

บีโอไอยันลงทุนปี’64 สร้างงาน1.1แสนตำแหน่ง

มีรายงานจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แจ้งว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา บีโอไอ ให้การอนุมัติส่งเสริมการลงทุน จำนวน 1,572 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 511,900 ล้านบาท โดยเป็นการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 768 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 49 ของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น มีมูลค่ารวม 315,620 ล้านบาท การอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ 69 โครงการ เงินลงทุนรวม 60,300 ล้านบาท มีโครงการที่น่าสนใจ เช่น โครงการโปรตีนแอนติเจนและโปรตีนแอนติบอดีตัดแต่งพันธุกรรม โครงการผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบำบัดเพื่อการรักษาโรคในกลุ่ม Car T Cell เป็นต้น พร้อมระบุว่าโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน ช่วยสร้างงาน 113,562 ตำแหน่ง โดยโครงการในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีการจ้างงานเป็นอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 40 ของการจ้างแรงงาน หรือมีการจ้างงานประมาณ 45,081 ตำแหน่ง

ที่มา: https://www.naewna.com/business/661586

ร้านสะดวกซื้อโตรับโควิด ‘เซเว่น’ครองแชมป์สาขาเยอะสุด

นางสาวจริยา ถ้ำตรงกิจกุล หัวหน้าแผนกพื้นที่ค้าปลีก ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านสะดวกซื้อจะยังคงเป็นโมเดลที่ไปได้ดีในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในแง่ของความสะดวก โดยพบว่าร้านสะดวกซื้อที่เห็นอยู่ทั่วทุกหัวมุมถนนที่มีบริการเสริมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าใช้ชีวิตง่ายขึ้น จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (OTCC) ในปี 2564 พบว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี กรุ๊ป) ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด และเป็นเจ้าของทั้ง 7-Eleven ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 73.60% และ Lotus’s Go Fresh (เดิมคือ Tesco Lotus Express) ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 9.45% รองลงมา คือ กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งเป็นเจ้าของ FamilyMart และ Tops Daily ที่มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกัน 4.79% ส่วนที่เหลืออีก 12.16% เป็นของผู้เล่นรายอื่นๆ

ที่มา : https://www.naewna.com/business/661354

EIC ปรับขึ้นจีดีพีปี 65 ขยายตัว 2.9% ต่างชาติเที่ยวไทยหนุนปีนี้ 7.4 ล้านคน

นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2565 ขึ้นเป็น 2.9% จากเดิม 2.7% ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและภาคบริการ ผ่านการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทยและการผ่อนคลายมาตรการผ่านแดนในหลายประเทศทั่วโลก โดย EIC ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 7.4 ล้านคนในปีนี้ (เดิม 5.7 ล้านคน) อีกทั้ง กิจกรรมในภาคบริการในประเทศยังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการกลับออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ตามอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคของภาครัฐ

ที่มา : https://www.businesstoday.co/business/14/06/2022/84717/

แบงก์ชาติยอมรับ อัตราเงินเฟ้อสูง เป็นปัจจัยกดดัน ให้ปรับดอกเบี้ย

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวยอมรับว่า ปัจจัยเศรษฐกิจตอนนี้ ยังมีความไม่แน่นอน (Uncertainty) ทำให้เศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องสร้างกันชน-ภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามปัญหาเงินเฟ้อจากเดิมที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมากจนไม่จำเป็นต้องสนใจเลย แต่หลังเกิดเหตุสงครามยูเครน-รัสเซีย ส่งผลให้พุ่งสูงขึ้นจนเกินเป้า คาดว่าจะถึงจุดสูงสุด(พีค)ในไตรมาส 3 ปีนี้ ทำให้เรื่องเงินเฟ้อเป็นโจทย์สำคัญมากต่อภาวะเศรษฐกิจนี้ ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed จะสะท้อนกับกระทบเงินทุนเคลื่อนย้าย ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยของไทย ควรเป็นแบบไทย ไม่ใช่ตามต่างชาติ ดังนั้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ช้าเกินไปก็ไม่ดี เร็วไปก็ไม่ดี เหมือนการเหยียบคันเร่งกับการแตะเบรก ที่ผ่านมานโยบายการเงินเราผ่อนปรนมากหากเทียบกับภูมิภาค ระยะต่อไปเราจึงต้องค่อยๆถอดคันเร่งแล้ว การขึ้นดอกเบี้ยแม้จะส่งผลกระทบต่อประชาชนก็ต้องดูแล แต่ถ้าไม่ทำอะไรผลกระทบต่อประชาชนจะยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

ที่มา: https://www.naewna.com/business/660091

‘บิ๊กตู่’พร้อมผลักดันไทย เป็นศูนย์สุขภาพด้านทันตกรรม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติด้านทันตกรรม (Dental Hub) โดยจะใช้จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่อง เชื่อมั่นสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการแพทย์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศแล้วยังเพิ่มการจ้างงาน และเชื่อมโยงไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยการเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ และศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เป็น1 ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ของไทยที่มีศักยภาพ (New S-curve) ได้แก่ 1.กลุ่มหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม 2.อุตสาหกรรมการบิน 3.อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 4.อุตสาหกรรมดิจิทัล และ 5.อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร

ที่มา: https://www.naewna.com/business/659829

พลังงานแจง “ราคาน้ำมัน” ไทย-อาเซียน ต่างกัน ยันน้ำมันไทยไม่ได้แพงที่สุด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ “ราคาน้ำมัน” ตลาดโลกยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ราคาพลังงานสูงขึ้นและบางประเทศขาดแคลนพลังงาน ส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยกำชับทุกฝ่ายให้ช่วยกันสร้างการรับรู้ให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องราคาน้ำมันของไทย เน้นย้ำว่า “ราคาน้ำมัน” ไทยไม่ได้แพงที่สุดในอาเซียน และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาพลังงานของประเทศให้ดีที่สุด ในขณะที่กระทรวงพลังงานชี้แจงเสริมว่า ท่ามกลางสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน  เป็นเหตุให้อุปทานพลังงานลดลง ประกอบกับสถานการณ์โควิดในหลายประเทศดีขึ้น ทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาเชื้อเพลิงตลอดจนค่าครองชีพของประชาชนที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก หากเปรียบเทียบราคาน้ำมันของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจะพบว่าจุดที่ทำให้ราคาแตกต่างกันขึ้นกับโครงสร้างน้ำมัน ที่แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/1008983

ดัน “เมตาเวิร์ส” กระตุ้นท่องเที่ยว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดการประชุม ไทยแลนด์ ทัวริซึ่ม คองเกรส 2022 ที่โรงแรมบียอนด์ รีสอร์ท กะตะ จ.ภูเก็ต พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง ยุทธศาสตร์การยกระดับท่องเที่ยวไทยสู่การท่องเที่ยวคุณภาพที่ยั่งยืน ว่า พร้อมรับข้อเสนอของภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ต โดยประเทศไทยขณะนี้ต้องสร้างโครงสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องสร้างสิ่งใหม่ให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น ให้เป็นท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและยั่งยืน โดยขอให้พิจารณานำเทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเมตาเวิร์ส เออาร์ เอ็นเอฟซี บล็อกเชน มาใส่ในการท่องเที่ยว ให้คนต่างชาติได้เที่ยวประเทศไทยในโลกเสมือนจริงแล้วติดใจอยากมาประเทศ

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2412366

ส่งออกไปรัสเซีย เม.ย.ดิ่งหนัก “รถยนต์-ชิ้นส่วน” สูญหลังโดนนานาชาติคว่ำบาตร

นายกิตตินันท์ ยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย เปิดเผยถึงการส่งออกของไทยไปรัสเซียว่า ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ.65 ที่รัสเซียเริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครน จนทำให้นานาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกสินค้าไทยไปรัสเซียหดตัวอย่างรุนแรง โดยเดือน มี.ค.65 มูลค่าส่งออกอยู่ที่ 22.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบถึง 73.02% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.65 มีมูลค่า 207.80 ล้านเหรียญฯ ลดลง 6.56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เดือน เม.ย.65 มูลค่าเหลือเพียง 16.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบหนักถึง 76.77% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปี 65 มูลค่า 224.40 ล้านเหรียญฯ ติดลบเพิ่มขึ้นเป็น 23.64%

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2411480

เอกชนไทย–ลาวเดินหน้าขยายโอกาสการค้า ลงทุน ท่องเที่ยว

ประธานกรรมการหอการค้าไทยเผยเอกชน ไทย-สปป.ลาว เดินหน้าขยายโอกาสการค้า ลงทุน ท่องเที่ยว เสนอรัฐเร่งเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกมิติของ 2 ประเทศ เพื่อให้การค้าการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในอนาคต นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ ฯพณฯ พันคำ  วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2565 ถือเป็นโอกาสที่สำคัญอย่างยิ่งที่ผู้นำของทั้งสองประเทศจะได้กระชับความสัมพันธ์ และร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-สปป.ลาว ให้ก้าวหน้าต่อไป โดยเฉพาะในบริบทการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 และการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบัน

ที่มา : https://tna.mcot.net/business-953320